"บ้าน" คือตัวแทนของความรัก ความอบอุ่น และความปลอดภัย แต่ทว่า...จะเป็นอย่างไรเมื่อที่ๆ เราคิดว่าปลอดภัยนั้นกลับมีสัตว์ร้ายอาทิ งู ตะขาบ แมงป่อง ซุกซ่อนร่วมอยู่ด้วยกับเรารอคอยวันพบเจอะเจอกันโดยที่ไม่รู้ตัว
และแม้ว่าจะไม่ใช่หน้าน้ำฝนตกในฤดู แต่อากาศร้อนอบอ้าวในช่วงนี้ก็ทำให้เราใช้น้ำกันอย่างกระหน่ำ ไม่ว่าจะรดน้ำต้นไม้ ฉีดน้ำบนพื้นลดฝุ่นลดความร้อน กระทั่งอาบน้ำอาบท่าในห้องน้ำกันวันละหลายๆ ครั้ง ซึ่งนั้นคือจุดที่ทำให้บริเวณบ้านเกิดความชื้นอันเป็นบ่อเกิดที่อยู่อาศัยพอเหมาะพอเจาะ และชื่นชอบยิ่งนักของบรรดาอสรพิษทั้งหลาย ที่จะออกมาอาละวาดในยามค่ำคืนตามเวลาหากินของมันจากในท่อบ้าง ซอกลืบแตกร้าวบ้าง กระทั่งประตูหน้าบ้านหรือในห้องนอนก็มีให้เห็นบ่อยๆ
วันนี้เราจึงแนะนำวิธีการดูแลบ้านให้ปลอดภัยจากคาอันตุกะเลื้อยคลานทั้งหลายมาฝาก เผื่อจะได้ป้องกันและปลอดภัยนอนหลับฝันดี ไม่ต้องพะว้าพะวงทั้งเรื่องอากาศร้อนๆ แล้วไหนจะเรื่องสัตว์ร้ายๆ ในบ้านร่วมด้วย
ดูแลบริเวณบ้านให้สะอาดอยู่เสมอ
เนื่องจากสัตว์เหล่านี้มักจะอาศัยอยู่ตามที่เย็นๆ เพื่อหลบซ่อนความร้อนจากดวงอาทิตย์และออกหากินในเวลากลางคืน เราจึงมักไม่ค่อยได้เห็นแม้แต่เงาในช่วงกลางวันเพื่อกำจัดหรือรู้ทันท่วงที ดังนั้นการดูแลบ้านให้ปราศจากที่ "กบดาน" จึงเป็นวิธีป้องกันก่อนเกิดเหตุที่ได้ผลและสร้างความสบายใจเป็นอันดับแรก
โดยเริ่มจากพยายามอย่าให้มีบริเวณพื้นที่มีการกดทับของสิ่งของ อาทิ ก้อนหิน กระถางต้นไม้ หรือโพรงดิน ซอกลืบต่างๆ ที่อาจเป็นที่อยู่ และควรจัดทิ้งสิ่งปฏิกูล ขยะ เศษอาหาร ให้เรียบร้อยถูกต้อง หรือหากในกรณีที่มีสนามหญ้า ต้นไม้ ก็ควรตัดแต่งให้ไม่ให้รกรุงรังพร้อมกับกำจัดเศษใบไม้ใบหญ้าทิ้งทุกครั้ง ไม่ควรกองทิ้งไว้เนินนาน เนื่องจากจะทำให้เป็นแหล่งเรียกชุมนุมสัตว์ที่เป็นห่วงโซ่อาหารของแมลงและหนูให้เข้ามาสู่บ้านของคุณ ทั้งตะขาบ แมงป่อง กระทั่งงู
ซ่อมแซมจุดแตกร้าว ปิดช่องว่างใต้ถุน เพดาน ฝ้าและท่อระบายน้ำ
เป็นที่แน่นอนว่าสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้นอกจากต้องกรที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหาร แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือการแพร่พันธุ์ และที่ๆ สามารถขยายพันธุ์ได้นั้นก็ต้องเป็นที่ๆ เหมาะสม ไม่ถูกรบกวน ซึ่งจุดแตกร้าวตามผนังหรือช่องว่างใต้ถุน เพดาน ฝ้าและท่อระบายน้ำ ก็คืออีกหนึ่งต้นต่อที่ทำให้สัตว์เหล่านี้เข้ามาเยือนคุณไม่มีวันจบวันสิ้น
ทั้งนี้วิธีการป้องกันนี้ก็สามารทำได้หลากหลายขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคน คือจะยาปูนซีเมนต์ ปูนขาวโบกผสมน้ำมะกรูดช่วยไล่สัตว์ปิดทับในบริเวณนั้นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เหล่านั้นไปแพร่พันธุ์ หรือจะหาอะไรมาบังกั้น อย่างกรณี "ท่อระบายน้ำ" ที่จำเป็นต้องให้มีช่องทางน้ำไหลก็ควรหาตระแกรงซีลวดที่มีความถี่ขนาดเล็ก ใช้วิธีวางถุงใส่ที่บรรจุน้ำพอประมาณทับพอน้ำปริ่มๆ ก็ไล่น้ำลงรูก่อนจะวางไว้ทับไว้ที่เดิมป้องกันการเล็ดลอดเข้ามา หรือจะใช้ "สบู่" อุดรูเพื่อให้ความเป็นด่างและความลื่นคอยไหลลงท่อในทุกครั้งที่มีการใช้น้ำก็ได้ผลเช่นเดียวกัน
หาอุปกรณ์ป้องกันก่อนการรุกราน
จะให้ครบการป้องกันระวังภัยจากสัตว์เหล่านี้วิธีนี้คงจะปฏิเสธการกั้นไว้ดีกว่าแก้ไม่ได้ เพราะนอกจากจะเป็นความเชื่อมาตั้งแต่สมัยโบราณที่สั่งสมตกทอดกันมา อย่างวิธีการทาน้ำมันกลิ่นฉุนหรือกำมะถันรอบวงกบประตูบ้านเพื่อป้องกัน "งู" ที่ยังใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย หรือปลูกต้นมะกรูด ต้นเสลดพังพอน
เทคโนโลยีเดี๋ยวนี้ก็พัฒนาผลิตสารที่ช่วยป้องกันได้ชัวร์แถมหาซื้อง่ายอีกต่างหาก อาทิ "ผงไล่แมลง" จำพวก ตะขาบ แมงป่องตามร้านขายอุปกรณ์เกษตร ทั้งแบบโรยและผสมน้ำฉีดตามจุดที่ต้องการ หรือจะใช้ "น้ำส้มควันไม้" ที่มีความเป็นกรดสูง "โซดาไฟ" ตลอดจนน้ำมันกลิ่นฉุนต่างๆ อย่างน้ำมันก๊าด น้ำมันสน น้ำมันเครื่อง กระทั่งแผ่นกันงูและสัตว์เลื่อยคลานที่ใช้สำหรับติดตามเสาหรือฝาผนังไม่ให้งูสามารถเลื่อยผ่านไปได้โดยง่ายในราคาไม่กี่สตางค์
นอกจากนี้การเลี้ยง น้องแมว น้องหมา ก็ยังเป็นเครื่องสุดยอดเตือนภัยและอารักขาไม่มีเปลี่ยนแปลง เพราะไม่ว่าจะสุนัขหรือแมวก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนผู้ซื่อสัตย์กับเราทั้งนั้น โดยเฉพาะกับอาณาเขตในบริเวณบ้านยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องการหวงแหน ดังนั้นสัตว์อะไรที่ไม่เข้าพวก "เจ้าตูบ" และ "น้องเหมียว" ก็จะปรี่เข้าจัดการก่อนที่จะถึงตัวเราตามสัญชาตญาณ (ตะขาบหรือแมงป่องก็มักจะเป็นซากให้เราเห็นในทุกครั้งไป) หรือไม่ก็ไล่สัตว์เหล่านั้นออกไปพ้นจากพื้นที่ อย่างเช่นกรณีงูที่ไม่ชอบถูกรบกวนและขี้ระแวงตกใจ
และจากนี้นิสัยขี้เล่นเป็นทุนเดิมที่จะชอบซอกแซกไปทั่วทุกซอกมุมของบ้าน ยังทำให้เราสามารถรู้ได้ว่ามีสัตว์จำพวกนี้แปลกปลอมเข้ามาอยู่ในบ้านของเราหรือไม่อีกด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ควรสังเกตพฤติกรรมอาการทุกครั้งเพื่อจะได้ช่วยเหลือทันท่วงที เท่านี้ชีวิตคุณก็จะลดโอกาสเสี่ยงและปลอดภัยจากสัตว์ร้ายๆ ที่จะย่างกรายเข้ามาในบ้าน
และแม้ว่าจะไม่ใช่หน้าน้ำฝนตกในฤดู แต่อากาศร้อนอบอ้าวในช่วงนี้ก็ทำให้เราใช้น้ำกันอย่างกระหน่ำ ไม่ว่าจะรดน้ำต้นไม้ ฉีดน้ำบนพื้นลดฝุ่นลดความร้อน กระทั่งอาบน้ำอาบท่าในห้องน้ำกันวันละหลายๆ ครั้ง ซึ่งนั้นคือจุดที่ทำให้บริเวณบ้านเกิดความชื้นอันเป็นบ่อเกิดที่อยู่อาศัยพอเหมาะพอเจาะ และชื่นชอบยิ่งนักของบรรดาอสรพิษทั้งหลาย ที่จะออกมาอาละวาดในยามค่ำคืนตามเวลาหากินของมันจากในท่อบ้าง ซอกลืบแตกร้าวบ้าง กระทั่งประตูหน้าบ้านหรือในห้องนอนก็มีให้เห็นบ่อยๆ
วันนี้เราจึงแนะนำวิธีการดูแลบ้านให้ปลอดภัยจากคาอันตุกะเลื้อยคลานทั้งหลายมาฝาก เผื่อจะได้ป้องกันและปลอดภัยนอนหลับฝันดี ไม่ต้องพะว้าพะวงทั้งเรื่องอากาศร้อนๆ แล้วไหนจะเรื่องสัตว์ร้ายๆ ในบ้านร่วมด้วย
ดูแลบริเวณบ้านให้สะอาดอยู่เสมอ
เนื่องจากสัตว์เหล่านี้มักจะอาศัยอยู่ตามที่เย็นๆ เพื่อหลบซ่อนความร้อนจากดวงอาทิตย์และออกหากินในเวลากลางคืน เราจึงมักไม่ค่อยได้เห็นแม้แต่เงาในช่วงกลางวันเพื่อกำจัดหรือรู้ทันท่วงที ดังนั้นการดูแลบ้านให้ปราศจากที่ "กบดาน" จึงเป็นวิธีป้องกันก่อนเกิดเหตุที่ได้ผลและสร้างความสบายใจเป็นอันดับแรก
โดยเริ่มจากพยายามอย่าให้มีบริเวณพื้นที่มีการกดทับของสิ่งของ อาทิ ก้อนหิน กระถางต้นไม้ หรือโพรงดิน ซอกลืบต่างๆ ที่อาจเป็นที่อยู่ และควรจัดทิ้งสิ่งปฏิกูล ขยะ เศษอาหาร ให้เรียบร้อยถูกต้อง หรือหากในกรณีที่มีสนามหญ้า ต้นไม้ ก็ควรตัดแต่งให้ไม่ให้รกรุงรังพร้อมกับกำจัดเศษใบไม้ใบหญ้าทิ้งทุกครั้ง ไม่ควรกองทิ้งไว้เนินนาน เนื่องจากจะทำให้เป็นแหล่งเรียกชุมนุมสัตว์ที่เป็นห่วงโซ่อาหารของแมลงและหนูให้เข้ามาสู่บ้านของคุณ ทั้งตะขาบ แมงป่อง กระทั่งงู
ซ่อมแซมจุดแตกร้าว ปิดช่องว่างใต้ถุน เพดาน ฝ้าและท่อระบายน้ำ
เป็นที่แน่นอนว่าสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้นอกจากต้องกรที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหาร แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือการแพร่พันธุ์ และที่ๆ สามารถขยายพันธุ์ได้นั้นก็ต้องเป็นที่ๆ เหมาะสม ไม่ถูกรบกวน ซึ่งจุดแตกร้าวตามผนังหรือช่องว่างใต้ถุน เพดาน ฝ้าและท่อระบายน้ำ ก็คืออีกหนึ่งต้นต่อที่ทำให้สัตว์เหล่านี้เข้ามาเยือนคุณไม่มีวันจบวันสิ้น
ทั้งนี้วิธีการป้องกันนี้ก็สามารทำได้หลากหลายขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคน คือจะยาปูนซีเมนต์ ปูนขาวโบกผสมน้ำมะกรูดช่วยไล่สัตว์ปิดทับในบริเวณนั้นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เหล่านั้นไปแพร่พันธุ์ หรือจะหาอะไรมาบังกั้น อย่างกรณี "ท่อระบายน้ำ" ที่จำเป็นต้องให้มีช่องทางน้ำไหลก็ควรหาตระแกรงซีลวดที่มีความถี่ขนาดเล็ก ใช้วิธีวางถุงใส่ที่บรรจุน้ำพอประมาณทับพอน้ำปริ่มๆ ก็ไล่น้ำลงรูก่อนจะวางไว้ทับไว้ที่เดิมป้องกันการเล็ดลอดเข้ามา หรือจะใช้ "สบู่" อุดรูเพื่อให้ความเป็นด่างและความลื่นคอยไหลลงท่อในทุกครั้งที่มีการใช้น้ำก็ได้ผลเช่นเดียวกัน
หาอุปกรณ์ป้องกันก่อนการรุกราน
จะให้ครบการป้องกันระวังภัยจากสัตว์เหล่านี้วิธีนี้คงจะปฏิเสธการกั้นไว้ดีกว่าแก้ไม่ได้ เพราะนอกจากจะเป็นความเชื่อมาตั้งแต่สมัยโบราณที่สั่งสมตกทอดกันมา อย่างวิธีการทาน้ำมันกลิ่นฉุนหรือกำมะถันรอบวงกบประตูบ้านเพื่อป้องกัน "งู" ที่ยังใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย หรือปลูกต้นมะกรูด ต้นเสลดพังพอน
เทคโนโลยีเดี๋ยวนี้ก็พัฒนาผลิตสารที่ช่วยป้องกันได้ชัวร์แถมหาซื้อง่ายอีกต่างหาก อาทิ "ผงไล่แมลง" จำพวก ตะขาบ แมงป่องตามร้านขายอุปกรณ์เกษตร ทั้งแบบโรยและผสมน้ำฉีดตามจุดที่ต้องการ หรือจะใช้ "น้ำส้มควันไม้" ที่มีความเป็นกรดสูง "โซดาไฟ" ตลอดจนน้ำมันกลิ่นฉุนต่างๆ อย่างน้ำมันก๊าด น้ำมันสน น้ำมันเครื่อง กระทั่งแผ่นกันงูและสัตว์เลื่อยคลานที่ใช้สำหรับติดตามเสาหรือฝาผนังไม่ให้งูสามารถเลื่อยผ่านไปได้โดยง่ายในราคาไม่กี่สตางค์
นอกจากนี้การเลี้ยง น้องแมว น้องหมา ก็ยังเป็นเครื่องสุดยอดเตือนภัยและอารักขาไม่มีเปลี่ยนแปลง เพราะไม่ว่าจะสุนัขหรือแมวก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนผู้ซื่อสัตย์กับเราทั้งนั้น โดยเฉพาะกับอาณาเขตในบริเวณบ้านยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องการหวงแหน ดังนั้นสัตว์อะไรที่ไม่เข้าพวก "เจ้าตูบ" และ "น้องเหมียว" ก็จะปรี่เข้าจัดการก่อนที่จะถึงตัวเราตามสัญชาตญาณ (ตะขาบหรือแมงป่องก็มักจะเป็นซากให้เราเห็นในทุกครั้งไป) หรือไม่ก็ไล่สัตว์เหล่านั้นออกไปพ้นจากพื้นที่ อย่างเช่นกรณีงูที่ไม่ชอบถูกรบกวนและขี้ระแวงตกใจ
และจากนี้นิสัยขี้เล่นเป็นทุนเดิมที่จะชอบซอกแซกไปทั่วทุกซอกมุมของบ้าน ยังทำให้เราสามารถรู้ได้ว่ามีสัตว์จำพวกนี้แปลกปลอมเข้ามาอยู่ในบ้านของเราหรือไม่อีกด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ควรสังเกตพฤติกรรมอาการทุกครั้งเพื่อจะได้ช่วยเหลือทันท่วงที เท่านี้ชีวิตคุณก็จะลดโอกาสเสี่ยงและปลอดภัยจากสัตว์ร้ายๆ ที่จะย่างกรายเข้ามาในบ้าน