xs
xsm
sm
md
lg

โลจิเทคส่ง “โลจิเทค จี” ซับแบรนด์ลุยตลาดเกมเมอร์ ชูคุณภาพอึด-ทน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


โลจิเทค (Logitech) เดินหน้าลุยตลาดเกมมิ่งเต็มตัว หลังแนวโน้มการเติบโตในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ประกาศปีหน้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 712 ล้านบาท) จากการแตกซับแบรนด์โลจิเทค จี (Logitech G) ในการทำตลาดอุปกรณ์เสริมเกมโดยเฉพาะ

นางสาวศิราณี วุฒิภดาดร ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัทโลจิเทค กล่าวว่า จากแนวโน้มการเติบโตในตลาดเกม ทำให้ตลาดอุปกรณ์เสริมสำหรับเล่นเกมมีการเติบโตเพิ่มขึ้นไปด้วย ทำให้ทางโลจิเทค มีการโฟกัสกับการทำตลาดอุปกรณ์เกมภายใต้แบรนด์โลจิเทค จี มากยิ่งขึ้น เพื่อรับกับความต้องการของผู้บริโภค

“ก่อนหน้านี้ลูกค้าอาจจะไม่ใช้สินค้าแบรนด์ แต่วันนึงที่อยากเป็นเกมเมอร์ ต้องหาอุปกรณ์ให้ถนัดมือรองรับความต้องการของเกมนั้นๆ เหมือนเป็นจุดเริ่มต้นของนักเล่นเกมที่ให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ในการเล่นเกมมากขึ้น นอกจากนี้ ในส่วนของเกมเมอร์ หรือเด็กเล่นเกม จะใช้อารมณ์ในการซื้อสินค้าอีกด้วย”

ขณะเดียวกัน การปรับภาพแบรนด์ให้แตกออกมาเป็นโลจิเทค จี จะช่วยสร้างความแตกต่างจากแบรนด์โลจิเทค เดิมที่เป็นเฉพาะอุปกรณ์ไอทีเพียงอย่างเดียว ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นการทำตลาดอุปกรณ์เกมมากขึ้น ซึ่งปัจจุบัน รายได้ของโลจิเทค จะมาจากอุปกรณ์เกมราว 40% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต

“ด้วยมูลค่าของอุปกรณ์เสริมเกมที่สูงกว่าในกลุ่มอุปกรณ์ที่เป็นสินค้าไอที 2-3 เท่า ดังนั้น จึงเป็นตลาดที่โตโดยมูลค่าของอุปกรณ์อยู่แล้ว ส่วนในอนาคตการแข่งขันในตลาดนี้ก็จะอยู่ที่เทคโนโลยีมากขึ้นจากการที่ผู้ผลิตอุปกรณ์ทำงานร่วมกับผู้ผลิตเกมเพื่อพัฒนาสินค้าออกมาจับกลุ่มลูกค้าเฉพาะมากยิ่งขึ้น”

ขณะเดียวกัน ด้วยการที่กลุ่มเป้าหมาย หรือ เกมเมอร์เป็นตลาดเฉพาะ (Niche market) ถ้าเคยลองใช้สินค้าแบรนด์ทั่วไปจะพบว่า สินค้าจะเสียง่าย แต่เมื่อใช้แบรนด์อย่างโลจิเทค จะมีความอึด และทนมาตั้งแต่การจำหน่ายสินค้าไอที และตัวล่าสุดที่ออกมา ซึ่งเด็กเล่นเกมไม่ได้กังวลในส่วนของราคา แต่ให้ความสนใจในแง่ของประสิทธิภาพมากกว่าอยู่ที่ความชอบส่วนตัวของแต่ละบุคคล

นอกจากนี้ ยังพบว่า ตลาดอุปกรณ์เสริมของเกมจะมีวงจรเติบโตตามประเภทเกมที่ได้รับความนิยมในขณะนั้น ซึ่งผู้บริโภคก็จะซื้ออุปกรณ์เสริมตามประเภทของเกม ไม่ว่าจะเป็นเกมแนว FPS เกมแนววางแผนการรบ หรือถ้าเป็นเกมขับรถ ขับเครื่องบินก็จะมีการซื้ออุปกรณ์เสริมเฉพาะ

“ในส่วนของการเติบโตในเมืองไทย โลจิเทค ตั้งเป้าว่า ในปีหน้าจะสามารถเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 30% สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะแบ่งเป็นงบสำหรับการทำตลาดประมาณปีละ 2 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะทุ่มให้กับการทำตลาดอุปกรณ์เสริมเกมทั้งหมด”

สำหรับช่องทางจำหน่ายของโลจิเทค ในปัจจุบันจะจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายหลัก 3 ราย คือ เอสไอเอสดิสทริบิวชั่น, ซินเน็ค และ บันเลือง ชินอินเตอร์ โดยทางโลจิเทค จะไม่มีแผนการจำหน่ายอุปกรณ์ผ่านช่องทางออนไลน์ด้วยตนเอง แต่จะร่วมกับพันธมิตรที่เป็นตัวแทนจำหน่ายในการจำหน่ายผ่านออนไลน์แทน

“พฤติกรรมของลูกค้าที่ซื้ออุปกรณ์ไอทีจะมั่นใจในแบรนด์อยู่แล้ว ทำให้สามารถวางจำหน่ายออนไลน์ได้ทันที แต่ในส่วนของลูกค้าที่เป็นเกมเมอร์จะต้องมีการทดลองก่อนตัดสินใจซื้อ ดังนั้น จึงเน้นการทำตลาดผ่านออนไลน์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มนักเล่นเกมมากกว่า ส่วนการจำหน่ายก็จะเน้นการสร้างประสบการณ์ใช้งานผ่านหน้าร้านเป็นหลัก”

ทั้งนี้ ในปี 2017 โลจิเทคมีโอกาสที่จะเปิดหน้าร้านค้าของโลจิเทค ในการนำเสนอประสบการณ์ในการใช้งานให้แก่ลูกค้า ที่ปัจจุบันในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เริ่มเปิดแล้วในสิงคโปร์ และมาเลเซีย โดยนโยบายของโลจิเทค คือ การให้ลูกค้าได้ลองสัมผัสสินค้าจริง และไม่มีการนำสินค้าที่เป็นเดโมมาให้ทดลองใช้งาน

ล่าสุด โลจิเทคได้เปิดตัวชุดผลิตภัณฑ์ในซีรีส์ Prodigy ประกอบด้วย เมาส์โลจิเทค จี403 โปรดิจี (Logitech G403 Prodigy Gaming Mouse) เมาส์แบบไร้สาย โลจิเทค จี403 โปรดิจี (Logitech G403 Prodigy Wireless Gaming Mouse) คีย์บอร์ดแบบอาร์จีบี โลจิเทค จี213 โปรดิจี (Logitech G213 Prodigy RGB Gaming Keyboard) และหูฟัง โลจิเทค จี231 โปรดิจี (Logitech G231 Prodigy Headset) ในระดับราคา 2,299-3,999 บาท

Company Relate Link :
Logitech
กำลังโหลดความคิดเห็น