อยากมีผิวพรรณอันเยาว์วัย ไปซูเปอร์มาเก็ตก็ได้นะ เพราะจากการวิจัยหลายแห่ง สรุปผลออกมาว่า การกินอาหารที่ถูกต้องจะช่วยฟาดฟันต่อต้านความแก่ชรา รวมทั้งโรคที่เกี่ยวพันกับวัยที่เพิ่มขึ้น เช่น อัลไซเมอร์ มะเร็ง และโรคหัวใจ ดังนั้น ให้สะสมอาหารชะลอความแก่ต่อไปนี้เอาไว้
1.ถั่วแดง

แล้วคุณจะทึ่ง เพราะผลการจัดอันดับจากกระทรวงเกษตรสหรัฐ ถั่วแดงติดอันดับสามในบรรดาแอนติออกซิแดนท์ 100 รายการ มากไปด้วยโปรตีนที่ช่วยซ่อมแซมร่างกาย ธาตุเหล็กกระตุ้นพลังงาน วิตามินบี แมกนีเซียม และกากใยช่วยลดคอเลสเตอรอล ให้ใส่ถั่วแดงต้มในสลัดดูเหมือนเป็นทางเลือกที่ง่ายสุดสำหรับคนขี้เกียจทำกับข้าว
2.บลูเบอร์รี

มีพลังแอนติออกซิแดนท์มากมาย กระตุ้นความกระตือรือร้น สูตรแนะนำง่ายๆ คือ โรยบลูเบอร์รี 1 กำมือใส่พอริดจ์โอ๊ต เอาปั่นกับสมูตตี้ หรือทำเป็นพุดดิ้งสุดอร่อย
3.ผักขม

ผักขมเป็นตัวต้านความชราที่ดีที่สุดเพราะมีแอนติออกซิแดนท์ลูทินและเซซานทินเพียบ จากการศึกษาพบว่าการกินผักใบเขียวมากๆ จะช่วยต่อสู้กับอาการสายตาที่แย่ลงได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ 60 ปีไปแล้ว ให้ใส่สลัด ผัดผัก นึ่งเสิร์ฟกับแซลมอน ก็ได้
4.แอปเปิ้ล

มากไปด้วยเกอซิตินซึ่งเป็นแอนติออกซิแดนท์ต่อต้านอาการอักเสบ ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่อยู่ในร่างกาย การศึกษายังกล่าวถึงการกินแอปเปิ้ลประจำวันนั้นช่วยให้ปอดแข็งแรงและลดความเสี่ยงกับการเป็นโรคหอบหืด แอปเปิ้ลยังมีแพคตินซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายอีกด้วย ลองนำแอปเปิ้ลติดตัวไปไหนมาไหนด้วยเสมอ
5.ขนมปังโฮลเกรน

ขนมปังประจำวันคุณมีกากใยช่วยในการขับถ่ายเป็นประจำ มีไฟโตเคมิเคิลไลนัน(ทำหน้าที่เป็นแอนติออกซิแดนท์ซึ่งอาจส่งผลต้านมะเร็ง) มีวิตะมินบีให้พลังงานและแมกนีเซียมกับแอนติออกซิแดนท์เซเลเนียม ขนมปังโฮลเกรนสามแผ่นต่อวันสามารถลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็ง โรคหัวใจและเบาหวานชนิด 2 ลงไปได้สามเท่า แค่ปิ้งกินเป็นอาหารเช้า ทำแซนวิชเป็นอาหารกลางวัน หรือโปะด้วยมะเขือเทศกระป๋องและซาร์ดีนเป็นอาหารค่ำมื้อเบาๆ
6.แซลมอน

เพียบไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 แซลมอนส่งผลมหัศจรรย์กับผิวพรรณ จากการศึกษาอย่างต่อเนื่องของศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยลิเวอร์พูลพบว่าช่วยปกป้องผิว และเนื้อเยื่อภายใต้ผิวต่อการทำลายจากแสงแดด (แต่ยังต้องใช้ซันสครีนอยู่) ย่าง หรืออบ หรือบาร์บีคิวกับน้ำมะนาวสดและพริกไทยดำ
7.แครอท

เพียบไปด้วยเบต้าแคโรทีนแอนติออกซิแดนท์ จากการศึกษาพบว่าเคี้ยวแครอทเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งและทำให้ดวงตามีสุขภาพดีอีกด้วย เบต้าแคโรทีนดูดซึมได้ดีเมื่อกินกับไขมันเล็กน้อย ทำอาหารมื้อที่มีแครอทปรุงผสมอยู่ หรือกินเป็นของว่างก็ได้
8.เมล็ดทานตะวัน

เพียบไปด้วยกรดไขมันจำเป็นที่คุณต้องอาศัยเพื่อปัดเป่าผิวแห้งเป็นขุย และทำให้ผิวมีสุขภาพดี อีกทั้งยังมีส่วนผสมของตัวเยียวยาบาดแผลคือสังกะสี โปรตีนเสริมสร้างคอลลาเจนและวิตามินอี ซึ่งเป็นแอนติออกซิแดนท์ และเซเลเนียม พกซองเมล็ดทานตะวันเก็บไว้ที่โต๊ะทำงานเพื่อเป็นของว่างสุขภาพ หรือเหยาะโรยใส่สลัด
9.น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิน

เป็นส่วนหนึ่งของโภชนาการอาหารเมดิเตอร์เรเนียนที่ดีกับสุขภาพหัวใจ การศึกษาจากกรีกและบราซิลเผยว่าน้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จินช่วยบรรเทาอาการโรคไขข้อ หรือช่วยป้องกันได้ตั้งแต่เริ่มแรกด้วย ใส่ในน้ำสลัด ผัดผัก และใช้ย่างผัก
10.ผงขมิ้น

การศึกษาล่าสุดพบว่าแอนติออกซิแดนท์ขมิ้น (ผงสีเหลืองที่ใส่ในแกงกะหรี่)ช่วยปัดเป่าโรคอัลไซเมอร์ซึ่งเป็นโรคเกี่ยวข้องกับกระบวนการความชรามากที่สุด ให้งดกะทิมัน เลือกผักที่เพียบด้วยแอนติออกซิแดนท์ อย่างถั่ว และกะหรี่ซีฟู้ดแทน
11.อโวคาโด

แหล่งแอนติออกซิแดนท์ต้านความแก่ที่ยอดเยี่ยม เพียบไปด้วยวิตะมินอีและกลูทาไธวัน (เป็นตัวกำจัดอนุมูลอิสระแบบสุดๆ) อโวคาโดยังเพียบไปด้วยวิตะมินบี6และซีกับแร่ธาตุแมกนีเซียม ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างฮอร์โมนความสุขเซโรโทนินและโดพามีน ให้กินอโวคาโด เพื่อส่งผลต้านความแก่ได้สูงสุด หั่นใส่สลัด กินเปล่าๆ หรือทำแซนวิชก็ได้
12.ส้ม

วิตามินซีในส้มดีต่อการสร้างคอลาเจนในผิว ทำให้ผิวแน่นตึง การค้นคว้าจากออสเตรเลียพบว่าส้มมีไฟโตเคมิเคิลต่างๆกว่า 170 อย่าง จึงเป็นตัวฟาดฟันอาการอักเสบ สู้โรคมะเร็งและความสามารถในการป้องกันโลหิตอุดตัน ปอกกินเป็นของว่าง หรือหั่นใส่สลัด (หวานและอร่อย) น้ำส้มคั้นหนึ่งถ้วยดีสำหรับคุณ แต่ขาดกากใยที่มีอยู่ในส้มสด
______________________________
ข้อมูลจากนิตยสาร Slimming ฉบับเดือนพฤษภาคม 2558

1.ถั่วแดง
แล้วคุณจะทึ่ง เพราะผลการจัดอันดับจากกระทรวงเกษตรสหรัฐ ถั่วแดงติดอันดับสามในบรรดาแอนติออกซิแดนท์ 100 รายการ มากไปด้วยโปรตีนที่ช่วยซ่อมแซมร่างกาย ธาตุเหล็กกระตุ้นพลังงาน วิตามินบี แมกนีเซียม และกากใยช่วยลดคอเลสเตอรอล ให้ใส่ถั่วแดงต้มในสลัดดูเหมือนเป็นทางเลือกที่ง่ายสุดสำหรับคนขี้เกียจทำกับข้าว
2.บลูเบอร์รี
มีพลังแอนติออกซิแดนท์มากมาย กระตุ้นความกระตือรือร้น สูตรแนะนำง่ายๆ คือ โรยบลูเบอร์รี 1 กำมือใส่พอริดจ์โอ๊ต เอาปั่นกับสมูตตี้ หรือทำเป็นพุดดิ้งสุดอร่อย
3.ผักขม
ผักขมเป็นตัวต้านความชราที่ดีที่สุดเพราะมีแอนติออกซิแดนท์ลูทินและเซซานทินเพียบ จากการศึกษาพบว่าการกินผักใบเขียวมากๆ จะช่วยต่อสู้กับอาการสายตาที่แย่ลงได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ 60 ปีไปแล้ว ให้ใส่สลัด ผัดผัก นึ่งเสิร์ฟกับแซลมอน ก็ได้
4.แอปเปิ้ล
มากไปด้วยเกอซิตินซึ่งเป็นแอนติออกซิแดนท์ต่อต้านอาการอักเสบ ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่อยู่ในร่างกาย การศึกษายังกล่าวถึงการกินแอปเปิ้ลประจำวันนั้นช่วยให้ปอดแข็งแรงและลดความเสี่ยงกับการเป็นโรคหอบหืด แอปเปิ้ลยังมีแพคตินซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายอีกด้วย ลองนำแอปเปิ้ลติดตัวไปไหนมาไหนด้วยเสมอ
5.ขนมปังโฮลเกรน
ขนมปังประจำวันคุณมีกากใยช่วยในการขับถ่ายเป็นประจำ มีไฟโตเคมิเคิลไลนัน(ทำหน้าที่เป็นแอนติออกซิแดนท์ซึ่งอาจส่งผลต้านมะเร็ง) มีวิตะมินบีให้พลังงานและแมกนีเซียมกับแอนติออกซิแดนท์เซเลเนียม ขนมปังโฮลเกรนสามแผ่นต่อวันสามารถลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็ง โรคหัวใจและเบาหวานชนิด 2 ลงไปได้สามเท่า แค่ปิ้งกินเป็นอาหารเช้า ทำแซนวิชเป็นอาหารกลางวัน หรือโปะด้วยมะเขือเทศกระป๋องและซาร์ดีนเป็นอาหารค่ำมื้อเบาๆ
6.แซลมอน
เพียบไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 แซลมอนส่งผลมหัศจรรย์กับผิวพรรณ จากการศึกษาอย่างต่อเนื่องของศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยลิเวอร์พูลพบว่าช่วยปกป้องผิว และเนื้อเยื่อภายใต้ผิวต่อการทำลายจากแสงแดด (แต่ยังต้องใช้ซันสครีนอยู่) ย่าง หรืออบ หรือบาร์บีคิวกับน้ำมะนาวสดและพริกไทยดำ
7.แครอท
เพียบไปด้วยเบต้าแคโรทีนแอนติออกซิแดนท์ จากการศึกษาพบว่าเคี้ยวแครอทเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งและทำให้ดวงตามีสุขภาพดีอีกด้วย เบต้าแคโรทีนดูดซึมได้ดีเมื่อกินกับไขมันเล็กน้อย ทำอาหารมื้อที่มีแครอทปรุงผสมอยู่ หรือกินเป็นของว่างก็ได้
8.เมล็ดทานตะวัน
เพียบไปด้วยกรดไขมันจำเป็นที่คุณต้องอาศัยเพื่อปัดเป่าผิวแห้งเป็นขุย และทำให้ผิวมีสุขภาพดี อีกทั้งยังมีส่วนผสมของตัวเยียวยาบาดแผลคือสังกะสี โปรตีนเสริมสร้างคอลลาเจนและวิตามินอี ซึ่งเป็นแอนติออกซิแดนท์ และเซเลเนียม พกซองเมล็ดทานตะวันเก็บไว้ที่โต๊ะทำงานเพื่อเป็นของว่างสุขภาพ หรือเหยาะโรยใส่สลัด
9.น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิน
เป็นส่วนหนึ่งของโภชนาการอาหารเมดิเตอร์เรเนียนที่ดีกับสุขภาพหัวใจ การศึกษาจากกรีกและบราซิลเผยว่าน้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จินช่วยบรรเทาอาการโรคไขข้อ หรือช่วยป้องกันได้ตั้งแต่เริ่มแรกด้วย ใส่ในน้ำสลัด ผัดผัก และใช้ย่างผัก
10.ผงขมิ้น
การศึกษาล่าสุดพบว่าแอนติออกซิแดนท์ขมิ้น (ผงสีเหลืองที่ใส่ในแกงกะหรี่)ช่วยปัดเป่าโรคอัลไซเมอร์ซึ่งเป็นโรคเกี่ยวข้องกับกระบวนการความชรามากที่สุด ให้งดกะทิมัน เลือกผักที่เพียบด้วยแอนติออกซิแดนท์ อย่างถั่ว และกะหรี่ซีฟู้ดแทน
11.อโวคาโด
แหล่งแอนติออกซิแดนท์ต้านความแก่ที่ยอดเยี่ยม เพียบไปด้วยวิตะมินอีและกลูทาไธวัน (เป็นตัวกำจัดอนุมูลอิสระแบบสุดๆ) อโวคาโดยังเพียบไปด้วยวิตะมินบี6และซีกับแร่ธาตุแมกนีเซียม ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างฮอร์โมนความสุขเซโรโทนินและโดพามีน ให้กินอโวคาโด เพื่อส่งผลต้านความแก่ได้สูงสุด หั่นใส่สลัด กินเปล่าๆ หรือทำแซนวิชก็ได้
12.ส้ม
วิตามินซีในส้มดีต่อการสร้างคอลาเจนในผิว ทำให้ผิวแน่นตึง การค้นคว้าจากออสเตรเลียพบว่าส้มมีไฟโตเคมิเคิลต่างๆกว่า 170 อย่าง จึงเป็นตัวฟาดฟันอาการอักเสบ สู้โรคมะเร็งและความสามารถในการป้องกันโลหิตอุดตัน ปอกกินเป็นของว่าง หรือหั่นใส่สลัด (หวานและอร่อย) น้ำส้มคั้นหนึ่งถ้วยดีสำหรับคุณ แต่ขาดกากใยที่มีอยู่ในส้มสด
______________________________
ข้อมูลจากนิตยสาร Slimming ฉบับเดือนพฤษภาคม 2558