แนวเกม ชูตติ้ง
แพลตฟอร์ม PS5, Xbox Series, PC
เรตเกม PEGI: 18 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
ผลงานเกมยิงสุดฉีกมาแปลกของค่าย Remedy ที่ทำใจเชื่อได้ยากว่าอยู่ในจักรวาลเดียวกับ Control เพราะคุณภาพไม่ต่างจากลูกไม้ที่ถูกโยนทิ้งขว้างห่างไกลต้นเป็นกิโลฯ
สำหรับเกม FBC Firebreak นี้เป็นผลงานการสร้างสรรค์ของสตูดิโอ Remedy Entertainment ทีมงานผู้มีชื่อเสียงโด่งดังที่คาดหวังปั้นให้มันเป็นภาคแยกเดี่ยวในจักรวาลเกม Control เมื่อสำนักงานใหญ่ Federal Bureau of Control (FBC) ถูกกองกำลังปีศาจต่างมิติเข้าบุกยึดครอง โดยมีเพียงผู้เล่นอย่างเราในฐานะสมาชิกหน่วยเดนตาย Firebreak เท่านั้น ซึ่งมีอาวุธเพียบพร้อมและความกล้าหาญพอที่จะสามารถกำจัดปราบปราม ระงับกักเก็บ รวมถึงหยุดยั้งมหันตภัยความวุ่นวายในครั้งนี้ได้
รูปแบบการเล่นจะเป็นแนว Extraction Shooter ที่เราๆท่านๆต่างคุ้นชินเคยผ่านตากันมาเป็นอย่างดี เน้นออนไลน์จับคู่กับเพื่อนหรือผู้เล่นคนอื่นเพื่อสร้างเป็นทีมปาร์ตี้สามคนแล้วลงไปปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมาย อาทิเช่น ดับไฟที่ลุกลาม กำจัดกวาดล้างต้านฝูงกองทัพศัตรู เก็บไฟล์เอกสารข้อมูลลับ เปิดการทำงานเครื่องจักร และพยายามพากันหลบหนีออกมาให้รอดปลอดภัยครบ 32 ซึ่งแน่นอนว่าภารกิจเหล่านี้จะวกกลับมาให้เราทำซ้ำๆ ต้องอดทนเล่นอยู่กับด่านเก่าๆ พบเจอแต่กลุ่มศัตรูหน้าเดิมๆ เวียนวนติดอยู่ในลูปตามสไตล์ของเกมแนว Extraction Shooter นั่นเอง
ระบบคลาสอาชีพภายในเกมนั้นจะถูกแบ่งแยกตามชุดอุปกรณ์ติดหลังที่เราสวมสะพายลงสู่สนาม ซึ่งมีให้เลือกอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท ได้แก่ Fix Kit ชุดเซตช่างกลที่มาพร้อมประแจวิเศษใช้ทุบมอนฯก็ดี ซ่อมแซมเครื่องจักรก็ได้ แถมสามารถอัปเกรดสร้างป้อมปืนกลอัตโนมัติยิงถล่มใส่ศัตรูได้อีกต่างหาก เรียกว่าเป็นสายจู่โจมพร้อมบวกทุกสถานการณ์, Jump Kit เซตอุปกรณ์สำหรับช่างไฟเน้นช็อตศัตรู สามารถเปิดใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆเพื่อสร้างแต้มต่อให้กับทีม และสุดท้าย Splash Kit ช่างประปาสายซัพพอร์ต ผู้มาพร้อมหัวฉีดพ่นน้ำใช้ดับไฟ ลบล้างสถานะ รวมถึงฮีลฟื้นฟูเลือดให้แก่เพื่อนๆ ถือเป็นคลาสสำคัญอันดับต้นๆที่จะขาดไปเสียไม่ได้ ส่วนวิธีการเล่นพื้นฐานและการใช้งานแต่ละคลาส ต้องกดปุ่มไหน ต้องเรียกใช้สกิลยังไง คุณต้องเข้าไปลองผิดลองถูกในตอนเล่นจริงกันเอาเองเพราะตัวเกมไม่ได้ใส่บทฝึกสอนไม่มีคู่มือแนะนำอะไรมาให้ทั้งสิ้น
อุปสรรคที่ผู้เล่นจะได้พบเจอนอกเหนือจากศัตรูแล้ว ในบางครั้งเพื่อนร่วมทีมของเราเองก็อาจกลายเป็นมารร้ายขัดขวางภารกิจได้เช่นกันหากไม่ทำงานสอดประสานกันดีๆ เนื่องจากเกมนี้มันเป็นเกมที่เปิดโหมด Friendly Fire ค้างทิ้งไว้ตลอดเวลา ถ้าใครมัวสาดกระสุนเมามันเผลอลั่นไกไปโดนเพื่อนเข้าอาจเกิดการเข้าใจผิดคิดว่าเป็นศัตรูได้ง่ายๆ ไม่เพียงแค่นั้น "เปลวไฟ" ที่กำลังลุกติดตัวเพื่อนก็ยังสามารถไหม้ลามติดต่อไปสู่ใครก็ตามที่มาสัมผัสแตะตัวเขา ฉะนั้นก่อนจะหวังดีรีบรุดเข้าไปชุบชีวิตใครเราควรใช้น้ำสาดราดเอาให้ชุ่มฉ่ำกันเอาไว้ก่อน จะเห็นได้ว่า "น้ำ" ถือเป็นกุญแจสำคัญอย่างมากต่อการเล่นโดยเฉพาะในสองภารกิจแรก จึงไม่น่าแปลกใจที่ใครๆต่างหันมาเลือก Splash Kit เป็นคลาสเริ่มต้นเหมือนกันหมด
ตัวละครของเราสามารถอัพเกรดให้เก่งขึ้นได้ด้วย 2 กรรมวิธีด้วยกัน ช่องทางแรกคือการเอาแต้มไปปลดสกิลพาสซีฟในหน้าเมนู Research แล้วเอาไปติดตั้งใส่ลงในช่องสล็อตของตัวละคร มีทั้งสกิลช่วยให้เราวิ่งได้นานขึ้น เพิ่มความจุกระสุน หรือมีโอกาสฟื้นคืนชีพทันทีที่ตาย ยิ่งสกิลเทพเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีความต้องการแรงค์ที่สูงขึ้นตาม ส่วนวิธีอัพเกรดตัวละครอีกหนึ่งช่องทางจะถูกเรียกว่า Requisition ที่มีรูปแบบคล้ายคลึงกับระบบแบทเทิลพาสที่ให้เราขยันเล่นฟาร์มบ่อยๆเพื่อเอาแต้มมาปลดล็อคของรางวัลต่างๆ ซึ่งมีทั้งชุดสกินเครื่องแต่งกายที่เน้นความสวยงาม ไปจนถึงไอเทมที่จำเป็นต่อการเล่น เช่น ปลดปืนกระบอกใหม่หรือปลดความสามารถพิเศษใหม่ๆให้กับแต่ละคลาส
ภารกิจเดียวที่คุณสามารถเลือกเล่นได้ในตอนต้นมันมีชื่อว่า Hot Fix เป็นมิชชั่นซ่อมแซมเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและพัดลมถ่ายเทความร้อนในเตาหลอม ส่วนภารกิจอื่นๆที่เหลืออีกจำนวนสี่มิชชั่นจะค่อยๆทยอยปลดล็อคมาให้เล่นตามลำดับภายหลังจากที่คุณเคลียร์ภารกิจก่อนหน้าเสร็จสิ้นเรียบร้อย จริงอยู่ว่าเป้าหมายภารกิจในแต่ละมิชชั่นมันอาจดูแตกต่างกัน เช่น ภารกิจหนึ่งให้เรากวาดล้างทำลายกระดาษโพสต์อิทที่แปะอยู่ทั่วออฟฟิศ ในขณะที่อีกภารกิจให้เราคุ้มกันนำส่งเพย์โหลดไปให้ถึงจุดหมาย แต่ทว่าสุดท้ายแล้วทุกภารกิจมันก็พาเราวนเวียนอยู่กับลูปเกมเพลย์แบบเดิมๆ ไม่เดินหน้ายิงฝ่าฝูงศัตรู ก็ก้มหน้าก้มตาซ่อมแซมข้าวของที่พังกดปุ่ม L1 กับ R1 สลับกันไปอยู่อย่างนั้น เรียกว่านอกจากสีสันของฉากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปแล้วตัวเกมแทบไม่มีอะไรสดใหม่มานำเสนอมอบให้แก่ผู้เล่นเลย เคลียร์ครบจบ 5 ภารกิจปุ๊บความอยากก็อันตรธานหายไปปั๊บ ไม่มีกะจิตกะใจเรี่ยวแรงอยากกลับไปเล่นซ้ำเลยแม้แต่น้อย
เกมนี้รองรับทั้งการเล่นโซโลคนเดียวและออนไลน์ Co-op พร้อมกัน 3 ผู้เล่นแบบ Drop In Drop Out กดเข้ามาจอยกันได้ทุกเมื่อในระหว่างที่ภารกิจกำลังดำเนินอยู่ ซึ่งเอาจริงๆตัวเกมมันก็มีฟีเจอร์ครอสแพลตฟอร์มมาให้แหละ แต่ไม่รู้เป็นเพราะระบบจับคู่ในช่วงแรกมันมีปัญหาหรือว่าเกมเพลย์มันน่าเบื่อคนเล่นน้อย เราจึงหาเพื่อนเล่นออนไลน์ด้วยกันค่อนข้างยากลำบากเอามากๆ บรรยากาศภาพรวมของเกมจึงดูวังเวงชวนรู้สึกเหงาว้าเหว่จนน่าตกใจ พอนานๆทีจะมีใครสักคนโผล่แวบเข้ามาจอยเกมเรา แต่เผลอแปบเดียวเขาก็หายหน้าออกจากเกมไปดื้อๆ ไม่แน่บางทีมันอาจเกี่ยวข้องกับอาการเกม Crash เด้งหลุดก็เป็นได้ เพราะผู้เขียนเองก็เคยพบเจอมากับตัวในฉากภารกิจ 4 ที่เราต้องยิงโฟมสีชมพู พอมิชชั่นใกล้จบได้เวลาหนีขึ้นลิฟต์แล้วตัวเกมดันแครชเด้งออกกลางคันซะอย่างนั้น ทำเราหงุดหงิดหัวเสียไปครึ่งวันเลยเชียว
"สิ่งที่ขาดหายไปจากเกม FBC Firebreak มันมิใช่แค่เรื่องไอเดียหรือปริมาณเนื้อหาคอนเทนต์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของทีมงาน Remedy อย่างความสนุกความเท่หรือลูกเล่นหน่วงเวลาเจ๋งๆที่เคยมีในซีรีส์ Max Payne และ Alan Wake จุดขายลายเซ็นต่างๆเหล่านี้กลับไม่พบเจอในผลงานล่าสุดของพวกเขา ราวกับไปรับเอาเกมดับเพลิงอินดี้ที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ของใครไม่รู้มาขายต่อพร้อมแปะฉลากเติมคำว่า "เรเมดี้" ลงไป นี่จึงไม่ใช่ผลงานที่ควรค่าแก่การถูกบันทึกในเกียรติประวัติของสตูดิโอ และไม่คู่ควรพอจะไปอยู่ในคลังไลบรารีของแฟนคลับเสียด้วยซ้ำ"
เกมเพลย์ | 6 |
กราฟิก | 7 |
เสียง | 6 |
ปริมาณเนื้อหา | 4 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 5 |
ภาพรวม | 5.6 |
ข้อดี: ภาพกราฟิกจัดว่ายังพอได้อยู่, ทุกคลาสมีจุดแข็งแตกต่างชัดเจนแม้ให้มาแค่สาม, ระดับความยากที่ปรับเปลี่ยนได้ตามใจ, มีอุปกรณ์ของอัปเกรดใหม่ให้ปลดล็อคเรื่อยๆ และคงไม่เจ็บมากหากคุณเป็นสมาชิกเพลย์สเตชันพลัสหรือเกมพาสอยู่แล้ว
ข้อเสีย: การลากเป้าเล็งยิงบนคอนโซลดูไม่ค่อยตอบสนองเท่าไหร่, เปิดมาถึงก็ออนไลน์เล่นจริงเลยไร้บทฝึกสอนใดๆ, เอไอศัตรูเลือกไม่ถูกว่าจะตามใครบ่อยครั้งเดินผ่านเราไปหน้าตาเฉย, กิจกรรมตลอดทั้งเกมมีแค่กดปุ่ม L1 สลับกับ R1, สกินของรางวัลต่างจากเดิมแค่สีสัน, ปุ่มหมอบนั่งยองใส่มาทำไมในเมื่อไม่ได้ใช้?, ภารกิจน้อยไม่ค่อยอัปเดตแถมไม่ชวนให้กลับไปเล่นซ้ำ, การนำเสนอภาพรวมเหมือนเกมทุนต่ำ, จับคู่นานหาคนเล่นด้วยยาก, สักพักเกมแครชเด้งหลุดเสียเวลาครึ่งชั่วโมงไปฟรีๆ และเทียบเนื้อหากับราคาแล้วกำตังค์ไปซื้อ Helldivers 2 มาเล่นจะดีกว่า
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*