รื้อระบบอนามัยแม่และเด็กใหม่ ปฏิรูประบบบริการ 9 เรื่อง ปั้นเด็กไทยเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีคุณภาพในอีก 20 ปีข้างหน้า ลดปัญหาพัฒนาการไม่สมวัย หลังพบปี 2557 ยังเจอปัญหาอีก 27% หรือ 1 ล้านกว่าคน
วันนี้ (28 ม.ค.) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชัน ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเปิดงานสัมมนาวิชาการอนามัยแม่และเด็กครั้งที่ 7 หัวข้อ “กลไกการขับเคลื่อนงานพัฒนาระบบบริการงานอนามัยแม่และเด็ก (MCH Board)” ว่า ผลการสำรวจพัฒนาการเด็กอายุ 0-5 ปี ในปี 2557 ของกรมอนามัยพบว่า มีพัฒนาการไม่สมวัยร้อยละ 27 หรือประมาณ 1 ล้านกว่าคน เป็นเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไข เพราะมีหลักฐานทางวิชาการชี้ชัดว่า เด็กวัยนี้มีความสำคัญที่สุดต่อพัฒนาการด้านสมอง สายตา การควบคุมอารมณ์ ทักษะด้านภาษาและสังคม ซึ่งจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพดี
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการเลี้ยงดู พ่อแม่ขาดทักษะการเลี้ยงดู ผู้เลี้ยงดูหลักมีน้อยมาก ส่วนใหญ่ฝากให้ปู่ย่าตายาย เลี้ยง มักปล่อยให้เด็กดูนิทานจากทีวีมากกว่าการฟังการเล่าสดจากพ่อแม่ มีคลินิกกระตุ้นพัฒนาการเด็กล่าช้ายังไม่เพียงพอในโรงพยาบาลชุมชน มีเพียงร้อยละ 67 เท่านั้น พี่เลี้ยงในศูนย์เด็กเล็กขาดความรู้ ทักษะที่จำเป็น อีกส่วนหนึ่งมาจากปัญหาสุขภาพที่มีผลต่อพัฒนาการเด็ก เช่น ขาดออกซิเจนเมื่อแรกเกิดพบร้อยละ 3 น้ำหนักตัวน้อยกว่า 2,500 กรัม ร้อยละ 8 ติดเชื้อเอชไอวี จากแม่มีร้อยละ 6 รวมทั้งอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนยังน้อยเพียงร้อยละ 55 จึงต้องเร่งแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่กล่าวมาอย่างเป็นระบบ
“ในปี 2558 สธ. ได้ทำโครงการแม่ลูกสุขภาพดีทุกชีวีมีสุข เพื่อพัฒนาระบบบริการงานอนามัยแม่และเด็กให้เป็นบริการสุขภาพพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาคุณภาพประชากรไทย เริ่มตั้งแต่การดูแลครรภ์ จนถึงหลังคลอด 5 ปี เพื่อให้เด็กเจริญเติบโต มีพัฒนาการสมวัย โดยจะพัมนาเด็กไทยใน 20 ปีข้างหน้าให้เป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแรง พัฒนาการดี มีคุณธรรม สร้างศักยภาพการแข่งขันกับสากลได้” รมว.สาธารณสุข กล่าว
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ทั้งนี้ จะพัฒนาบริการทั้งหมด 9 เรื่อง ได้แก่ 1. สร้างพ่อแม่คุณภาพ เข้ารับบริการตรวจสุขภาพก่อนและหลังมีบุตร เพิ่มความรู้ตามมาตรฐานโรงเรียนพ่อแม่ 2. ให้บริการฝากท้องทุกที่ฟรีทุกสิทธิ์ 3. สร้างเด็กปลอดโรคพันธุกรรมและโรคติดเชื้อ คือ โรคธาลัสซีเมีย โรคเอดส์ และ โรคขาดสารไอโอดีน โดยตรวจเลือดขณะแม่ตั้งครรภ์ ให้แม่กินยาเสริมไอโอดีนและวิตามินเสริมธาตุเหล็กตามสิทธิประโยชน์ 4. สร้างภูมิต้านทานทางสังคมแก่เด็ก ผ่านการเลี้ยงดูของพ่อแม่ ได้กินนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดและอาหารตามวัย
5. สร้างเด็กฉลาดทางปัญญาและอารมณ์ ด้วยการเลี้ยงดูที่ถูกต้องเหมาะสมจากพ่อแม่ ผ่านกระบวนการกิน กอด เล่น เล่า 6. เด็กทุกคนได้รับการเฝ้าระวัง คัดกรอง และส่งเสริมพัฒนาการ หากพัฒนาการล่าช้าได้รับการแก้ไข 7. เด็กได้รับการฝึกทักษะชีวิต ผ่านการจัดกิจกรรมในคลินิกเด็กดี และ ศูนย์เด็กเล็ก 8. สตรีและเด็กได้รับบริการคุณภาพ และ 9. ชุมชนท้องถิ่นร่วมสร้างเด็กไทยแข็งแรง พัฒนาการดี มีคุณธรรม ด้วยการจัดทำแผนพัฒนาตำบล 6,000 แห่ง เป็นตำบลพัฒนาการเด็กดีเริ่มที่นมแม่ โดยทั้งหมดถือว่าเป็นการปฏิรูประบบอนามัยแม่และเด็กครั้งใหญ่ของประเทศไทย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (28 ม.ค.) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชัน ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเปิดงานสัมมนาวิชาการอนามัยแม่และเด็กครั้งที่ 7 หัวข้อ “กลไกการขับเคลื่อนงานพัฒนาระบบบริการงานอนามัยแม่และเด็ก (MCH Board)” ว่า ผลการสำรวจพัฒนาการเด็กอายุ 0-5 ปี ในปี 2557 ของกรมอนามัยพบว่า มีพัฒนาการไม่สมวัยร้อยละ 27 หรือประมาณ 1 ล้านกว่าคน เป็นเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไข เพราะมีหลักฐานทางวิชาการชี้ชัดว่า เด็กวัยนี้มีความสำคัญที่สุดต่อพัฒนาการด้านสมอง สายตา การควบคุมอารมณ์ ทักษะด้านภาษาและสังคม ซึ่งจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพดี
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการเลี้ยงดู พ่อแม่ขาดทักษะการเลี้ยงดู ผู้เลี้ยงดูหลักมีน้อยมาก ส่วนใหญ่ฝากให้ปู่ย่าตายาย เลี้ยง มักปล่อยให้เด็กดูนิทานจากทีวีมากกว่าการฟังการเล่าสดจากพ่อแม่ มีคลินิกกระตุ้นพัฒนาการเด็กล่าช้ายังไม่เพียงพอในโรงพยาบาลชุมชน มีเพียงร้อยละ 67 เท่านั้น พี่เลี้ยงในศูนย์เด็กเล็กขาดความรู้ ทักษะที่จำเป็น อีกส่วนหนึ่งมาจากปัญหาสุขภาพที่มีผลต่อพัฒนาการเด็ก เช่น ขาดออกซิเจนเมื่อแรกเกิดพบร้อยละ 3 น้ำหนักตัวน้อยกว่า 2,500 กรัม ร้อยละ 8 ติดเชื้อเอชไอวี จากแม่มีร้อยละ 6 รวมทั้งอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนยังน้อยเพียงร้อยละ 55 จึงต้องเร่งแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่กล่าวมาอย่างเป็นระบบ
“ในปี 2558 สธ. ได้ทำโครงการแม่ลูกสุขภาพดีทุกชีวีมีสุข เพื่อพัฒนาระบบบริการงานอนามัยแม่และเด็กให้เป็นบริการสุขภาพพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาคุณภาพประชากรไทย เริ่มตั้งแต่การดูแลครรภ์ จนถึงหลังคลอด 5 ปี เพื่อให้เด็กเจริญเติบโต มีพัฒนาการสมวัย โดยจะพัมนาเด็กไทยใน 20 ปีข้างหน้าให้เป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแรง พัฒนาการดี มีคุณธรรม สร้างศักยภาพการแข่งขันกับสากลได้” รมว.สาธารณสุข กล่าว
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ทั้งนี้ จะพัฒนาบริการทั้งหมด 9 เรื่อง ได้แก่ 1. สร้างพ่อแม่คุณภาพ เข้ารับบริการตรวจสุขภาพก่อนและหลังมีบุตร เพิ่มความรู้ตามมาตรฐานโรงเรียนพ่อแม่ 2. ให้บริการฝากท้องทุกที่ฟรีทุกสิทธิ์ 3. สร้างเด็กปลอดโรคพันธุกรรมและโรคติดเชื้อ คือ โรคธาลัสซีเมีย โรคเอดส์ และ โรคขาดสารไอโอดีน โดยตรวจเลือดขณะแม่ตั้งครรภ์ ให้แม่กินยาเสริมไอโอดีนและวิตามินเสริมธาตุเหล็กตามสิทธิประโยชน์ 4. สร้างภูมิต้านทานทางสังคมแก่เด็ก ผ่านการเลี้ยงดูของพ่อแม่ ได้กินนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดและอาหารตามวัย
5. สร้างเด็กฉลาดทางปัญญาและอารมณ์ ด้วยการเลี้ยงดูที่ถูกต้องเหมาะสมจากพ่อแม่ ผ่านกระบวนการกิน กอด เล่น เล่า 6. เด็กทุกคนได้รับการเฝ้าระวัง คัดกรอง และส่งเสริมพัฒนาการ หากพัฒนาการล่าช้าได้รับการแก้ไข 7. เด็กได้รับการฝึกทักษะชีวิต ผ่านการจัดกิจกรรมในคลินิกเด็กดี และ ศูนย์เด็กเล็ก 8. สตรีและเด็กได้รับบริการคุณภาพ และ 9. ชุมชนท้องถิ่นร่วมสร้างเด็กไทยแข็งแรง พัฒนาการดี มีคุณธรรม ด้วยการจัดทำแผนพัฒนาตำบล 6,000 แห่ง เป็นตำบลพัฒนาการเด็กดีเริ่มที่นมแม่ โดยทั้งหมดถือว่าเป็นการปฏิรูประบบอนามัยแม่และเด็กครั้งใหญ่ของประเทศไทย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
