xs
xsm
sm
md
lg

จิตใจสงบ สมาธิดีขึ้น ด้วยนวัตกรรมสุดเจ๋ง : ดร. ภัครวรรธน์ สิทธิประภาพร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ช่วงนี้กระแสของการรักสุขภาพในประเทศไทยมีเพิ่มมากขึ้นกว่าในอดีต และได้รับการตอบรับจากคนทุกเพศทุกวัยด้วยการเริ่มหันมาใส่ใจกับสุขภาพและการออกกำลังกายกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการฝึกโยคะหรือชี่กง เป็นต้น หลายคนคงเคยมีโอกาสฝึกทั้งโยคะและชี่กงมาบ้างแล้ว ซึ่งไม่ว่าการออกกำลังกายประเภทไหนก็ตาม มักที่จะกล่าวถึงประโยชน์ของการฝึกที่ทำให้เกิดการเพิ่มสมาธิได้ด้วย

แต่ประเด็นที่สำคัญก็คือ แล้วเราจะสามารถทราบได้อย่างไรว่า ในขณะหรือภายหลังจากการออกกำลังกายดังกล่าวนั้นแล้วมีสมาธิที่ดีขึ้น หรือในขณะที่ออกกำลังกายนั้นสภาวะจิตใจและสมาธิมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร

ปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาและคิดค้นเทคโนโลยีที่สามารถฝึกการควบคุมจิตใจขึ้น และยังสามารถเพิ่มสมาธิให้กับบุคคลทุกเพศทุกวัยและทุกระดับชั้นได้ ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำทำงานง่ายและให้ผลลัพธ์และประสิทธิภาพที่ชัดเจน ทำให้สามารถตอบโจทย์สำหรับคนรักสุขภาพและคนที่ต้องทำงานด้วยการใช้สมาธิ หรือต้องการฝึกสมาธิให้มีผลปละประสิทธิภาพในการทำงานด้านต่างๆ ที่ต้องการมากยิ่งๆ ขึ้นไป ก็สามารถนำอุปกรณ์ที่ผลิตจากเทคโนโลยีนี้ไปใช้ได้ ซึ่งเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยจริงๆ และไม่เป็นอันตรายต่อสมองของผู้ใช้อีกด้วย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภัครวรรธน์ สิทธิประภาพร นักประสาทวิทยาศาสตร์และอาจารย์ประจำสำนักวิชาเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กรุงเทพฯ กล่าวว่า ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ได้คิดค้นนวัตกรรมที่ช่วยให้เราสามารถรับรู้ถึงสภาวะจิตใจของเราได้ และยังรวมไปถึงทำให้เราสามารถทราบถึงการเปลี่ยนแปลงของสมาธิที่เกิดขึ้นได้ นวัตกรรมที่พูดถึงนี้มีชื่อเรียกว่า “Mind Lamp”

อุปกรณ์นี้สามารถนำมาใช้ประกอบกิจกรรมต่างๆ เพื่อช่วยในการเพิ่มสมาธิหรือเพิ่มความสามารถของการจดจ่อ (attention) และคงสภาพการจดจ่อ (attention) ให้ได้นานมากขึ้น หลักการง่ายๆ ในการใช้งานอุปกรณ์ที่พัฒนาขึ้นนี้ โดยผู้ใช้จะต้องสวมอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับรับสัญญาณคลื่นสมอง (brainwave) ของผู้ใช้ ซึ่งจะรับสัญญาณคลื่นสมอง (brainwave) ชนิดเบตา (beta wave) และชนิดอัลฟา (alpha wave) มาขยายสัญญาณ และคำนวณระดับของความจดจ่อ (attention)

จากนั้นก็แสดงค่าผ่านโปรแกรมแสดงระดับสมาธิการจดจ่อ (attention) ด้วยการปรับเปลี่ยนเป็นสีต่างๆ ผ่านหลอด LED ที่ติดตั้งภายในอุกปกรณ์ ซึ่ง LED ที่ปรับเปลี่ยนเป็นสีต่างๆ นี้จะแสดงถึงสภาวะจิตใจ ก็จะสามารถรู้ได้ว่าในขณะเวลานั้นๆ ตนเองมีสภาวะจิตใจเป็นอย่างไรและมีสมาธิหรือไม่ เมื่อผู้ใช้ได้ฝึกฝนและและพยายามรักษาสภาวะจดจ่อ ทำให้สมาธิจดจ่อ เมื่อฝึกได้ในระดับหนึ่งแล้วจะสามารถควบคุมจัดการสมาธิได้ดีขึ้น ทำให้คลื่นสมองส่วนสมาธิเพิ่มขึ้นมาก ส่งผลให้มีสมาธิและความจำที่ดีขึ้นตามลำดับสีต่างๆ ที่แสดงผ่าน LED ได้มีการกำหนดไว้ดังนี้

สีแดง แสดงถึง ไม่มีสมาธิจดจ่อและมีความวิตกกังวล
สีเหลือง แสดงถึง การมีความวิตกกังวลเล็กน้อย
สีเขียว แสดงถึง สภาวะจิตใจและอารมณ์ที่เป็นปกติ
สีฟ้า แสดงถึง สภาวะจิตใจที่เกิดการผ่อนคลาย
สีม่วง แสดงถึง การมีสมาธิที่จดจ่อและมีความรู้สึกที่ผ่อยคลายอย่างมาก

“Mind Lamp” เป็นอุปกรณ์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อสมองของผู้ใช้ เพราะตามหลักการจะใช้การรับคลื่นจากสมองส่วนของสมาธิมาแสดงผลด้วยสีต่างๆ ดังกล่าวข้างต้นทางหลอด LED ที่ติดตั้งภายในอุปกรณ์เท่านั้น ไม่ได้มีการส่งคลื่นอะไรเข้าไปในสมองของผู้ใช้แต่ประการใด

ดังนั้น “Mind Lamp” จึงใช้เป็นอุปกรณ์เสริมในกิจกรรมต่างๆ ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมจิตใจและการฝึกสมาธิได้เท่านั้น ในทางวิทยาศาสตร์เรียกว่า“นวัตกรรมระบบฝึกฝนสัญญาณคลื่นสมองแบบป้อนกลับ” หรือ Neuro Feedback Theory ที่นักวิทยาศาสตร์ได้นำมาใช้อุปกรณ์ดังกล่าวมาประกอบใช้ในการฝึกควบคุมจิตใจและเสริมสร้างสมาธิเพื่อการผ่อนคลาย ที่ออกแบบมาสำหรับทุกเพศทุกวัยโดยเฉพาะเพื่อเพิ่มสมาธิให้มากขึ้น โดยใช้สัญญาณจากคลื่นสมองส่งผ่านอุปกรณ์รับสัญญาณที่สวมบนศีรษะ แล้วแปลงสัญญาณเพื่อใช้บ่งบอกสภาวะจิตใจ เมื่อฝึกฝนได้อย่างดี จะมีสมาธิและความจำที่ดีขึ้น

ต่อมา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภัครวรรธน์ สิทธิประภาพร ได้นำนวัตกรรมดังกล่าวมาต่อยอดและพัฒนาแบบฝึกในรูปแบบกิจกรรมต่างๆ ที่ช่วยเสริมสร้างสมาธิที่เกิดจากการทำงานประสานกันระหว่าง จิตใจ (mind) และสมอง (brain) หรือ “mind-brain connection” ในรูปแบบต่างๆ ตามประเภทของกิจกรรมและผ่านรูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่ทันสมัย ให้ทุกกลุ่มและทุกเพศทุกวัย ได้สามารถใช้นวัตกรรมดังกล่าวนี้เพื่อฝึกเสริมสร้างสมาธิและการผ่อนคลายได้อย่างเพลิดเพลิน ภายใต้แนวคิด Mind + Brain = myBrainsciences เช่น

หลักสูตร myBrainsciences: Mind - Brain Yoga Classroom
หลักสูตร myBrainsciences: Mind - Brain Qigong Classroom
หลักสูตร myBrainsciences: Mind - Brain Exercise Classroom
หลักสูตร myBrainsciences: Mind - Golf Training Classroom

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภัครวรรธน์ กล่าวอีกว่า หลายคนคงเคยเห็นผลิตภัณฑ์หนึ่งที่ใช้วิธีการสแกนลายนิ้วมือเด็กแล้วประมวลผลด้วย personality assessment เพื่อบ่งบอกบุคลิกภาพ (personality) ของเด็กว่าเด็กคนนั้นควรที่จะได้รับการส่งเสริมการเลี้ยงดูและการเรียนเขาอย่างไร แล้วใช่ไหมครับ จากผลิตภัณฑ์ที่ว่านี้ ใช้หลักสถิติและลายพิมพ์บนนิ้วมือเด็กมาประมวลผล

ในปัจจุบันได้มีนวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนาขึ้น ด้วยวิธีการวัดเอาความคิด หรือ คลื่นสมอง (brainwave) ออกมาแล้วประมวลผลของทั้งหลักสถิติและแบบวัดบุคลิกภาพของ Myer’s-Briggs Personality Test Archetypes ที่นักจิตวิทยาทั่วโลกใช้กัน แล้วประมวลผลออกมาเพื่อบอกว่า คนๆ นั้นมีบุคลิกภาพเป็นอย่างไร ผลิตภัณฑ์นี้ชื่อว่า “Brainwave Personality Test” ซึ่งจัดได้ว่าเป็นนวัตกรรมที่เหมาะสำหรับองค์กรที่ฝ่ายบุคคลทำหน้าที่สัมภาษณ์บุคลากรและรับเข้าทำงาน ตลอดจนและโรงเรียนต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางในการสอนและส่งเสริมพัฒนาการได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากนวัตกรรมใหม่ๆที่นักวิทยาศาสตร์ได้คิดค้นขึ้น เพื่อให้สามารถนำไปใช้ได้ทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสมองและความจำ เช่น ผู้สูงอายุ เป็นต้น

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรมจาก มาย เบรน ซายด์ ได้ทางwww.mybrainsciences.com และ email: mybrainsciences@gmail.com หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 097-131-7997 หรือเข้าไปที่www.facebook.com/mybrainsciences
เรื่อง : อรวรรณ เหม่นแหลม

กำลังโหลดความคิดเห็น