xs
xsm
sm
md
lg

Review: The Last Guardian เพื่อนซี้ต่างพันธุ์ ตะลุยแดนมหัศจรรย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แนว พัซเซิล
ระบบ PS4
เรตเกม PEGI: 12 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป

สิ้นสุดการรอคอย สำหรับผลงานเกมฟอร์มใหญ่ที่ปล่อยให้แฟนๆเฝ้าอดทนกันมานานเกือบทศวรรษ ซึ่งบอกเล่าการผจญภัยในหุบเขาปริศนาของหนุ่มน้อยผู้กล้า กับสัตว์ประหลาดยักษ์คู่ใจ

"เดอะ ลาสต์ การ์เดี้ยน" นั้นถึงแม้มันจะเป็นเกมใหม่ที่เพิ่งออกวางจำหน่าย แต่สำหรับเหล่าสาวกโซนี่ที่ติดตามข่าวสารมาโดยตลอด คงรู้สึกเหมือนมันเป็นเกมเก่า เพราะเป็นเกมที่เราทุกคนล้วนต่างได้เห็น และได้ยินชื่อกันบ่อยจนเอียน นับตั้งแต่ที่มันถูกประกาศเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2009 ว่าจะทำลงแพลตฟอร์มเพลย์สเตชัน 3 แต่ด้วยปัญหาสารพัดสารพันมากมาย จึงทำให้ตัวเกมถูกเลื่อนมาวางจำหน่ายในยุคเครื่องคอนโซลรุ่นใหม่อย่างเพลย์สเตชัน 4 ที่อะไรๆมันได้แปรเปลี่ยนไปแล้ว

รูปแบบเกมเพลย์ของ "เดอะ ลาสต์ การ์เดี้ยน" จะออกแนวผจญภัยไขปริศนาเน้นแก้พัซเซิลเป็นหลัก โดยที่พล็อตเรื่องจะบอกเล่าการผจญภัยเอาตัวรอดหาทางหนีออกไปจากดินแดนสนธยาของสองคู่ซี้ต่างสายพันธุ์ ระหว่างตัวละครของผู้เล่นที่เป็นหนุ่มน้อยแบเบาะตัวจิ๋วผู้ไร้กำลังวังชา กับเจ้า "ไตรโก" (Trico) สิ่งมีชีวิตแสนประหลาดหน้าตาสุดพิลึกพิลั่น ที่เสมือนหยิบนำเอา สุนัข แมว และนก มายำผสมรวมกันในร่างเดียว ซึ่งเรื่องราวที่ผู้เล่นสงสัย ทั้งต้นตอสาเหตุว่าทำไมเราถึงต้องมาติดแหง็กอยู่กับเจ้าสัตว์หน้าขน หรือการมีตัวตนอยู่ของสถานที่ลึกลับแห่งนี้ ทุกอย่างจะค่อยๆถูกเฉลยเมื่อเราเล่นผ่านไปเรื่อยๆ

เกมนี้ถือเป็นการหวนกลับมากำกับดูแลอีกครั้งของ "ฟุมิโตะ อุเอดะ" (Fumito Ueda) ไดเร็กเตอร์คนดังผู้เคยฝากฝังฝีมือการกำกับเอาไว้ในสองผลงานเกมระดับมาสเตอร์พีซของเครื่องเพลย์สเตชัน 2 อย่าง Ico และ Shadow of the Colossus ซึ่งแน่นอนว่าองค์ประกอบเด่นๆของสองเกมดังกล่าว ย่อมต้องถูกนำมาดัดแปลงประยุกต์ใช้ในผลงานเกมชิ้นล่าสุดนี้ด้วย โดยนอกเหนือจากบรรดาปริศนาที่มีให้ขบคิดกันจนปวดขมับแล้ว ผู้เล่นยังต้องผจญกับเหล่ารูปปั้นหินวิญญาณที่พยายามอุ้มลักพาตัวเราไปให้ได้ และจากการที่ตัวเราเป็นเด็กเล็กไม่มีเรี่ยวแรงไร้อาวุธติดตัว หนทางเดียวในการรอดจากเงื้อมมือของพวกมนุษย์หินดินปั้น นั่นคือใส่ตีนผีวิ่งหนีสุดชีวิต หรือหากถูกต้อนมุมจนถูกจับได้ก็ต้องละเลงรัวปุ่มบนจอยดิ้นให้หลุด เพื่อยื้อเวลาให้ฮีโร่สัตว์เลี้ยงร่างยักษ์ของเราวิ่งปรี่เข้ามาช่วย ซึ่งตีมหลักของเกมก็จะวนเวียนอยู่แบบนี้ให้อารมณ์คล้ายๆกับเกม Ico ที่เราต้องใช้ดาบวิเศษตีขจัดปัดเป่าคอยช่วยเหลือหญิงสาวผู้อ่อนแอไม่ให้ถูกจับตัว เพียงแต่คราวนี้บทบาทความรู้สึกจะกลับตาลปัตรสวนทางกันเท่านั้นเอง

ส่วนองค์ประกอบที่เกมนี้หยิบยืมมาจาก Shadow of the Colossus นั้น คงเห็นจะเป็นเรื่องของการปีนป่าย เพราะอย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่าตัวเรามีสัตว์หน้าขนเป็นเพื่อนร่วมทาง และตามลำตัวของมันก็จะเต็มไปด้วยขนนกที่ขึ้นปกคลุมรกรุงรัง และยาวพอให้ตัวเราสามารถยึดจับปีนป่ายมุดไปตามจุดต่างๆบนเรือนร่างของมันได้ ไม่ว่าจะเป็นต้นขา หน้าท้อง ไซ้ซอกคอ ขึ้นเหยียบหัว ไต่ลงล่าง เกาะหาง หรือบางเวลาเราอาจต้องคอยดึงหอกแหลมคมที่ศัตรูรูปปั้นปามาปักติดคาให้หลุดออกจากลำตัวเพื่อนของเรา เหมือนดังเหาฉลามที่ต้องคอยปกป้องหมั่นดูแลรักษาความสะอาดเจ้าบ้านที่ตนมาขอเกาะพักพิงอาศัยนั่นแล

ทางด้านพัซเซิลที่ถือเป็นหัวใจหลักของเกม ก็ล้วนถูกเซตออกแบบมาได้ดี และมีความหลากหลาย แถมยังสอดแทรกเรื่องของฟิสิกส์เล่นกับมวลน้ำหนักที่แตกต่างกันของเด็กน้อยตัวจิ๋วกับสัตว์หางร่างยักษ์ได้อย่างชาญฉลาด ด้วยขนาดร่างกายที่เล็กเบาหวิวจึงทำให้ตัวเราสามารถมุดรอดซี่กรงปีนป่ายไปสับสวิตซ์ที่อยู่ตามจุดอับซอกหลืบได้สบาย ในขณะที่เรื่องของการใช้เรี่ยวแรงพละกำลังคงต้องโยนไปให้อสูรยักษ์ใหญ่ใจดีของเราคอยจัดการ เช่นทำลายกำแพงสิ่งกีดขวาง พาตัวเราทะยานขึ้นสู่ที่สูง หรือกระโดดข้ามหุบเหว ซึ่งเราสามารถกดปุ่มสั่งให้น้องหมาร่างยักษ์ออกแอ็คชั่น หรือเดินไปทิศทางไหนได้ตามที่เราต้องการ เพียงแต่อย่าคาดหวังว่ามันจะมีอากัปกิริยาตอบสนองตามคำสั่งได้รวดเร็วทันใจนึกเหมือนคีย์คอมฯ เพราะสิ่งที่ทีมพัฒนานำเสนอออกมานั้น คือระบบ AI อันชาญฉลาดแสนรู้แบบ "สัตว์เลี้ยง" ที่มีชีวิตจิตใจความคิดอ่านของตัวเอง บางเวลาอยากเล่น บางเวลาอยากนอน บางเวลาขาไม่เดินหากไม่มีอะไรตกถึงท้อง ซึ่งในฐานะผู้เป็นนายจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องใจเย็นค่อยๆศึกษาเรียนรู้พฤติกรรมของกันและกันไป ตลอดการเดินทางที่เอ่อล้นเต็มไปด้วยมิตรภาพความห่วงใยผูกพันจนคุณน้ำตาคลอ

ถึงแม้จะมีเรื่องให้กล่าวชื่นชมมากมาย แต่ก็ใช่ว่ามันจะเป็นเกมที่สมบูรณ์แบบ เพราะสิ่งที่ดูขัดสายตาตั้งแต่แวบแรกที่เห็น นั่นคือเรื่องของภาพกราฟิก ที่ดูแล้วไม่สมกับสมรรถนะเครื่องเพลย์สเตชัน 4 สักเท่าไหร่ เช่นเท็กซ์เจอร์พื้นผิวอาคารสิ่งปลูกสร้าง หรือก้อนหินบนพื้นที่ดูแตกหยาบ ราวกับว่าทุกอย่างถูกพอร์ตหยิบยกมาจากเครื่องเพลย์สเตชัน 3 ซึ่งหลายคนคงเริ่มรู้สึกเอะใจตั้งแต่ตอนที่เห็นขนาดไฟล์ของเกมที่เล็กจิ๊ดเพียง 13GB แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ภาพกราฟิกระดับ PS3 มันก็มิใช่อุปสรรคใหญ่หลวงในการเล่น เพราะปัญหาที่แท้จริงอยู่ตรงที่อาการกระตุกของภาพ ด้วยความหวังดีของทีมพัฒนาที่พยายามยัดเยียดใส่ขนนก ต้นหญ้า ใบไม้ หรืออะไรจิปาถะเข้ามาในฉาก ชนิดเน้นปริมาณเยอะเข้าว่าเพื่อให้สมกับเครื่องคอนโซลรุ่นใหม่ จึงทำให้อัตราเฟรมเรต fps ตกร่วงโรยหล่นลงไปอยู่ที่ 20 ต้นๆ ซึ่งไกลห่างจากคำว่า "เฟรมเรตสมเหตุสมผลพอรับได้" ที่ทีมงานกล่าวอ้างอยู่เยอะพอสมควร

ส่วนตัวรู้สึกค่อนข้างเสียดาย กับเกมพัซเซิลเนื้อหาดีๆอย่าง "The Last Guardian" ที่น่าจะได้ขึ้นหิ้งติดหนึ่งในตำนานเกมของเครื่อง PS3 ทว่ากลับต้องมาโดนเลื่อนแล้วเลื่อนอีก จนกระทั่งมาโผล่ผิดยุคผิดสมัย ไม่ว่าตนจะพยายามแนบเนียนกลบเกลื่อนแฝงตัวเข้ากับเกมยุคปัจจุบันขนาดไหน สุดท้ายก็มิอาจลบเลือนความจริงที่ว่ามันเป็นเกมเก่าแก่ได้ แต่ถึงอย่างไร แม้จะไม่ปลื้มกับภาพกราฟิกที่เห็น แต่สิ่งที่พอทดแทนกันได้นั่นคือความสนุก และมิตรภาพของตัวละครผู้เล่นกับเจ้าสี่ขา รวมถึงฉากจบสุดพีคที่กล้าพูดได้เลยว่า มันเป็นหนึ่งในฉากจบที่จะตราตรึงอยู่ในหัวใจของเหล่าเกมเมอร์ไปตลอดกาล

เกมการเล่น9
กราฟิก7
เสียง8
ความคิดสร้างสรรค์10
ภาพรวม8.5


ข้อดี : ตัวละคร-ฉากหลังรายละเอียดเยอะจนน่าทึ่ง, ออกแบบปริศนาได้สร้างสรรค์, AI ฉลาดแสนรู้ราวกับมีชีวิตจริง และเรื่องราวมิตรภาพสุดประทับใจ
ข้อเสีย : กราฟิกตกยุค กับปัญหาภาพกระตุกที่พบเจออยู่เป็นระยะ

Shin
สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท โซนี่ อินเตอร์แอคทีฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ ฮ่องกง สาขาสิงคโปร์ (หรือ SIES)








*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*




















กำลังโหลดความคิดเห็น