เครื่องเพลย์สเตชันวันสีทองอร่าม พร้อมแผ่นภาคต่อเกมลุยดันเจี้ยนในตำนาน ถูกส่งเป็นของกำนัลสุดพิเศษจากโซนี่เพื่อซื้อใจนักพัฒนาเกมคนดังที่หลังๆเริ่มมีปากเสียงกับไมโครซอฟต์ ให้มาร่วมเป็นแขกวีไอพีในงานเปิดตัวเครื่อง PS4
ถือเป็นของขวัญชั้นเลิศที่เหมือนกับเป็นการติดสินบนกลายๆ เมื่อล่าสุดทาง "Markus ‘Notch’ Persson" ผู้อยู่เบื้องหลังเกมสร้างโลกในจินตนาการสุดฮิต Minecraft ได้ออกมาทวีตเปิดเผยว่าตนได้รับบัตรเชิญจากทางฝั่งโซนี่ ให้มาเป็นแขกคนสำคัญร่วมการแถลงข่าวเผยโฉมเครื่องเพลย์สเตชัน 4 ในงาน E3 2013
โดยสิ่งที่บรรจุแถมมาพร้อมกับบัตรเชิญนั้น มันคือเครื่องเพลย์สเตชันวัน เคลือบสีทองมันเงาวับที่ถูกทำขึ้นมาเป็นพิเศษเพียงเครื่องเดียวในโลก อีกทั้งยังมีแผ่นเกมเก่าหายากสุดคลาสสิค "Dungeon Master 2" ที่ทางเจ้าตัวชื่นชอบมากเป็นพิเศษ จนถึงกับยกให้มันเป็นหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดเท่าที่เคยเล่นมา และกลายมาเป็นต้นแบบที่สร้างแรงบันดาลใจในการทำเกมให้แก่เขา
"โซนี่รู้จักวิธีในการติดสินบนเด็กเนิร์ดอย่างผม อย่างไรก็ตามเครื่องเพลย์สเตชัวันสีทองที่ผมได้รับมานั้น มันไม่มีสายไฟหรือสายต่อเข้าทีวีแถมมาให้ จึงไม่รู้ว่าตัวเครื่องจะสามารถใช้เล่นเกมจริงได้หรือเปล่า ซึ่งทางโซนี่คงคิดเอาไว้ว่าใครก็ตามที่ได้เครื่อง PS One สีทองไปนั้นคงจะเก็บขึ้นหิ้งบูชาไม่นำมาเล่น แต่สำหรับผมนั้นไม่ใช่ เพราะผมจะพยายามขุดหาสายไฟเก่าๆที่ยังใช้ได้มาลองดูเผื่อว่ามันจะเล่นได้" Persson กล่าว
แม้ว่าปัจจุบัน เกม "Minecraft" จะยังคงติดสัญญาเอ็กคลูซีฟวางจำหน่ายลงคอนโซลเฉพาะเครื่องเอ็กบ็อกซ์360 และสามารถทำยอดขายไปได้กว่า 6 ล้านชุดแล้วก็ตาม แต่ทว่าดูเหมือนทาง "Markus ‘Notch’ Persson" จะไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไรกับไมโครซอฟต์ ไล่ตั้งแต่การออกมาบ่นถึงระบบปฏิบัติการตัวใหม่อย่างวินโดวส์ 8 ที่ไม่เปิดอิสระมากพอจนไม่สามารถนำเกมไมน์คราฟต์มาลง ไปจนถึงการออกมาวิจารณ์เครื่องเอ็กบ็อกซ์วันว่ามันดูเหมือนกล่องเคเบิ้ลทีวีมากกว่าเครื่องเล่นเกม และเชื่อว่านี่เป็นเหตุผลที่โดนใจโซนี่เข้าอย่างจัง
ส่วน "Scrolls" ผลงานเกมการ์ดวางแผนการรบตัวใหม่ถัดจากไมน์คราฟต์ของสตูดิโอ Mojang ที่แฟนๆรอกันมานาน ตอนนี้ก็ได้ฤกษ์กำหนดการเปิดโอเพ่นเบต้าแล้วในวันที่ 3 มิถุนายนนี้ สำหรับเครื่องพีซีที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์และแมคอินทอช สนนราคาอยู่ที่ 20 เหรียญหรือประมาณ 600 บาท
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gematsu
slashgear
playstationlifestyle
kotaku
theverge