ร่างกายต้องการไอโอดีนแค่เพียงเล็กน้อยต่อหนึ่งวันก็จริง แต่ก็ใช่ว่าจะละเลยได้ เพราะไอโอดีน เป็นสารอาหารตัวหนึ่งที่มีผลโดยตรงกับการเจริญเติบโตของสมองทารกในท้องแม่!!!
ไอโอดีน มาจากไหน?
ไอโอดีนเป็นแร่ธาตุในธรรมชาติ พบมากในสัตว์และพืชทะเล เช่น กุ้งทะเล หอยทะเล ปูทะเล ปลาทะเล และสาหร่ายทะเล เป็นต้น นอกจากอาหารทะเลแล้ว อาหารอื่นๆ ในธรรมชาติก็มีไอโอดีนอยู่เหมือนกัน แต่ในปริมาณไม่มาก ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกกฎกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว กำหนดให้ เกลือบริโภค น้ำปลา น้ำเกลือปรุงรส และผลิตภัณฑ์ปรุงรสที่ได้จากการย่อยโปรตีนของถั่วเหลือง ต้องเติมสารไอโอดีน โดยในเกลือเสริมไอโอดีนต้องมีไอโอดีนไม่น้อยกว่า 20 มิลลิกรัม และไม่เกิน 40 มิลลิกรัม ในเกลือ 1 กิโลกรัม ส่วนในน้ำปลา น้ำเกลือปรุงรส และซีอิ้ว ต้องมีปริมาณไอโอดีนไม่น้อยกว่า 2 มิลลิกรัมและไม่เกิน 3 มิลลิกรัม ต่อ น้ำปลา น้ำเกลือปรุงรส และซีอิ้ว 1 ลิตร
ในโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีการเสริมไอโอดีนในน้ำดื่มโรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดนสำหรับเด็กนักเรียน สำหรับพื้นที่ห่างไกลที่ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์เสริมไอโอดีนได้
ทารกขาดไอโอดีน เสี่ยงไอคิวลด!
ข้อมูลจากการสำรวจไอคิวเด็กไทย ปี 2557 ของกรมสุขภาพจิต พบระดับไอคิวเด็กไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 93.1 จุด ลดลงจากปี 2554 ซึ่งอยู่ที่ 94 จุด ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำ โดยไอคิวเฉลี่ยมาตรฐานสากลคือ 90 - 110 จุด หนึ่งในสาเหตุของการมีไอคิวต่ำก็คือ การขาดสารไอโอดีนตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ซึ่งนับเป็นสาเหตุหลักของการบกพร่องทางสติปัญญาที่สามารถป้องกันได้ และนับเป็นปัญหาในระดับสากล
ปริมาณไอโอดีนที่ควรได้รับต่อวัน ของแต่ละช่วงวัย (ไมโครกรัม)
อาการขาดไอโอดีน
เด็กแรกเกิด : พัฒนาการสมองผิดปกติ ทำให้เกิดภาวะปัญญาอ่อน
เด็ก : เชื่องช้า และเชาว์ปัญญาต่ำ
ฉะนั้น การขาดไอโอดีนจึงไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ของสังคมอีกต่อไป กลุ่มที่เสี่ยง และต้องใส่ใจต่อการขาดสารไอโอดีนมากที่สุดคือ ทารกในท้องแม่ จำเป็นต้องได้รับสารไอโอดีนอย่างพอเพียงตลอด 9 เดือนในท้อง ต่อเนื่องจนถึงคลอดออกมาให้นมแม่ 6 เดือนหลังคลอดด้วย แม่ตั้งท้องต้องการไอโอดีนมากกว่าคนปกติ คือ 250 ไมโครกรัม/วัน (คนปกติต้องการวันละ 150 ไมโครกรัม/วัน) ลำพังแค่การกินอาหารที่ใช้เกลือเสริมไอโอดีน น้ำปลาเสริมไอโอดีน หรือผลิตภัณฑ์ปรุงรสเค็มอื่นที่เสริมไอโอดีนปรุงประกอบอาหารหรืออาหารทะเลนั้น ไม่เพียงพอต่อวันอย่างแน่นอน บรรดาแม่ๆ เลยจำเป็นต้องกิน ยาเม็ดเสริมไอโอดีน วันละ 1 เม็ด ทุกวัน ในระหว่างท้องและหลังคลอดในช่วงให้นมลูก 6 เดือนแรก เพื่อให้ลูกได้รับไอโอดีนอย่างพอเพียงไปสร้างไธรอยด์ฮอร์โมน
ไธรอยด์ฮอร์โมนนั้นมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการเจริญเติบโตของร่างกายและสมอง เมื่อไรที่แม่ขาดไอโอดีนจะมีผลเสียกับระบบประสาทและสมองของทารกอย่างแน่นอน และหากขาดอย่างรุนแรงลูกอาจเป็น “เอ๋อ”
ไอโอดีนที่ไม่เพียงพอจะทำให้เซลล์สมองเกิดขึ้นน้อยและไม่หนาแน่น ซึ่งจะเกิดผลกระทบต่อระบบสมองและประสาทไปตลอดชีวิต โรคเอ๋อนั้นหากเป็นแล้ว รักษาไม่ได้ และอาจมีอาการร่วมด้วยคือ เป็นใบ้ หูหนวก และกล้ามเนื้อทำงานผิดปกติ แม่ที่ละเลยการกินยาเม็ดเสริมไอโอดีนที่ได้รับแจกตอนไปฝากท้อง คือตัวแปรสำคัญในการสกัดกั้นไอคิวของลูกน้อยในท้อง
(ที่มา : Legrand J. Variations, as a function of age, of the response of the cerebellum to the morphogenetic action of the thyroid in rats. Arch Anat Microsc Morphol Exp. 1967 Jul-Dec;56Z3X:291-307)
ผลการศึกษาในหลายประเทศ พบว่าการขาดไอโอดีนในระดับเล็กน้อยอาจไม่ทำให้เกิดความผิดปกติอย่างชัดเจน แต่ยังคงมีผลกระทบต่อระดับไอคิวของทารกตั้งแต่แรกเกิดถึงอายุ 2 -3 ปี ถ้าขาดไอโอดีนจะมีไอคิวต่ำกว่าที่ควรจะเป็นตามศักยภาพถึง 10 – 15 จุด
(ที่มา: นพ.อิริค อาร์ แคนเดิล จิตแพทย์รางวัลโนเบล ปี 2553)
_______________________
ตัวอย่างแหล่งอาหารที่มีไอโอดีน
*ข้อมูลจากตารางแสดงคุณค่าอาหารไทยพ.ศ. 2544 กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
ไม่อยากให้ลูกไอคิวต่ำ แม่ต้องกินยาเม็ดเสริมไอโอดีนวันละ 1 เม็ด ทุกวัน เพราะสมองดี เริ่มที่ไอโอดีน
ไอโอดีน มาจากไหน?
ไอโอดีนเป็นแร่ธาตุในธรรมชาติ พบมากในสัตว์และพืชทะเล เช่น กุ้งทะเล หอยทะเล ปูทะเล ปลาทะเล และสาหร่ายทะเล เป็นต้น นอกจากอาหารทะเลแล้ว อาหารอื่นๆ ในธรรมชาติก็มีไอโอดีนอยู่เหมือนกัน แต่ในปริมาณไม่มาก ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกกฎกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว กำหนดให้ เกลือบริโภค น้ำปลา น้ำเกลือปรุงรส และผลิตภัณฑ์ปรุงรสที่ได้จากการย่อยโปรตีนของถั่วเหลือง ต้องเติมสารไอโอดีน โดยในเกลือเสริมไอโอดีนต้องมีไอโอดีนไม่น้อยกว่า 20 มิลลิกรัม และไม่เกิน 40 มิลลิกรัม ในเกลือ 1 กิโลกรัม ส่วนในน้ำปลา น้ำเกลือปรุงรส และซีอิ้ว ต้องมีปริมาณไอโอดีนไม่น้อยกว่า 2 มิลลิกรัมและไม่เกิน 3 มิลลิกรัม ต่อ น้ำปลา น้ำเกลือปรุงรส และซีอิ้ว 1 ลิตร
ในโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีการเสริมไอโอดีนในน้ำดื่มโรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดนสำหรับเด็กนักเรียน สำหรับพื้นที่ห่างไกลที่ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์เสริมไอโอดีนได้
ทารกขาดไอโอดีน เสี่ยงไอคิวลด!
ข้อมูลจากการสำรวจไอคิวเด็กไทย ปี 2557 ของกรมสุขภาพจิต พบระดับไอคิวเด็กไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 93.1 จุด ลดลงจากปี 2554 ซึ่งอยู่ที่ 94 จุด ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำ โดยไอคิวเฉลี่ยมาตรฐานสากลคือ 90 - 110 จุด หนึ่งในสาเหตุของการมีไอคิวต่ำก็คือ การขาดสารไอโอดีนตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ซึ่งนับเป็นสาเหตุหลักของการบกพร่องทางสติปัญญาที่สามารถป้องกันได้ และนับเป็นปัญหาในระดับสากล
ปริมาณไอโอดีนที่ควรได้รับต่อวัน ของแต่ละช่วงวัย (ไมโครกรัม)
อาการขาดไอโอดีน
เด็กแรกเกิด : พัฒนาการสมองผิดปกติ ทำให้เกิดภาวะปัญญาอ่อน
เด็ก : เชื่องช้า และเชาว์ปัญญาต่ำ
ฉะนั้น การขาดไอโอดีนจึงไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ของสังคมอีกต่อไป กลุ่มที่เสี่ยง และต้องใส่ใจต่อการขาดสารไอโอดีนมากที่สุดคือ ทารกในท้องแม่ จำเป็นต้องได้รับสารไอโอดีนอย่างพอเพียงตลอด 9 เดือนในท้อง ต่อเนื่องจนถึงคลอดออกมาให้นมแม่ 6 เดือนหลังคลอดด้วย แม่ตั้งท้องต้องการไอโอดีนมากกว่าคนปกติ คือ 250 ไมโครกรัม/วัน (คนปกติต้องการวันละ 150 ไมโครกรัม/วัน) ลำพังแค่การกินอาหารที่ใช้เกลือเสริมไอโอดีน น้ำปลาเสริมไอโอดีน หรือผลิตภัณฑ์ปรุงรสเค็มอื่นที่เสริมไอโอดีนปรุงประกอบอาหารหรืออาหารทะเลนั้น ไม่เพียงพอต่อวันอย่างแน่นอน บรรดาแม่ๆ เลยจำเป็นต้องกิน ยาเม็ดเสริมไอโอดีน วันละ 1 เม็ด ทุกวัน ในระหว่างท้องและหลังคลอดในช่วงให้นมลูก 6 เดือนแรก เพื่อให้ลูกได้รับไอโอดีนอย่างพอเพียงไปสร้างไธรอยด์ฮอร์โมน
ไธรอยด์ฮอร์โมนนั้นมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการเจริญเติบโตของร่างกายและสมอง เมื่อไรที่แม่ขาดไอโอดีนจะมีผลเสียกับระบบประสาทและสมองของทารกอย่างแน่นอน และหากขาดอย่างรุนแรงลูกอาจเป็น “เอ๋อ”
ไอโอดีนที่ไม่เพียงพอจะทำให้เซลล์สมองเกิดขึ้นน้อยและไม่หนาแน่น ซึ่งจะเกิดผลกระทบต่อระบบสมองและประสาทไปตลอดชีวิต โรคเอ๋อนั้นหากเป็นแล้ว รักษาไม่ได้ และอาจมีอาการร่วมด้วยคือ เป็นใบ้ หูหนวก และกล้ามเนื้อทำงานผิดปกติ แม่ที่ละเลยการกินยาเม็ดเสริมไอโอดีนที่ได้รับแจกตอนไปฝากท้อง คือตัวแปรสำคัญในการสกัดกั้นไอคิวของลูกน้อยในท้อง
(ที่มา : Legrand J. Variations, as a function of age, of the response of the cerebellum to the morphogenetic action of the thyroid in rats. Arch Anat Microsc Morphol Exp. 1967 Jul-Dec;56Z3X:291-307)
ผลการศึกษาในหลายประเทศ พบว่าการขาดไอโอดีนในระดับเล็กน้อยอาจไม่ทำให้เกิดความผิดปกติอย่างชัดเจน แต่ยังคงมีผลกระทบต่อระดับไอคิวของทารกตั้งแต่แรกเกิดถึงอายุ 2 -3 ปี ถ้าขาดไอโอดีนจะมีไอคิวต่ำกว่าที่ควรจะเป็นตามศักยภาพถึง 10 – 15 จุด
(ที่มา: นพ.อิริค อาร์ แคนเดิล จิตแพทย์รางวัลโนเบล ปี 2553)
_______________________
ตัวอย่างแหล่งอาหารที่มีไอโอดีน
*ข้อมูลจากตารางแสดงคุณค่าอาหารไทยพ.ศ. 2544 กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
ไม่อยากให้ลูกไอคิวต่ำ แม่ต้องกินยาเม็ดเสริมไอโอดีนวันละ 1 เม็ด ทุกวัน เพราะสมองดี เริ่มที่ไอโอดีน