แนว แอ็คชั่นต่อสู้
ระบบ PS4, Xbox One, PC
เรตเกม PEGI: 12 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป
ผลงานแอ็คชั่นจากการ์ตูนสุดเวอร์วัง “วันพันช์แมน” ที่ให้คุณต้องสวมวิญญาณเป็นฮีโร่กิ๊กก๊อกประดับฉาก เพราะความเก่งกาจของตัวเอกเป็นเหตุ
หากจะลิสต์รายชื่ออนิเมะ หรือมังงะ ที่ยากต่อการนำไปดัดแปลงสู่สื่อบันเทิงรูปแบบอื่นๆ ด้วยความฉีกแหวกแปลกแนวแบบเพี้ยนสุดกู่ หนึ่งในนั้นคงต้องยกให้ “วันพันช์แมน” ผลงานการ์ตูนชื่อดังของผู้แต่งนามปากกา “วัน” ที่ดันสร้างตัวละครเอกฮีโร่ เก่งเวอร์ซะเกินคนจนระดับสเกลพลังไม่มีใครในจักรวาลเทียบติด แข็งแกร่งยิ่งใหญ่มาจากไหนก็ต้องพ่ายให้กับกำปั้นหมัดเดียวของเขา ถ้าคิดจะทำเป็นเกมให้ตรงตามต้นฉบับ ก็คงเป็นเหมือนกับการเอาข้อมูลตัวละครหลังจบเกมเลเวลตันสูงติดเพดานไปเริ่มเล่นด่านแรกใหม่ ซึ่งเป็นอะไรที่ขาดความสนุกท้าทาย และผิดหลักแนวทางการดำเนินเกมปกติทั่วไป ที่ผ่านมาจึงมักไม่ค่อยมีใครกล้าลองของ จนกระทั่งทาง บันไดนัมโคตัดสินใจอยากขอลองเสี่ยงกับมันดูสักตั้ง กับผลงานเกมที่มีชื่อว่า One Punch Man: A Hero Nobody Knows
สำหรับเกมดังกล่าว มันเป็นผลงานการสร้างสรรค์ของสตูดิโอ Spike Chunsoft ทีมพัฒนาเจ้าเก่าที่ได้เลือกปรับเปลี่ยนวิธีการนำเสนอ เพื่อไม่ให้มันเป็นเกมแอ็คชั่นต่อสู้ที่น่าเบื่อจบไว โดยการให้ผู้เล่นต้องสร้างตัวละครสวมบทบาทเป็น ฮีโร่โนเนมหน้าใหม่ ที่เพิ่งถูกบรรจุเข้ามาในสมาคม ผู้ต้องฝึกฝนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ไต่อันดับแรงค์จาก ฮีโร่คลาส C ไปสู่จุดสูงสุด ฮีโร่คลาส S ที่ใครๆต่างให้การยอมรับ ส่วนตัวละครหลักที่คุ้นหน้าในการ์ตูน จะถูกลดบทบาทเป็นเพียง ฮี่โร่พี่เลี้ยงที่คอยโผล่มาซัพพอร์ตสนับสนุนช่วยเหลือเรายามต่อสู้ในบางครั้งบางคราเท่านั้น (มิได้ให้เราบังคับตัวละครดังๆแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยอย่างที่คิดไว้หรอกนะ)
เมื่อตัวเราเป็นเพียง ฮีโร่มือใหม่ เริ่มไต่เต้าสั่งสมชื่อเสียงตั้งแต่คลาสต่ำสุดที่ Rank C ภารกิจหลักของเราในช่วงแรก จึงวนเวียนอยู่กับมิชชั่นง่ายๆไม่เสี่ยงอันตรายมากนัก อย่างเช่น ภารกิจปกป้องอพยพผู้คนออกจากที่เกิดเหตุ หรือสู้กับมอนสเตอร์แรงค์ต่ำๆไปก่อน หากเป็นมอนสเตอร์สุดแกร่ง เราจะทำได้เพียงแค่สู้เตะถ่วงประวิงเวลา ระหว่างรอให้ฮีโร่ตัวจริงจอมสายเดินทางมาถึง ดังนั้นปัจจัยในเรื่องของ “เวลา” จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ โดยตัวเรานั้นมีหน้าที่ต้องสู้อยู่รอดให้นานที่สุด จนกว่าเวลาเคาท์ดาวน์จะสิ้นสุดลง ยิ่งหากเราคอมโบทำแดมเมจใส่ศัตรูได้มาก ระยะเวลาที่เราต้องรอก็จะยิ่งถูกหักลด หรือพูดง่ายๆคือช่วยให้พระเอกตัวจริงขี่ม้าขาวมาถึงเร็วขึ้น นั่นเอง
ทางด้านระบบเกมเพลย์นั้น แทบไม่ต่างจากเกมแนวต่อสู้ทั่วๆไป มีปุ่มโจมตีหนัก-เบา ปุ่มตั้งการ์ดหลบหลีก และปุ่มท่าไม้ตายพิเศษที่ต้องชาร์จพลังถึงระดับหนึ่งเสียก่อน โดยถึงแม้ตัวเกมจะเลือกใช้มุมกล้องแบบมองจากด้านข้างเห็นตัวละครหันหน้าชนกัน แต่ผู้เล่นก็สามารถบังคับตัวละครเดินรอบทิศสำรวจฉากสังเวียน 3D ได้อย่างอิสระ ทว่าน่าเสียดายที่ แอนิเมชั่นการเคลื่อนไหวของตัวละคร มันดูแข็งทื่อเป็นหุ่นยนต์ไปหน่อย จนบางทีทำเอาจังหวะต่อคอมโบของเราติดขัดไม่ลื่นไหล ชวนให้อึดอัดใจเสียอารมณ์มิใช่น้อย
อย่างที่แฟนๆหลายคนทราบกันดีว่า ในจักรวาลที่บุรุษหมัดเดียวของเราอาศัยอยู่นั้น มันไม่ได้มีเพียงแค่ มนุษย์ผ่าเหล่าชั่วร้าย หรือสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์ เท่านั้นที่เป็นภัยร้ายแรงต่อมวลมนุษยชาติ แต่ยังมีภัยพิบัติตามธรรมชาติทั้งที่เกิดจากน้ำมือของมนุษย์และที่มาจากนอกโลกด้วย อาทิ สภาพอากาศแปรปรวน พายุฟ้าผ่า ไปจนถึงอุกกาบาตลูกยักษ์ ที่ร่วงหล่นตกใส่ลงมาจากท้องฟ้า ซึ่งในเกมระหว่างที่เรากำลังต่อสู้อยู่นั้น ก็มีโอกาสเกิดปรากฏการณ์เหล่านี้ได้เช่นกัน ถ้าเรารู้จักใช้มันก็จะเป็นประโยชน์อย่างมาก แต่หากไม่ระวังก็อาจเป็นโทษมหันต์ได้เหมือนดาบสองคม
พูดถึงความลึกซึ้งซับซ้อนของเกมๆนี้ คงเทียบได้กับ ระดับแม่น้ำโขง ณ ปัจจุบัน ที่แห้งขอดตื้นเขินไม่เหลืออะไรให้น่าค้นหา เพราะตลอดทั้งเกมมีเพียงแค่การเดินสำรวจเมือง พูดคุยกับตัวละคร NPC และทำเควสต์ที่ได้รับมอบหมายจากสมาคมฮีโร่ เวียนวนสลับกันอยู่แค่นี้ หากจะมีอะไรที่ดูพอน่าสนใจอยู่บ้างก็คงเป็นเรื่องที่ตัวเราสามารถผูกมิตรหรือขอเป็นลูกศิษย์ เหล่าตัวละครฮีโร่ชื่อดังในการ์ตูน เพื่อซึมซับเรียนรู้สไตล์การต่อสู้ใหม่ๆ, ได้เคล็ดลับวิชาท่าไม้ตาย และปลดล็อคเขามาใช้เล่นในโหมดออนไลน์ได้ แต่ก็อีกนั่นแหละ ด้วยความจำเจของเควสต์ ที่อุตส่าห์จั่วหัวไว้ซะดิบดีว่า นี่เป็นภารกิจจับโจร หรือมิชชั่นช่วยเหลืออพยพผู้คนนะ ทว่าสุดท้ายดันทะลึ่งลงเอยด้วยฉากการต่อสู้แบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ร่ำไป จึงทำให้ประสบการณ์ภาพรวมของเกมนี้ดูเป็นอะไรที่จืดชืดน่าเบื่อเอามากๆ
ด้วยเสน่ห์จุดขายของการ์ตูน "วันพันช์แมน" ต้นฉบับ ที่จงใจปั้นชงเหล่ามอนสเตอร์ให้ดูเก่งกาจแบบหลุดโลก แล้วค่อยเกทับหักมุกด้วยความเหนือชั้นขั้นกว่าของฮีโร่พระเอกหัวเหม่ง นั่นจึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้การพยายามนำเสนอถ่ายทอดมันออกมาสู่รูปแบบวิดีโอเกมในครั้งนี้ ดูขาดๆล้นๆไร้ซึ่งความสมดุล เพราะอย่างที่พวกเรารู้กันดีว่า สีสันความมันของเกมแนวต่อสู้ มักอยู่ที่ความสูสีกันระหว่างตัวละคร ไม่มีตัวใดที่โกงเทพหรือกากเกินจนน่าเกลียด แต่สำหรับเกม One Punch Man: A Hero Nobody Knows ที่ให้เราบังคับฮีโร่มือใหม่ตีศัตรูไม่ค่อยจะเข้า ทำได้เพียงแค่วิ่งหนีรอเวลาให้พี่โล้นมาเผด็จศึกจบไวเพียงหมัดเดียวเหมือนใส่สูตรนี้ สิ่งที่เราได้รับจากมันกลับมิใช่ความสนุก แต่เป็นความรู้สึกอารมณ์ค้างว่างเปล่าอธิบายไม่ถูก ที่แสดงออกมาผ่านทางแววตาแบบเดียวกับสีหน้าของ ไซตามะ
"จริงๆเราเองก็พอเข้าใจได้อยู่นะว่า การหยิบเอาการ์ตูนเรื่อง "วันพันช์แมน" มาทำเป็นเกมนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยด้วยความเก่งกาจแบบสุดติ่งของพี่เหม่ง "ไซตามะ" ซึ่งแม้กระทั่งเกมรวมดาวอย่าง Jump Force ยังไม่กล้าที่จะส่งบัตรเชิญ แต่ถึงอย่างนั้น การนำเสนอมันออกมาให้ดูเละเทะเลวร้ายแย่ซะยิ่งกว่าที่เราจินตนาการคาดฝันได้นั้น มันช่างเป็นพลังที่่น่าหวาดหวั่นสุดเหลือเชื่อของทีมงาน Spike Chunsoft ราวกับพวกเขาคือกลุ่มคนที่แค่มาทำเกมเป็นงานอดิเรก"
เกมการเล่น | 5 |
กราฟิก | 6 |
เสียง | 6 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 7 |
ภาพรวม | 6 |
ข้อดี : ได้เรียนรู้เคล็ดวิชาใหม่ๆจากเหล่าอาจารย์ฮีโร่ กับพลังหมัดเดียวจอดสมชื่อ
ข้อเสีย : แอนิเมชั่นตัวละครแข็งทื่อมาก, ศัตรูที่ถูกเราอัดกระเด็นลุกช้าน่าปวดหัว, ฉากเมืองโหรงเหรง แถมโหลดวัตถุนานอีกต่างหาก, ไร้เควสต์อื่นใดให้ได้ทำ นอกจากการต่อสู้ และยึดตามต้นฉบับเกินไปจนตัวเกมขาดสีสันความสนุก
Shin
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท Bandai Namco Entertainment
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*