"มาร์คัส เพอร์สสัน" เจ้าของสตูดิโอ Mojang ผู้สร้างเกม Minecraft ออกมาเปิดเผยถึงความเสี่ยงที่ปล่อยให้ระบบ Steam ของวาล์วยึดครองตลาดเกมดิจิตอลพีซีเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว ชี้การมีคู่แข่งอย่างออริจินถือเป็นเรื่องดีแต่มันยังมีข้อบกพร่อง
ในปี 2011 ตลาดเกมพีซีมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในตลาดโลกมีรายได้รวมสูงกว่า 18.6 พันล้านเหรียญหรือประมาณ 570 พันล้านบาท และคาดการณ์ว่าต่อไปในอนาคตจะถีบตัวสูงขึ้นไปอยู่ที่ 25.5 พันล้านเหรียญหรือประมาณ 785 พันล้านบาท เมื่อถึงปี 2015 ซึ่งปัจจุบันระบบจำหน่ายเกมแบบออนไลน์อย่าง Steam ของบริษัทวาล์ว ซอฟต์แวร์นั้น ได้ก้าวขึ้นมาเป็นยักษ์ใหญ่ในเครือข่ายตลาดเกมพีซีโดยมีผู้ใช้กว่า 40 ล้านคนทั่วโลก
ล่าสุดทาง "มาร์คัส เพอร์สสัน" (Markus Persson) หรือที่รู้จักกันดีในนาม "Notch" โปรแกรมเมอร์และนักออกแบบเกมชาวสวีเดน ผู้ร่วมก่อตั้งสตูดิโอ Mojang ทีมผู้พัฒนาเกมสร้างโลกโพลิกอนชื่อดัง Minecraft ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ GameSpy ระบุว่าตัวเขาเองก็สนับสนุนระบบสตีม แต่ความคิดที่ว่าจะมีเพียงแค่แพลตฟอร์มเดียวนั้น มันเป็นสิ่งที่น่ากลัว
"ผมคิดว่ามันดูอันตรายไปหน่อยในการให้มีแพลตฟอร์มจำหน่ายเกมดิจิตอลแต่เพียงผู้เดียวอย่างสตีม ผมรักวาล์ว แต่จากหลักการแล้วผมค้นพบว่าความคิดหนึ่งแพลตฟอร์มมันดูน่าขนลุกไปหน่อย" เพอร์สสัน กล่าว นอกจากนี้เขายังกล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่าบริการคู่แข่งอย่างออริจินของอีเอที่ตอนนี้มีผู้ใช้ร่วม 11 ล้านคน รวมไปถึงบริการอย่างเดซูร่าและอิมพัลส์นั้นเป็นผลดีสำหรับตลาด
"ระบบออริจิน มันมีเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้นที่แย่เมื่อเปรียบเทียบกับระบบสตีม ซึ่งก็น่าประทับใจเพราะพวกเขามีเวลาถึง 8 ปีในการศึกษาคู่แข่งอย่างสตีม ซึ่งพวกเขาควรมีโอกาสที่จะทำตามสิ่งที่พวกเขาต้องการ เพียงแต่พวกเขาควรที่จะหลีกเลี่ยงเกมต่างๆที่บีบบังคับให้ผู้เล่นมาใช้ระบบ แล้วหันไปแสดงให้ผู้เล่นเห็นว่าทำไมถึงต้องเลือกใช้ระบบนี้แทน" เพอร์สสัน กล่าวปิดท้าย
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot
gamasutra
