xs
xsm
sm
md
lg

กระเช้าสำเร็จรูป เพื่อสุขภาพ/แหกตา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แกะกระเช้าปีใหม่ สแกนของขวัญสุขภาพ
ส่องราคา เหมาะสม หรือเกินจริง
ฉลาดช้อปฯ ซื้อสุขภาพดีได้?
ยิ่งใกล้ช่วงเทศกาลปีใหม่เข้ามาเท่าไหร่ ดูเหมือนว่าตัวเลขยอดกระเช้า ที่เชื่อกันผิดๆว่า “เพื่อสุขภาพ” ก็ยิ่งขายได้มากขึ้นเป็นเท่าทวี จริงๆแล้วกระเช้าของขวัญสำเร็จรูปมูลค่าด้านการตลาดกว่า 1.4 พันล้านบาท ที่คนไทยนิยมซื้อ และหอบหิ้วไปมอบให้คนที่เคารพรัก แทนคำอวยพร ช่วยดูแลสุขภาพได้จริงหรือ? สนนราคา ที่แปะหรา คุ้มค่าเงินที่ต้องจ่ายไปหรือไม่...เรามีความจริงที่ซุกอยู่ใน “กระเช้าสำเร็จรูป” มาเป็นของขวัญวันปีใหม่ให้ผู้อ่าน
รศ.ดร.วิสิฐ จะวะสิต” ผู้อำนวยการ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล
แกะกระเช้าปีใหม่
สแกนของขวัญสุขภาพ
แม้วันนี้กระเช้าของขวัญปีใหม่จะปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตามพระราชบัญญัติเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 30(5) ที่ว่าด้วย ห้ามไม่ให้ผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยวิธีการหรือลักษณะของการกำหนดเงื่อนไขการขายในลักษณะที่เป็นการบังคับ ซื้อเครื่องดื่มชนิดนี้โดยทางตรงหรือทางอ้อม หากพบฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ไปนานแล้วก็ตาม
แต่กระเช้าของขวัญสำเร็จรูปที่วางเรียงรายบนชั้นในห้างสรรพสินค้า ก็ยังห่างจากคำว่า “กระเช้าปีใหม่เพื่อสุขภาพ” อยู่ดี
เพราะเท่าที่สำเร็จพบว่า ในกระเช้าสำเร็จรูป อัดแน่นไปด้วยของหวาน จำพวกขนมคุกกี้ มากไปน้ำตาล นอกนั้นก็เป็นจำพวกกาแฟ ครีม น้ำผลไม้กล่อง ขนมกรุบกรอบ และที่เห็นจนผู้บริโภคยึดมั่นถือมั่นว่าเป็น “กระเช้าเพื่อสุขภาพ” จริงๆ ก็คงเป็นกลุ่มเครื่องดื่ม อาหารเสริมบำรุงกำลัง ราคาส่วนทางกับคุณค่าด้านโภชนาการ
เรื่องนี้ “รศ.ดร.วิสิฐ จะวะสิต” ผู้อำนวยการ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เผยว่า “กระเช้าปีใหม่มีอยู่ 2 แบบ คือแบบที่ให้กันด้วยเคารพนับถือ กับกระเช้าที่มอบให้กันตามธรรมเนียม หรือกระเช้าสำเร็จรูปที่ซีนเรียบร้อยแล้วนั่นละ ข้อเสียของกระเช้าสำเร็จรูป ก็คือไม่เปิดโอกาสให้ผู้ซื้อตรวจเช็กวันหมดอายุ หรือคุณภาพสินค้า จนกว่าจะได้จ่ายเงิน เพราะถูกซีนเรียบร้อยแน่นหนา หรือถ้าไม่ซีน การหยิบสินค้าขึ้นมาเช็กวันหมดอายุ คุณภาพ กลายเป็นเรื่องแปลก ต่อพนักงานทั้งๆที่เป็นสิทธิ์ผู้บริโภค
         ไม่ว่าจะตรวจสอบด้วยตา หรือหลับตามโน กระเช้าสำเร็จรูป ส่วนใหญ่ก็คงไม่พ้นของหวาน เพราะเราไปยึดธรรมเนียมฝรั่ง ซึ่งนิยมให้คุ้กกี้ ขนมปัง ที่มีความหวานเยอะมาก มันจึงกลายเป็นกระเช้า (ไม่)เพื่อสุขภาพไง จริงๆแล้วเราไม่ควรกินน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชาต่อวัน การกินหวาน และออกกำลังกายน้อย ทำให้มีโอกาสเสี่ยงเป็นNCD ซึ่งย่อมาจาก Non Communicable Disease หรือ กลุ่มโรคไม่ติดต่อ โรคกลุ่มนี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ที่สำคัญและก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพในคนส่วนใหญ่
         ได้แก่ โรคที่เกิดจากการใช้ชีวิตอย่างไม่เหมาะสม ทั้งในการบริโภคอาหาร การออกกำลังกาย ร่วมกับความเสื่อมของร่างกายตามอายุ ซึ่งทำให้เกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูง กระดูกพรุน มะเร็ง โรคเหล่านี้อาจนำไปสู่โรคที่รุนแรงยิ่งขึ้น เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคไตเรื้อรัง และโรคสมองเสื่อมจากสาเหตุต่างๆ ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตแย่ลง มีความพิการ หรือแม้แต่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตได้ มากขึ้นเป็นเงาตามตัว

ส่องราคา
เหมาะสม หรือเกินจริง
ถ้ามองในแง่โรคภัยไข้เจ็บที่ตามมา และความต้องการของผู้รับ ยังไง “ราคา” ก็ไม่มีวันเหมาะสมหรอกครับ เพราะกระเช้าสำเร็จรูปถูกจัดขึ้นด้วยหวังกำไร สังเกตดูก็ได้ทั้งกระเช้าจะเน้นของกินแบบเดิมๆเหมือนที่เราคุ้นเคยทั้งๆที่ไม่จำเป็นต้องเป็นของกินก็ได้จริงไหม อะไรก็ได้ที่เขาใช้ประโยชน์ได้จริง อะไรก็ได้ที่มีสารอาหารครบถ้วน ทั้งโปรตีน และมีพลังงาน ที่มาจากไขมันบ้าง เช่นน้ำมันรำข้าว ซีเรียล นมสด ฯลฯ
 อย่างถ้าบ้านไหนมีลูกเล็กก็ซื้อนมที่มีไขมันสูงให้ หรือบ้านไหนมีผู้สูงอายุ เราก็ซื้อนมที่มีไขมันต่ำ เพียงแค่นี้ก็แสดงให้เห็นความใส่ใจต่อกันแล้วครับ
ที่สำคัญที่ อยากให้ขีดเส้นใต้ ไว้ก็คือ จำพวกเครื่องดื่ม-อาหารเสริมบำรุงกำลัง ที่มีคุณค่าด้านโภชนาการเท่ากับไข่ไก่ต้มครึ่งฟอง แต่ราคาแพงกว่าหลายเท่าตัว อะไรพวกนี้ อยากให้ผู้บริโภคที่กำลังจะเสียเงินซื้อเพื่อมอบให้คนที่เรารัก และเคารพ คิดเอาเองว่า “คุ้ม” หรือ “ไม่คุ้ม” กับการจ่ายค่ากระเช้าของขวัญราคาแพง แลกกับคุณค่าด้านโภชนาการที่มีอยู่น้อยนิด
สุขภาพดีซื้อได้
ถ้าฉลาดช้อปฯ
ผู้อำนวยการ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล แนะนำว่า ถ้าจะมอบกระเช้าเพื่อสุขภาพให้คนที่เราเคารพรัก อยากให้จัดกระเช้าเองดีกว่าซื้อกระเช้าสำเร็จรูป เพราะนอกจากเดินเช็กวันหมดอายุก่อนบรรจุใส่กระเช้าได้อย่างสบายใจแล้ว เรายังสามารถเลือกซื้อของอุปโภค-บริโภค ให้ตรงกับความต้องการผู้รับได้อีกด้วย
อย่างที่บอก ถ้าผู้รับเป็นผู้สูงอายุ เราก็เลือกซื้อนมที่เหมาะกับผู้สูงอายุ หรือสินค้าหมวดสุขภาพทั้งของกิน และของใช้ แต่ถ้าไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับสุขภาพของผู้รับ การออกแบบกระเช้าของขวัญวันปีใหม่ด้วย “ผลไม้ไทย” น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน ถึงราคาจะแพงไปสักนิด แต่หากเทียบกับเครื่องดื่มบำรุงกำลังแล้ว ยังไงกระเช้าผลไม้ไทย ก็ถูกกว่ามหาศาลแน่นอน
ผมเชื่อว่า สุขภาพดีซื้อได้นะ ถ้าเราฉลาดช้อปฯ เอาเป็นว่าถ้าอยากได้กระเช้าเพื่อสุขภาพ ต้องออกไปซื้อ และจัดเองเท่านั้นครับ หากตั้งใจว่าต้องเป็นกระเช้าผลไม้ ก็ออกไปจ่ายตลาดเลือกผลไม้ไทย (ซึ่งปลอดภัยมากกว่าผลไม้จากประเทศเพื่อนบ้าน) มาจัดให้สวยงาม เลือกที่คุณภาพดี อร่อย และมีประโยชน์กับผู้รับ เช่นกล้วยน้ำว้า หรือผลไม้อื่นๆ รวมถึงผักอินทรีย์ปลอดสารพิษ อาทิ บวบ หรือมะระก็ได้ เสริมด้วยข้าวกล้อง ที่มากไปด้วยไฟเบอร์ ซึ่งเป็นเกราะคุ้มกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี เติมเต็มด้วยน้ำมันรำข้าว
 รู้หรือไม่ว่า “กล้วยน้ำว้า” หนึ่งผล สามารถให้พลังงานได้ ประมาณ 100 แคลอรี่ ที่สำคัญมีน้ำตาลธรรมชาติ อยู่ 3ชนิด คือ ซูโครส ฟรุคโทสและกลูโครส แถมมีเส้นใยและกากอาหาร เหนืออื่นใดในกล้วยน้ำว้า ยังอุดมไปด้วย วิตามินบี 6 ช่วยกระตุ้นระบบภูมิต้านทาน วิตามินบี 1 บี 2 และไนอะซีน อีกทั้งมีแร่ธาตุอย่างแมกนีเซียมและโพแทสเซียมด้วย
 เสริมด้วย น้ำตาล ไข่ไก่ โปรตีนคุณภาพดี นม หรือขนมไทย หนังสือการดูแลสุขภาพดีดีสักเล่ม เพียงแค่นี้เราก็จะได้กระเช้าเพื่อสุขภาพที่มีประโยชน์แล้วครับ
         
กินหวานให้สมวัย
เด็ก              อายุ 6-13 ปี   ไม่เกิน 4 ช้อนชา ต่อวัน
วัยรุ่นหญิง-ชาย อายุ 14-25 ปี  ไม่เกิน 6 ช้อนชา ต่อวัน
หญิงวัยทำงาน  อายุ 25-60 ปี  ไม่เกิน 4 ช้อนชา ต่อวัน
ผู้สูงอายุ        อายุ 60 ขึ้นไป  ไม่เกิน 4 ช้อนชา ต่อวัน
หญิงชายที่ใช้พลังงานมาก        ไม่เกิน 8ช้อนชา ต่อวัน
 เครดิตภาพ :อินเตอร์เน็ต
กำลังโหลดความคิดเห็น