4 พฤติกรรม บำรุงสมอง ป้องกันอัลไซเมอร์

ประเทศไทย มีผู้ป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์ราวๆ 2-4 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป และยิ่งอายุเพิ่มมากขึ้น ความเสี่ยงที่จะป่วยด้วยโรคนี้ก็ยิ่งมีมากขึ้น เรามาดูกันดีกว่าว่า มีวิธีการหรือพฤติกรรมแบบไหนบ้างที่จะทำให้เราไม่ถูกรวมเข้าในจำนวน 2-4 เปอร์เซ็นต์นั้น

ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายเป็นประจำ ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นอัลไซเมอร์ได้ เพราะทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจน ซึ่งเป็นผลดีต่อระบบจิตประสาท นอกจากนั้น การออกกำลังกายยังช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ทำให้มีเลือดไปเลี้ยงสมองมากขึ้น

ผลการวิจัยพบว่า ผู้ที่ออกกำลังกายครั้งละครึ่งชั่วโมง สัปดาห์ละสองครั้ง ช่วยลดความเสี่ยงจากอาการหลงลืมเพราะสมองเสื่อมได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์

ออกกำลังสมอง

การฝึกให้เซลล์สมองทำงาน เป็นเหมือนการให้อาหารสมองและทำให้สมองได้ออกกำลังไปพร้อมกัน ส่วนกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสมอง เช่น เกมซุโดกุ เกมปริศนาตัวเลข หรือเกมปริศนาตัวอักษร

กระตือรือร้น

ผู้ที่ดำเนินชีวิตหรือชอบทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยความกระตือรือร้น เช่น ติดตามรับฟังข้อข่าวสาร เข้าสังคม ทำความรู้จักเพื่อนใหม่อยู่เสมอ หรือแม้แต่มีกิจกรรมในชีวิตประจำวันมากกว่า เสี่ยงเป็นโรคอัลไซเมอร์น้อยกว่า 47 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ใช้ชีวิตในทางตรงกันข้าม ผลการวิจัยอีกเรื่องหนึ่งยังพบว่า ผู้หญิงที่มีกิจกรรมในชีวิตประจำวันมากกว่า จิตประสาทจะเสื่อมน้อยกว่าผู้ที่ไม่ค่อยทำกิจกรรมอีกด้วย

ยิ้มแย้มแจ่มใส

การมีจิตใจแจ่มใสอยู่เสมอ ช่วยในการทำงานของสมอง ต่อไร้ท่อ และระบบอื่นๆ ของร่างกาย ทำงานสอดคล้องกันอย่างราบรื่น

ทั้งนี้ การมองโลกในแง่ดี และการฝึกสมาธิ ช่วยทำให้มีจิตใจที่แจ่มใสได้
***ข้อมูลจากหนังสือ “How-To ดูแลสมอง” เขียนโดยกองบรรณาธิการนิตยสารชีวจิต สำรักพิมพ์อัมรินทร์สุขภาพ