แนว แอ็คชั่น
ระบบ PS4, Xbox One, PC
เรตเกม PEGI: 18 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
มาหวนอดีตไปด้วยกันอีกครั้ง ในผลงานเกมแอ็คชั่นลอบฆ่าภาคล่าสุดของค่ายยูบิซอฟต์ ที่บอกเล่าติดตามนักรบ "เมดไจ" รุ่นสุดท้าย ผู้ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นมือสังหารคนแรกแห่งประวัติศาสตร์แอสซาซินครีด
อันทุกเหตุการณ์ย่อมต้องมีจุดเริ่มต้น และทุกตำนานเล่าขานย่อมต้องมีผู้บุกเบิกรายแรก ซึ่งอย่างที่เราทราบกันดีในวงการบันเทิงว่า หากจะให้เขียนบทปูประวัติเล่าย้อนถึงเรื่องราวในอดีตที่เป็นตัวจุดชนวน ส่วนใหญ่มักนิยมหยิบนำเอาช่วงเวลาสมัย "อียิปต์โบราณ" ที่เป็นอารยธรรมเก่าแก่สุดของมนุษย์เท่าที่โลกเคยรู้จัก มาดัดแปลงผูกโยงผสมโรงเข้าไปด้วยเสมอ ไล่ตั้งแต่ภาพยนตร์ ยันหนังสือการ์ตูน ไม่เว้นแม้กระทั่งแฟรนไชส์เกมชื่อก้องโลกของค่ายดังเมืองน้ำหอม ที่ขอตามกระแสอียิปต์ฟีเวอร์อีกราย ด้วยผลงานภาคใหม่ที่หวังปูประวัติย้อนเรื่องราวจุดกำเนิดของกลุ่มภราดร “มือสังหาร”
สำหรับช่วงเวลาไทม์ไลน์ที่ตัวเกมหยิบยกมานำเสนอนั้น จะเป็นเหตุการณ์ช่วงท้ายใกล้สิ้นสุดยุคอารยธรรมอียิปต์ ในสมัยที่พระนาง "คลีโอพัตรา" เกิดความขัดแย้งบาดหมางไม่ลงรอยกับ "ปโตเลมีที่ 13" พระอนุชาผู้ร่วมปกครองอียิปต์ ซึ่งกำลังถูกองค์กรลับชักใยอยู่เบื้องหลัง จนนำไปสู่สงครามกลางเมือง กอปรกับเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่ สาธารณรัฐโรมัน นำโดย "จูเลียส ซีซาร์" ได้คืบคลานเข้ามาหวังยึดครองอียิปต์ ซึ่งเราในฐานะผู้เล่นก็จะได้สัมผัสกับช่วงเวลาแห่งกลียุค บ้านเมืองร้อนระอุลุกเป็นไฟ ผ่านสายตาของตัวละคร "บาเยค" และ "อาย่า" สองนักรบมือสังหารคู่ผัวตัวเมีย ที่จะมาร่วมจารึกวีรกรรมของพวกเขาลงไปบนหน้าประวัติศาสตร์
ตัวเกมยังคงยึดรูปแบบ “โอเพ่นเวิลด์” มอบฉากแผนที่อันกว้างใหญ่ไพศาลให้ผู้เล่นได้เดินสำรวจอย่างอิสระ ซึ่งต้องขอกล่าวชื่นชมทีมงานที่สามารถเก็บรายละเอียดปลีกย่อยของตำนานแดนฟาโรห์ และถ่ายทอดมันออกมาได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์กางใบเรือท่องชมวิวทิวทัศน์สองริมฝั่งแม่น้ำไนล์ เปิดศึกงัดข้อกับชาละวันยักษ์ ปีนไต่รูปปั้นมหาสฟิงซ์ ไถลสไลด์ตัวลงมาจากยอดสุดของพีระมิด ถือคบไฟขุดคุ้ยสมบัติที่ซ่อนอยู่ในสุสาน ขี่อูฐฟันฝ่าท่ามกลางพายุทะเลทรายเพื่อตามหาโอเอซิส กระทั่งกรำศึกทำสงครามระหว่างเรือรบเหนือน่านน้ำในแถบทะเลอีเจียน และจุดที่ทำให้ประทับใจอีกหนึ่งอย่างในภาคนี้ คือตัวละครเอกของเราจะสามารถปีนป่ายมันได้แทบทุกอย่างที่ตาเห็นราวกับ "ตีนตุ๊กแก" ต่อให้เป็นกำแพงผิวเรียบไร้จุดยึดเกาะ หรือหน้าผาหินชันสูงตระหง่านตั้งฉากกับพื้น มันก็ไม่ใช่ปัญหาอุปสรรคขัดขวางสำหรับคอเกมที่ไม่อยากเสียเวลา และชอบเดินหน้าพุ่งชนเข้าหาเป้าหมายแบบเป็นเส้นตรง
อย่างไรก็ดี ถึงแม้ตัวเกมจะให้อิสระผู้เล่นมากแค่ไหน สามารถเดินทางจากเมืองแรกไปยังเมืองสุดท้ายได้ตั้งแต่เริ่มยังไง แต่ทุกอย่างก็ถูกจำกัดควบคุมอยู่ภายใต้เงื่อนไขกฏเหล็กสำคัญ นั่นคือ "ระดับเลเวล" ที่เหล่าคอเกมอาร์พีจีคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยทั้งตัวเรา ศัตรู รวมถึงสัตว์ป่าในเกม จะมีตัวเลขเขียนระบุเลเวลกำกับเอาไว้อยู่บนหัวเสมอ นั่นหมายความว่า หากไปเจอศัตรูที่แข็งแกร่งเกินตัวเลเวลห่างชั้นมาก ต่อให้เรากระโดดลงมาจากยอดตึกหวังเผด็จศึกเอามีดลับจิ้มแทงคอเหยื่อจนมิดด้าม มันก็อาจลุกขึ้นมาเดินเหินต่อได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งเหมือนเป็นการขีดเส้นบังคับผู้เล่นไปในตัวให้เราไล่เก็บเควสต์ง่ายๆในเมืองแรกๆ แล้วค่อยไต่ระดับไปสู่เมืองใหม่ที่มีความยากขึ้นเรื่อยๆ
ทางฝั่งเควสต์ที่มีให้เลือกทำในเกมนั้น บอกได้เลยว่ามีเพียบหลากหลายเล่นเพลินจนลืมเนื้อเรื่องหลักกันเลยทีเดียว ไล่ตั้งแต่ล่าสัตว์ ไขปริศนา หาไอเทม นำส่งของ ปกป้องคุ้มกัน ยันลอบสังหารเป้าหมายสำคัญ โดยทุกกิจกรรมที่เราทำจะมีรางวัลตอบแทนเป็นแต้ม Exp เพื่อไปอัปเลเวล และปลดล็อคสกิลใหม่ๆให้กับตัวละคร ซึ่งสกิลในเกมจะแบ่งออกเป็น 3 สายหลักๆ คือสายนักรบ Warrior เน้นใช้อาวุธต่อคอมโบ, Seer สายพึ่งพาอาศัยประโยชน์จากสภาพแวดล้อม ที่มีสกิลเด่นๆอย่างทำให้สัตว์ป่าเชื่องดึงมันมาเป็นพวก และสุดท้าย Hunter สายนักล่าผู้ถนัดช่ำชองในการใช้ธนูรูปแบบต่างๆ แถมยังสามารถเพิ่มสกิลของ "นกอินทรี" ให้มันคอยบินสำรวจตรวจตรา รวมถึงจู่โจมจากทางอากาศ เรียกได้ว่ามีประโยชน์ยิ่งกว่า "โดรน" ในเกมโกสต์รีคอน เสียอีก
จากการที่ "บาเยค" ไร้ครูผู้ฝึกสอน และไม่เคยมีมือสังหารไอดอลรุ่นก่อนหน้าเขา สไตล์การต่อสู้ของพ่อหนุ่มตาคมผิวคล้ำของเราจึงหนักไปทางนักรบมากกว่านักฆ่า ดูไม่พลิ้วไหวไหลลื่นเหมือนตัวละครเอกมือสังหารในภาคก่อนๆ ซึ่งหากใครได้ลองจับจะรู้ได้ทันทีว่ามันมีกลิ่นอายคล้ายระบบการต่อสู้จากเกมค่ายเดียวกันอย่าง For Honor ที่เน้นการยกโล่ตั้งรับแล้วรอจังหวะสวนกลับ เพียงแต่ในเวอร์ชันโคลนนิ่งนี้ แอ็คชั่นทิศทางการโจมตีต่างๆมันไม่ได้ละเอียดสมจริงเท่าครึ่งของต้นฉบับ เหมือนกับว่าทีมงานรีบเร่งรีบทำออกมาแบบลวกๆ จนกลายมาเป็นจุดด่างพร้อยพลอยฉุดทำให้อรรถรสประสบการณ์โดยรวมของเกม ที่อุตส่าห์ดำเนินมาดีๆต้องร่วงดิ่งเหวไปอย่างน่าเสียดาย
ด้วยความใส่ใจ และความตั้งใจของทีมงาน ที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านฉากหลังอันสวยงามตระการตา, บรรดาเควสต์ที่น่าสนใจ และการดำเนินเรื่องราวอันแสนวิเศษ จึงทำให้ใจจริงในตอนแรก เรานึกอยากที่จะมอบเหรียญทองให้กับเกม "Assassin's Creed Origins" แต่ทว่าเมื่อนำระบบต่อสู้อันแสนก๊องแก๊งที่ให้ฟีลอารมณ์เหมือนกำลังเล่นเกม For Honor เวอร์ชันจีนแดงมาพิจารณาประกอบกันแล้ว ผลสรุปที่ได้ก็เลยออกมาเป็นอย่างที่เห็น
เกมการเล่น | 8 |
กราฟิก | 9 |
เสียง | 9 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 10 |
ภาพรวม | 8.9 |
ข้อดี : ฉากวิวทิวทัศน์อียิปต์แสนวิจิตร, แม็พแผนที่กว้างใหญ่, เควสต์น่าสนใจมากมาย, ปีนป่ายมันได้แทบทุกอย่าง, เกมเพลย์ลอบเร้นโดดเด่น, ผูกเรื่องราวได้แนบเนียน, สัตว์ป่าที่แลดูมีชีวิตชีวา และคอนเทนต์ใหม่ๆที่ขยันอัปเดตอยู่เรื่อยๆ
ข้อเสีย : ระบบต่อสู้ดูไม่จืด, บัคค่อนข้างเยอะ และเส้นทางการเดินสุดสะเปะสะปะของเหล่า AI
Shin
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท โซนี่ อินเตอร์แอคทีฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ ฮ่องกง สาขาสิงคโปร์ (หรือ SIES) และบริษัท Next Generation InnovationNGIN
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*