หลังจากที่ตรากตรำทำงานหรือเผชิญชีวิตมาเกือบทั้งวัน จนแทบจะไร้เรี่ยวแรงที่จะทำอะไรต่อไปได้แล้ว ในที่สุด การได้นอนหลับซักตื่นหนึ่ง คงจะช่วยแก้อาการเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า เพราะนั่นคือวิธีเดียวและวิธีที่ดีที่สุด ที่จะช่วยให้อาการที่กล่าวมาข้างต้น หายเป็นปลิดทิ้งไปได้ และ เตรียมตัวที่จะสู้ต่อไปในวันรุ่งขึ้นได้นั่นเอง
แต่อนิจจา...พอหัวถึงหมอนและอยู่บนเตียงนุ่มๆ แล้ว กลับไม่สามารถหลับได้อย่างใจต้องการ ไม่ว่าจะพลิกตัวหลายจำนวนรอบก็แล้ว สวดมนต์ให้จิตใจสงบก็แล้ว หรือ ทำอะไรให้รู้สึกเหนื่อยเพิ่มเติมก็แล้วแต่ แต่ก็ยังไม่สามารถหลับได้อยู่ดี และนี่เองคืออาการ “นอนหลับยาก” นั่นเอง
คุณผู้อ่านที่มีอาการหลับยากนั้น อย่าเพิ่งเสียกำลังใจไป เพราะอาการดังกล่าวไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ซึ่งถ้าได้ทราบถึงเหตุผลและวิธีแก้ของการนอนไม่หลับนั้น ไม่แน่ว่า ถ้าได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว เชื่อได้เลยว่า น่าจะช่วยให้ได้หลับสนิทเพียงพอ จนฝันดี และตื่นมาสดชื่นแน่นอน หากได้อ่านตั้งแต่บรรทัดนี้เป็นต้นไป
ปัจจัยของโรค และ อาการของ “นอนหลับยาก”
หากคุณเคยมีอาการหลับยาก ใช้เวลานานกว่าจะหลับ หรือตื่นนอนเร็วมาก แม้ว่าก่อนหน้านี้ จะมีการอดนอนและอยากนอนต่อก็ตาม แถมยังมีอาการแบบนี้อยู่เสมอ นั่นคือสัญญาณเตือนของอาการดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีแบบนี้ติดต่อกันประมาณ 1-2 วัน อาจจะหมายความว่า “อาการนอนหลับยาก” มาสู่ตัวคุณไปเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นได้ ยิ่งถ้าคุณเป็นผู้สูงอายุด้วยแล้ว แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะเป็นอาการนี้
สำหรับอาการที่เข้าข่ายได้ มีดังต่อไปนี้ หลับไม่ต่อเนื่อง, หลับๆ ตื่นๆ จนลุกขึ้นมาตื่นบ่อยๆ, อ่อนเพลีย ขาดสมาธิ หงุดหงิด อารมณ์เสีย หรือ นอนหลับแต่จะตื่นเช้ามาก และไม่สามารถนอนต่อได้
สาเหตุของอาการ
สำหรับปัจจัยของการ “นอนหลับยาก” นั้น เบื้องต้น คงจะเป็นเหตุผลหลักๆ นั่นคือ การเดินเปลี่ยนสถานที่นอน, อาการปวด, ความเครียด, บรรยากาศที่นอนไม่ดี เช่น มีเสียงดัง หรือ เผชิญปัญหาชีวิต, ความกดดันทางจิตใจ และ อื่นๆ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยดังต่อไปนี้ ก็เกี่ยวข้องเช่นกัน ดังนี้
- ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในระหว่างวัน เช่น กาแฟ ชา หรือ ยาอื่นๆ
- ดื่มแอลกอฮอล์ อาจจะทำให้มีอาการหลับๆ ตื่นๆ
- เป็นโรค ที่มีผลข้างเคียง เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคปวดไขข้อ เป็นต้น
- การออกกำลังหนักในช่วงบ่ายๆ
- การสูบบุหรี่
- การรับประทานอาหารมื้อเย็นที่มากหรือน้อยเกินไป
- ที่นอนไม่ดี
การรักษาและ การดูแลเบื้องต้น
การรักษาที่ยอดฮิตสำหรับการแก้อาการนี้ โดยส่วนใหญ่คือ การใช้ยานอนหลับ ซึ่งทางแพทย์แนะนำว่า ทำได้แค่เพียงใช้ได้แค่ชั่วคราวหรือเมื่อต้องการเท่านั้น เพราะถ้าใช้อย่างต่อเนื่อง อาจจะถึงขั้นเสพติด ก็เป็นได้
นอกจากนี้ วิธีแก้แบบไม่ต้องพึ่งยา ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน เช่น ฝังเข็ม, การนวด การนั่งสมาธิเพื่อลดความเครียด เป็นต้น ซึ่งอาจจะช่วยให้ผ่อนคลายและลงเอยด้วยการหลับได้เช่นเดียวกัน
ส่วนวิธีการดูแลเบื้องต้น ควรจะทำตามวิธีดังต่อไปนี้ ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน ดังนี้
- ควรนอนหลับอย่างเป็นเวลาทุกวันและงดงีบหลับระหว่างวัน
- งดชา กาแฟ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- งดสูบบุหรี่
- ออกกำลังกายเบาๆ จะทำให้หลับง่ายขึ้น
- อ่านหนังสือ ฟังเพลง หรือดูทีวีก่อนนอน
- อาบน้ำให้สบาย หรืออาจจะใช้สมุนไพร จำพวก Chamomile มาร่วมด้วยยิ่งดี
- ไม่ควรทำงานหรือดูทีวีบนที่นอนเด็ดขาด
- ลุกจากเตียงหากตื่นขึ้นมาในช่วงกลางคืน จนกว่าจะง่วง
- ไม่ควรอาหารเสริมที่มีส่วนผสมเช่น โสม Gaurana และ Kolanut
แต่อนิจจา...พอหัวถึงหมอนและอยู่บนเตียงนุ่มๆ แล้ว กลับไม่สามารถหลับได้อย่างใจต้องการ ไม่ว่าจะพลิกตัวหลายจำนวนรอบก็แล้ว สวดมนต์ให้จิตใจสงบก็แล้ว หรือ ทำอะไรให้รู้สึกเหนื่อยเพิ่มเติมก็แล้วแต่ แต่ก็ยังไม่สามารถหลับได้อยู่ดี และนี่เองคืออาการ “นอนหลับยาก” นั่นเอง
คุณผู้อ่านที่มีอาการหลับยากนั้น อย่าเพิ่งเสียกำลังใจไป เพราะอาการดังกล่าวไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ซึ่งถ้าได้ทราบถึงเหตุผลและวิธีแก้ของการนอนไม่หลับนั้น ไม่แน่ว่า ถ้าได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว เชื่อได้เลยว่า น่าจะช่วยให้ได้หลับสนิทเพียงพอ จนฝันดี และตื่นมาสดชื่นแน่นอน หากได้อ่านตั้งแต่บรรทัดนี้เป็นต้นไป
ปัจจัยของโรค และ อาการของ “นอนหลับยาก”
หากคุณเคยมีอาการหลับยาก ใช้เวลานานกว่าจะหลับ หรือตื่นนอนเร็วมาก แม้ว่าก่อนหน้านี้ จะมีการอดนอนและอยากนอนต่อก็ตาม แถมยังมีอาการแบบนี้อยู่เสมอ นั่นคือสัญญาณเตือนของอาการดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีแบบนี้ติดต่อกันประมาณ 1-2 วัน อาจจะหมายความว่า “อาการนอนหลับยาก” มาสู่ตัวคุณไปเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นได้ ยิ่งถ้าคุณเป็นผู้สูงอายุด้วยแล้ว แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะเป็นอาการนี้
สำหรับอาการที่เข้าข่ายได้ มีดังต่อไปนี้ หลับไม่ต่อเนื่อง, หลับๆ ตื่นๆ จนลุกขึ้นมาตื่นบ่อยๆ, อ่อนเพลีย ขาดสมาธิ หงุดหงิด อารมณ์เสีย หรือ นอนหลับแต่จะตื่นเช้ามาก และไม่สามารถนอนต่อได้
สาเหตุของอาการ
สำหรับปัจจัยของการ “นอนหลับยาก” นั้น เบื้องต้น คงจะเป็นเหตุผลหลักๆ นั่นคือ การเดินเปลี่ยนสถานที่นอน, อาการปวด, ความเครียด, บรรยากาศที่นอนไม่ดี เช่น มีเสียงดัง หรือ เผชิญปัญหาชีวิต, ความกดดันทางจิตใจ และ อื่นๆ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยดังต่อไปนี้ ก็เกี่ยวข้องเช่นกัน ดังนี้
- ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในระหว่างวัน เช่น กาแฟ ชา หรือ ยาอื่นๆ
- ดื่มแอลกอฮอล์ อาจจะทำให้มีอาการหลับๆ ตื่นๆ
- เป็นโรค ที่มีผลข้างเคียง เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคปวดไขข้อ เป็นต้น
- การออกกำลังหนักในช่วงบ่ายๆ
- การสูบบุหรี่
- การรับประทานอาหารมื้อเย็นที่มากหรือน้อยเกินไป
- ที่นอนไม่ดี
การรักษาและ การดูแลเบื้องต้น
การรักษาที่ยอดฮิตสำหรับการแก้อาการนี้ โดยส่วนใหญ่คือ การใช้ยานอนหลับ ซึ่งทางแพทย์แนะนำว่า ทำได้แค่เพียงใช้ได้แค่ชั่วคราวหรือเมื่อต้องการเท่านั้น เพราะถ้าใช้อย่างต่อเนื่อง อาจจะถึงขั้นเสพติด ก็เป็นได้
นอกจากนี้ วิธีแก้แบบไม่ต้องพึ่งยา ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน เช่น ฝังเข็ม, การนวด การนั่งสมาธิเพื่อลดความเครียด เป็นต้น ซึ่งอาจจะช่วยให้ผ่อนคลายและลงเอยด้วยการหลับได้เช่นเดียวกัน
ส่วนวิธีการดูแลเบื้องต้น ควรจะทำตามวิธีดังต่อไปนี้ ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน ดังนี้
- ควรนอนหลับอย่างเป็นเวลาทุกวันและงดงีบหลับระหว่างวัน
- งดชา กาแฟ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- งดสูบบุหรี่
- ออกกำลังกายเบาๆ จะทำให้หลับง่ายขึ้น
- อ่านหนังสือ ฟังเพลง หรือดูทีวีก่อนนอน
- อาบน้ำให้สบาย หรืออาจจะใช้สมุนไพร จำพวก Chamomile มาร่วมด้วยยิ่งดี
- ไม่ควรทำงานหรือดูทีวีบนที่นอนเด็ดขาด
- ลุกจากเตียงหากตื่นขึ้นมาในช่วงกลางคืน จนกว่าจะง่วง
- ไม่ควรอาหารเสริมที่มีส่วนผสมเช่น โสม Gaurana และ Kolanut