ประเภท หูฟังไร้สาย
ใช้ได้กับ: PS4, PC, Mac, Mobile
สินค้าน้องใหม่ในตระกูลหูฟังคอนโซลราคาเบาๆลิขสิทธิ์แท้จากโซนี่ ที่ถือเป็นการแก้ตัวปรับปรุงพัฒนาต่อยอดมาจากรุ่นเดิมเมื่อ 4 ปีก่อน
หากพูดชื่อ Gold Wireless Headset หลายคนคงจำกันได้ว่าทางบริษัท โซนี่ เคยผลิตออกวางจำหน่ายมาแล้วก่อนหน้านี้เมื่อปี 2014 ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูบวมหนาเทอะทะ โทนสีฟ้าตัดดำ พร้อมกับที่คาดศีรษะแบบพับเก็บได้สำหรับพกพาใส่กระเป๋า ซึ่งถึงแม้ลูกเล่นดังกล่าวจะค่อนข้างอำนวยความสะดวกสบายในการเคลื่อนย้าย แต่กลับประสบปัญหาเวลาใช้งาน เพราะตัววัสดุที่ไม่ค่อยแข็งแรงคงทนสักเท่าไหร่ และนั่นจึงเป็นจุดกำเนิดของหูฟังรุ่นใหม่ในปี 2018 ที่ถึงแม้ชื่ออาจฟังดูเหมือนเดิม แต่มันก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่แปรเปลี่ยนไป
จุดเด่นเรื่องแรกที่สังเกตเห็นได้ทันที นั่นคือเรื่องของทรวดทรงดีไซน์ ซึ่งใน หูฟังเวอร์ชันใหม่ 2018 ที่เรานำมารีวิวในครั้งนี้ จะแลดูผอมบางเพรียวลมกว่าหูฟังรุ่นเก่าอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะตรงบริเวณก้านที่คาดศีรษะ ที่ออกแบบมาใหม่ไม่สามารถพับเก็บได้อีกต่อไป แถมยังทำขึ้นจากวัสดุที่มีความยืดหยุ่นแข็งแรงทนทานมากกว่าเดิม หักยากต่อให้กางยืด หรือออกแรงบิดงอมากขนาดไหน ก็สามารถกลับคืนรูปได้ดังเดิม ซึ่งด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์แบบสลิมที่บางและเบากว่า จึงทำให้มันสวมใส่สบายพอดีพอเหมาะ ยามที่ต้องเล่นร่วมกับแว่น "เพลย์สเตชัน วีอาร์"
ทางด้านระบบเสียง Gold Wireless Headset รุ่นใหม่ ยังคงเป็นหูฟังสเตอริโอ ที่ซ่อนความสามารถพิเศษในการจำลองประสบการณ์เสียงรอบทิศทาง 7.1 Virtual Surround Sound แบบเดียวกับรุ่นพี่ ซึ่งถือเป็นจุดขายหลักของหูฟังในตระกูล Gold Wireless เนื่องด้วยเสียงที่ได้ยินหากฟังแบบผิวเผิน คงแยกลำบากแทบไม่ต่างจากหูฟังระบบเสียง 7.1 แท้ราคาแพงๆตามท้องตลาด เพราะนอกจากความกระหึ่ม หนักแน่น และทรงพลังแล้ว มันยังสามารถเลียนเสียงที่มาจากทิศทางต่างๆ ทั้งหน้า หลัง ข้างๆ เยื้องซ้าย เยื้องขวา ได้อย่างมีมิติ และครบอรรถรสเต็มอิ่ม ไม่ว่าจะเล่นเกมก็ดี หรือรับชมภาพยนตร์ก็ได้ ถึงแม้มันอาจจะไม่ได้เพอร์เฟกต์สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซนต์ แต่ก็นับว่าเป็นบุญหูคุุ้มค่ากับราคาในระดับนี้
ตรงบริเวณปุ่มเปิดใช้งาน เจ้าหูฟังรุ่นใหม่นี้ยังคงมาพร้อมกับโหมดเสียงที่มีให้เลือกถึง 2 แบบเหมือนเช่นเคย โดยแบบแรกที่มีหมายเลข 1 กำกับนั้น จะเป็นโหมดเสียงแบบปกติดั้งเดิมจากต้นฉบับ ที่ไม่ได้รับการปรุงแต่งใดๆ ในขณะเดียวกัน ถ้าเราเลื่อนปุ่มเปิดไปที่ตำแหน่งหมายเลข 2 ก็จะเป็นการเข้าสู่โหมดเสียงแบบเน้นเบสหนักๆ อย่างไรก็ตาม ในโหมดเสียงแบบที่สองนี้ หากไม่ชอบใจ เราก็สามารถเลือกเอาโหมดเสียงที่เราปรับแต่งเองเข้ามาใส่แทนได้ โดยสามารถเข้าไปปรับแต่งเสียงที่ต้องการได้ผ่านแอพพลิเคชันดาวน์โหลดฟรี Headset Companion บนเครื่อง PS4 โดยจะมีตัวเลือกมาให้หลากหลาย ทั้งปรับแต่งเสียงเอง หรือเลือกใช้โหมดเสียงที่ทีมผู้พัฒนาเกมปรับจูนเซตมาให้แล้ว ซึ่งในบรรดาโหมดเสียงเฉพาะของเกมต่างๆที่ขนมาให้เลือกใช้ มันก็จะมีเกมฟอร์มใหญ่อย่าง God of War ภาคล่าสุด รวมอยู่ในนั้นด้วย
สำหรับคอนเซปต์ภาพรวม ยังคงเดิมเหมือนหูฟังตระกูลโกลด์ไวร์เลสรุ่นก่อนหน้า คือเน้นใส่สบาย ใช้งานง่ายเป็นหลัก เพียงแค่เสียบตัว Wireless Adaptor ที่เป็นลักษณะแท่ง USB Dongle เข้าไปที่พอร์ต USB ด้านหน้าเครื่อง PS4 เท่านี้ก็สามารถใช้งานหูฟังได้เลยทันที โดยไม่ต้องติดตั้ง หรือลงโปรแกรมเสริมอื่นใดให้วุ่นวาย และด้วยความที่มันเป็นหัวเสียบไร้สายแบบ USB ดังนั้น เหล่าสาวกพีซี, แมคอินทอช รวมไปถึงผู้ใช้คอมพิวเตอร์ แลปท็อป ทั้งหลาย จึงได้อานิสงส์ผลบุญสามารถหยิบนำหูฟังตัวนี้ มาใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ทั้งหมดที่กล่าวมาได้ด้วยไปโดยปริยาย ยิ่งไปกว่านั้น ตัวหูฟังยังสามารถรองรับการใช้งานร่วมกับแทบเล็ต และมือถือ ผ่านสายสัญญาณเสียงแบบ 3.5mm ที่พ่วงแถมมาให้เสร็จสรรพภายในกล่อง
ส่วนเรื่อง ไมโครโฟนฝังใน อันเป็นปัญหาจุดบอดในตัวหูฟังรุ่นก่อน ที่ทำให้เสียงพูดที่ออกมาฟังดูอู้อี้ไม่สบายหู ในตัวหูฟังเวอร์ชันใหม่นี้ ทาง โซนี่ ก็ได้มีการแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นมากพอสมควร ด้วยการเปลี่ยนย้ายตำแหน่งช่องรูไมค์รับเสียง จากเดิมที่เคยซุกซ่อนอยู่ในมุมหลืบถูกทับด้วยที่คาดศีรษะ ต้องดึงเลื่อนปรับที่คาดลงมาจนสุดถึงจะโผล่ออกมาให้เห็น มาคราวนี้รูไมค์ดังกล่าว ได้ถูกย้ายไปประจำอยู่ ณ ตรงบริเวณแผงปุ่มปรับเสียงแล้ว ขยับเข้ามาใกล้ปากของผู้ใช้งานมากขึ้น แถมเปิดโล่งไม่มีอะไรมาบดบัง จึงเป็นเหตุให้เสียงพูดที่ออกมาเคลียร์ชัดเจนฟังง่ายกว่าเก่า แต่อาจจะไม่ได้ใสกิ๊งไพเราะเพราะพริ้งเหมือนกับหูฟังแบบที่มีไมค์ยื่นออกมา ซึ่งเหล่าเกมแคสเตอร์คงต้องชั่งใจพิจารณาในส่วนนี้กันสักเล็กน้อย
จุดติอีกหนึ่งเรื่องที่ทำเอาเราสงสัยข้องใจอยากตีมือทีมงานนักออกแบบ นั่นคือความดื้อรั้นยึดมั่นในอุดมการณ์เดิมของพวกเขา ที่ยังคงเลือกจัดวางตำแหน่งปุ่มปรับเสียงต่างๆให้กระจุกอยู่รวมกันแค่เฉพาะหูฟังฝั่งซ้ายเท่านั้น ในขณะที่หูฟังฝั่งขวากลับปล่อยโล่งเตียนเกลี้ยงเกลาไร้ปุ่มบังคับควบคุมใดๆ ซึ่งด้วยปุ่มกดที่อัดแน่นเรียงรายต่อติดกันเป็นแถวยาวพรืดครอบคลุมเต็มพื้นที่ จึงก่อให้เกิดปัญหาเวลาใช้งานจริง เพราะยามเราออกแรงกดปุ่มปรับเสียงหูฟังที่อยู่ด้านหลัง บรรดานิ้วอื่นๆที่เหลือของเรามักจะเผลอไปโดนกดติดปุ่มปรับเสียงไมค์ที่บริเวณด้านหน้าอยู่เสมอ นั่นเอง
เหล่าสาวกคนใดที่กำลังมองหาหูฟังไร้สายดีๆมาใช้ดูหนัง-เล่นเกมบนเครื่อง PS4 หรือเคยมีหูฟังรุ่นเดิมอยู่แล้ว แต่อยากอัปเกรดเปลี่ยนใหม่ New Gold Wireless Headset ถือเป็นตัวเลือกที่ทางเราอยากแนะนำ ด้วยความสะดวกสบายใช้งานง่าย พลังเสียงทรงพลังคุ้มค่าเกินราคา และความสารพัดประโยชน์ของมัน ที่ใช้งานได้กับแทบทุกอุปกรณ์แบบครอบจักรวาล อีกทั้งปัญหาใหญ่ๆก็ล้วนได้รับการพัฒนาแก้ไขปรับปรุง ดังนั้นแล้ว มันจึงเปรียบเสมือนคำตอบสำหรับใครก็ตามผู้ใฝ่หา "สิ่งที่ดีกว่า"
ราคาจำหน่าย 3,490 บาท
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท โซนี่ อินเตอร์แอคทีฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ ฮ่องกง สาขาสิงคโปร์ (หรือ SIES)
คลิปตัวอย่างทดสอบเสียงไมค์