เฟซบุ๊ก (Facebook) ถือเป็นบริษัทยักษ์ใหญไม่กี่แห่งที่มีวิสัยทัศน์ด้านเวอร์ชวลเรียลิตีที่ชัดเจนมาโดยตลอด นับตั้งแต่การควบกิจการบริษัทโอคูลัส (Oculus) ตั้งแต่ปี 2014 ด้วยมูลค่าสองพันล้านเหรียญสหรัฐ ล่าสุด ผ่านมาสามปี ก็ถึงเวลาที่เฟซบุ๊กจะส่งอุปกรณ์เวอร์ชวลเรียลิตีออกมาเขย่าตลาดบ้างแล้ว
โดยสำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า เฟซบุ๊กมีแผนจะเปิดตัวอุปกรณ์สวมศีรษะแบบเวอร์ชวลเรียลิตี หรือ VR Headset ที่มีราคาย่อมเยา และสามารถเชื่อมต่อแบบไร้สายได้ในปี 2018 พร้อมทั้งเชื่อว่า อุปกรณ์ดังกล่าวจะเข้ามาแทรกในตลาดตรงส่วนที่ยังว่างอยู่ได้อย่างดี
ช่องว่างในตลาด VR Headset ตามมุมมองของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก คือ อุปกรณ์ที่มีราคาระดับกลาง ที่สามารถตอบสนองการใช้งานในระดับไฮเอนด์ได้
โดยปัจจุบัน VR Headset นั้นอาจแบ่งได้เป็นสองระดับ คือ ระดับราคาถูกที่เพียงใส่สมาร์ทโฟนเข้าไปก็ทำงานได้ กับแว่น VR ระดับไฮเอนด์ที่มีราคาแพง และมักใช้กันในหมู่เกมเมอร์
โดย VR Headset ของเฟซบุ๊กที่สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า จะเปิดตัวในปี 2018 นั้น คาดว่าจะวางจำหน่ายในราคาเพียง 200 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6,800 บาท แถมยังทำงานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟนใด ๆ ด้วย ตรงกันข้ามกับ VR Headset รุ่นไฮเอนด์อย่างโอคูลัส ริฟต์ (Oculus Rift) ที่ปัจจุบันเฟซบุ๊กวางขายอยู่ในราคา 400 เหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
แถมยังต้องการอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในการเชื่อมต่อการทำงานอีกด้วย
อย่างไรก็ดี ปฏิเสธไม่ได้ว่า ตลาดแว่น VR ระดับไฮเอนด์หลาย ๆ เจ้านั้น เริ่มมีการเติบโตน้อยลงเรื่อย ๆ ขณะที่ซัมซุง เกียร์ วีอาร์ (Gear VR) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีราคาถูกมากในท้องตลาดนั้น ก็สามารถขายได้ถึง 490,000 ชิ้นในไตรมาสแรกของปี ดังนั้น หากนักวิเคราะห์ หรือเฟซบุ๊ก มองเทรนด์นี้ออกก็จะเข้าใจได้ว่า ทำไมการพัฒนาสินค้าคุณภาพระดับปานกลาง และราคาที่ไม่แพงนักออกมา จึงจำเป็นต่อธุรกิจ
นอกจากนั้น ในงานสัมมนาที่เฟซบุ๊กจัดขึ้นเมื่อปี 2016 บริษัทยังเคยประกาศจะลงทุนเพิ่ม 250 ล้านเหรียญสหรัฐ ในบริษัทหรือนักพัฒนาที่สร้างคอนเทนต์ด้านเวอร์ชวลเรียลิตี เช่น เกม หรือภาพยนตร์ด้วย