กลุ่มอดีตพนักงานของ "ไวรัส" รวมตัวแถลงชี้แจงข้อกล่าวหา ยืนยันไม่มีเหตุรุนแรง ไม่คิดทำลายหรือขโมยข้อมูล แฉไวรัสเบี้ยวจ่ายค่าเช่าอาคารกรุงเทพธุรกิจ พร้อมเรียกร้องให้จ่ายค่าเสียหายชดเชยให้แก่กลุ่มพนักงานที่ถูกเลิกจ้างให้ถูกต้องตามกฏหมาย
วันนี้ (22 มิ.ย.) กลุ่มอดีตพนักงานของบริษัท ไวรัส สทิวดิโอ จำกัด ได้ร่วมกันแถลงชี้แจงข้อกล่าวหาที่ทางบริษัท ไวรัส สทิวดิโอ จำกัด ได้ระบุในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีนายโกวิท เจริญรัชดาพันธุ์ , นายณัฐวุฒิ ทองใหม่ , นายนิมมาณ ทองลิ่ม เป็นตัวแทนกลุ่มอดีตพนักงาน ร่วมกันแถลงในครั้งนี้
"ขอเริ่มจากข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อเวลาเช้าของวันจันทร์ที่ 6 มิุถุนายน พ.ศ. 2554 กลุ่มอดีตพนักงานได้เดินทางเพื่อมาทำงานตามปกติ แต่พบว่าสำนักงานหรือสถานที่ทำงานซึ่งตั้งอยู่ในอาคารกรุงเทพธุรกิจ (BB อโศก) อยู่ในสภาพว่างเปล่า เหลือเพียงเศษขยะและของใช้ส่วนตัวบางส่วน เฟอร์นิเจอร์และคอมพิวเตอร์ทั้งหมดได้ถูกขนย้ายออกไป สำนักงานหรือสถานที่ทำงานจึงไม่อยู่ในสภาพที่จะทำงานได้ต่อไป"
"อดีตพนักงานที่อยู่ในเหตุการณ์จึงได้ร่วมประชุมเพื่อแบ่งหน้าที่เพื่อจัดการกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยพนักงานบางส่วนได้พยายามใช้โทรศัพท์ติดต่อผู้เกี่ยวข้อง ส่งเอสเอ็มเอส เอ็มเอ็มเอส เอ็มเอสเอ็นเข้าไปหา คุณรสรินทร์ บุญวัฒนพิสุทธิ์ ประธานกรรมการบริษัท กับอดีตกรรมการบริษัท นายอารียา มิลินธนาภา รวมถึงหัวหน้างานอื่นๆ แต่กลุ่มพนักงานก็ไม่สามารถติดต่อได้เลยตลอดทั้งวันไม่ว่าจะเป็นช่องทางใดๆ กลุ่มอดีตพนักงานจึงได้รอคำชี้แจงตอบกลับจากบริษัท"
"ในระหว่างที่รอนั้นกลุ่มอดีตพนักงานได้ทำการถ่ายรูปและบันทึกวีดีโอไว้ รวมถึงเก็บของใช้ส่วนตัวที่อยู่ในสภาพดีหรืออยู่ในสภาพที่ซ่อมแซมได้ กลุ่มอดีตพนักงานบางคนยังพบว่าของใช้ส่วนตัวบางส่วนหายไป ในวันเดียวกันนั้นเวลาประมาณ 11.00 น. อดีตพนักงานบางส่วนได้ติดต่อสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ของอาคารกรุงเทพธุรกิจ เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นมีเจ้าหน้าที่ของอาคารกรุงเทพธุรกิจขึ้นมาตรวจสอบพื้นที่ภายในสำนักงาน"
"เจ้าหน้าที่อาคารได้แจ้งให้กลุ่มอดีตพนักงานได้ทราบว่า นายอารียา มิลินธนาภา ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่อาคารกรุงเทพธุรกิจว่า ทางบริษัทฯ ขอคืนพื้นที่ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งจะปรับปรุงพื้นที่ใหม่ เนื่องจากบริษัทฯ ต้องการปรับลดกำลังคน จึงขอขนย้ายเฟอร์นิเจอร์เก่าออก เพื่อที่จะได้นำเฟอร์นิเจอร์ใหม่เข้ามาเปลี่ยน"
"เมื่อได้ฟังคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่อาคารดังกล่าว ทำให้กลุ่มอดีตพนักงานรู้สึกสับสนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากสภาพภายในสำนักงานขัดแย้งกับสิ่งที่ทางบริษัทฯ แจ้งกับทางอาคาร ซึ่งจากสภาพที่กลุ่มอดีตพนักงานพบเห็นนั้นปรากฏว่ามีการรื้อถอนประตู วงกบ ผ้าม่าน สายไฟและอื่นๆ ออกไปจากสำนักงาน"
"ต่อมากลุ่มอดีตพนักงานจึงได้ปรึกษาหารือกับฝ่ายอาคาร ได้ข้อสรุปในเบื้องต้นว่า ทางฝ่ายอาคารก็ไม่สามารถติดต่อผู้รับผิดชอบได้เช่นเดียวกัน ทางอาคารจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ จำเป็นจะต้องระงับการจ่ายไฟฟ้า ปิดพื้นที่สำนักงานหรือสถานที่ทำงาน เพื่อให้ฝ่ายกฏหมายของอาคารกรุงเทพธุรกิจดำเนินการตามกฏหมายต่อไป"
"ภายหลังฝ่ายอาคารปิดพื้นที่ของสำนักงานหรือสถานที่ทำงาน กลุ่มอดีตพนักงานจึงตัดสินใจเดินทางไปที่กรมแรงงาน เพื่อแจ้งให้กรมแรงงานทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่กรมแรงงานได้แนะนำให้กลุ่มอดีตพนักงานทั้งหมดทราบถึงสิทธิ์ทางกฏหมายของลูกจ้างและแนะนำแนวทางการดำเนินคดี หลังจากได้รับคำชี้แนะจากเจ้าหน้าที่ กลุ่มอดีตพนักงานได้นัดหมายเพื่อรวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อไปแจ้งต่อเจ้าหน้าที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเขตพื้นที่ 8 ในวันถัดมา"
"ในวันอังคารที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2554 กลุ่มอดีตพนักงานจำนวน 28 คน ได้เดินทางไปร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเขตพื้นที่ 8 เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เรียกบริษัทฯ ให้เข้ามาชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานต่อไป อย่างไรก็ตามกลุ่มอดีตพนักงานได้เดินทางไปยังสำนักงานเพื่อรอการติดต่อจากบริษัทฯ ติดต่อกันทุกวัน จนกระทั่งได้รับทราบจากสื่อฯ ภายหลังจากบริษัทฯ เปิดแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนที่ได้รับเชิญเป็นการส่วนตัวเมื่อวันศุกร์ที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา"
"บัดนี้กลุ่มอดีตพนักงานบางส่วนได้ถอนเรื่องจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเขตพื้นที่ 8 แล้ว เพื่อนำเรื่องดังกล่าวดำเนินการทางกฏหมายด้วยตนเองต่อไป ทั้งนี้กลุ่มอดีตพนักงานบางส่วนที่ถอนเรื่องจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเขตพื้นที่ 8 ขอสงวนสิทธิ์ในการยื่นเรื่องดังกล่าวกับกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเขตพื้นที่ 8 ในโอกาสต่อไป"
"จากข้อเท็จจริงที่กล่าวมาเบื้องต้น ประกอบกับหลักฐานพยานที่กลุ่มอดีตพนักงานได้เสนอในวันนี้ กลุ่มอดีตพนักงานของบริษัท ไวรัส สทิวดิโอ จำกัด จึงขอแสดงความเห็นว่าการกระทำดังกล่าวของบริษัทฯ ไมว่าจะเป็นการที่บริษัทออกมาแถลงการณ์เพียงฝ่ายเดียว บิดเบือนข้อเท็จจริง อันต่างออกไปจากหลักฐานที่กลุ่มอดีตพนักงานนำมาประกอบ ไม่เปิดโอกาสให้กลุ่มอดีตพนักงานได้ชี้แจงความบริสุทธิ์ของตนเอง ดำเนินการขนย้ายอุปกรณ์สำนักงานออกไปจากสถานที่ทำงานโดยไม่แจ้งให้กลุ่มอดีตพนักงานทราบล่วงหน้า อันเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของกลุ่มพนักงานบางคนเสียหาย สูญหาย ถูกทำลายจนไม่สามารถใช้งานต่อไปได้ จึงไม่เป็นธรรมต่อกลุ่มอดีตพนักงานอย่างยิ่ง รวมทั้งการกระทำที่ไม่คำนึงถึงมนุษยธรรม ศีลธรรม ตลอดจนมิได้เคารพยำเกรงต่อกฏหมายบ้านเมืองแต่อย่างใด"
"ในสุดท้ายนี้ กลุ่มอดีตพนักงานจำเป็นต้องดำเนินคดีตามกฏหมายต่อผู้ที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด เพื่อแสดงออกถึงความบริสุทธิ์ของกลุ่มอดีตพนักงานทุกคน ตลอดจนเป็นคุ้มครองสิทธิ์ตามกฏหมายคุ้มครองแรงงานและกฏหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อความถูกต้องเป็นธรรมต่อไป โอกาสนี้กลุ่มอดีตพนักงานขอกราบขอบพระคุณสื่อมวลชนทุกท่าน ที่เปิดโอกาสให้เราได้แสดงข้อเท็จจริงตามเหตุการณ์ ขอกราบขอบคุณพี่น้องประชาชนผู้ใช้บริการ นักวิชาการ นักศึกษา ที่ให้การสนับสนุนให้กำลังใจ อันเป็นแรงผลักดันอย่างดีตลอดมา ขอบพระคุณครับ"
ทั้งนี้ ภายหลังการอ่านแถลงการณ์ ตัวแทนกลุ่มอดีตพนักงานได้ระบุว่า แถลงการณ์ของบริษัท ไวรัส สทิวดิโอ จำกัด ส่งผลกระทบเชิงลบต่อกลุ่มอดีตพนักงานในหลายด้าน จึงจำเป็นจะต้องชี้แจงตอบโต้ข้อกล่าวหาของ น.ส.รสรินทร์ บุญวัฒนพิสุทธิ์ ในแต่ละประเด็นที่ถูกกล่าวหา
ประเด็นที่ น.ส.รสรินทร์ กล่าวว่า จะมาประกาศให้พนักงานทุกคนทราบถึงเรื่องที่บริษัทได้มีการย้าย พร้อมกับเปิดบริษัทฯให้พนักงานทุกคนเข้ามาเก็บของ ทางกลุ่มอดีตพนักงานได้ชี้แจงว่า ความจริงแล้วสำนักงานไม่ได้ถูกเปิดไว้โดยเจ้าของบริษัทฯ เนื่องจากประตูได้ถูกรื้อถอนไปแล้ว เหลือเพียงประตูด้านนอกของอาคารเท่านั้น ซึ่งตรงนี้ก็เท่ากับว่าไม่ได้มีการล็อคอะไรอยู่แล้ว
ประเด็นที่ น.ส.รสรินทร์ กล่าวว่า มีคนในสำนักงาน ณ เวลานั้นโทรแจ้งไปว่า กลุ่มอดีตพนักงานอยู่ในอารมณ์รุนแรง ไม่ควรเข้ามาพบ เพราะอาจจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้นั้น ทางกลุ่มอดีตพนักงานได้ชี้แจงว่า ได้มีการติดต่อไปหา น.ส.รสรินทร์ ทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้ ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ตรงนี้ก็ไม่รู้ว่าใครติดต่อเข้าไป เพราะไม่มีใครสามารถติดต่อผู้บริหารได้เลย
"ถ้าดูจากคลิปวีดีโอก็จะเห็นได้ว่ากลุ่มอดีตพนักงานจะตลกโปกฮาไปเรื่อย ไม่ได้อยู่ในภาวะอารมณ์เสียอะไร ก็พยายามจะโทรศัพท์ไปหาทั้งตัวเจ้าของ ทั้งตัวเลขาฯ หัวหน้างานแผนกอื่นๆ ที่พอจะมีเบอร์โทรศัพท์กันอยู่ จากวีดีโอคลิปจะเห็นว่าแม้กระทั่งวงกบก็เอาไปด้วย ที่บอกว่าเปิดไว้ก็เปิดไว้จริงๆละครับ ไม่มีประตูเหลือกั้นไว้" ตัวแทนกลุ่มอดีตพนักงาน กล่าว
ประเด็นที่ น.ส.รสรินทร์ กล่าวว่า ได้รับทราบถึงการปล่อยคลิปวีดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวในวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ทางกลุ่มอดีตพนักงานได้ชี้แจงว่า คลิปวีดีโอดังกล่าวได้ถูกปล่อยไปในเช้าวันอังคารที่ 7 มิถุนายน ซึ่งขัดแย้งกับแถลงการณ์ของบริษัทฯ ที่บอกว่าเห็นคลิปวีดีโอในวันจันทร์ จึงระงับการส่งเอกสารแจ้งแก่พนักงาน
ประเด็นเรื่องการสูญหายของทรัพย์สินพนักงาน ทางกลุ่มอดีตพนักงานชี้แจงว่า ได้มีการแจ้งความไว้แล้วที่ สน.ทองหล่อ ตรงนี้ก็จะมอบให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อไป มีหลักฐานเป็นบันทึกจากกล้องวีดีโอวงจรปิดของทางอาคาร
ประเด็นที่ น.ส.รสรินทร์ กล่าวว่า ต้องย้ายโดยไม่แจ้งเพราะหวั่นเกรงการทำลาย ขนย้าย ขโมยข้อมูลบริษัทฯ ทางกลุ่มอดีตพนักงานชี้แจงว่า ปกติบริษัทฯจะทำการแบ็คอัพสำรองข้อมูลไว้อยู่แล้ว ด้วยพื้นฐานของธุรกิจไอทีจะต้องมีการแบ็คอัพอยู่แล้ว ต่อให้เป็นกรณีที่พนักงานบ้าคลั่งถึงขนาดทำลายข้อมูล บริษัทฯก็ยังจะมีข้อมูลที่สำรองไว้อยู่ดี จึงไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ที่อ้างเหตุนี้ ส่วนกรณีที่พนักงานจะก็อปปี้ข้อมูล ต้องบอกว่างานตรงนี้เกิดจากมันสมอง ส่วนที่จะก็อปปี้มันไม่สำคัญ มันสำคัญที่สติปัญญาของพนักงาน เพราะมีฝีมือติดตัวอยู่แล้ว ไม่จำเป็นจะต้องก็อปปี้อะไรไป พนักงานสามารถสร้างสรรค์งานดีๆออกมาได้เสมอ นอกจากนี้บริษัทฯก็ทำการป้องกันข้อมูลไว้อยู่แล้ว พนักงานไม่สามารถเอาข้อมูลไปได้ แถมในกลุ่มพนักงานที่ถูกเลิกจ้างยังมีแม่บ้านรวมอยู่ด้วย ก็ไม่เข้าใจว่าแม่บ้านจะเกี่ยวข้องกับเรื่องขโมยข้อมูลได้อย่างไร
ประเด็นที่ น.ส.รสรินทร์ กล่าวว่า ได้แจ้งการย้ายต่อฝ่ายอาคารล่วงหน้า 1 เดือนและไม่ได้ค้างชำระ ทางกลุ่มอดีตพนักงานชี้แจงว่า ได้ไปสอบถามกับทางอาคารกรุงเทพธุรกิจ พบว่ามีการแจ้งล่วงหน้าเพียง 1 สัปดาห์ว่าจะเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ แต่กลับขนย้ายทรัพย์สินออกไป ทำให้ทางอาคารเสียประโยชน์ ล่าสุดก่อนหน้าการแถลงครั้งนี้ไม่กี่นาที กลุ่มอดีตพนักงานได้เช็คกับทางอาคารกรุงเทพธุรกิจ ก็ได้รับแจ้งว่าทางบริษัทฯ ยังไม่ได้ชำระเงินกับทางอาคาร พร้อมกับได้ขอสำเนาใบแจ้งหนี้ที่ทางอาคารได้ออกให้กับบริษัทฯ
ตัวแทนกลุ่มอดีตพนักงานระบุว่า ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาก่อนเกิดเหตุ มีการออกใบเตือนให้กับพนักงานหลายคน โดยที่เป็นการเตือนย้อนหลังชนิดที่ว่า "คุณมาสายเมื่อปีที่แล้ว" ใบเตือนลักษณะนี้กลุ่มอดีตพนักงานได้รับกันเกือบทุกคน มีการสร้างเงื่อนไขให้พนักงานได้รับใบเตือนแบบนี้คนละ 2 ใบเกือบทุกคน
ตัวแทนกลุ่มอดีตพนักงานระบุว่า ต้องการให้ทางบริษัท ไวรัส สทิวดิโอ จำกัด จ่ายค่าเสียหายชดเชยให้แก่กลุ่มอดีตพนักงานที่ถูกเลิกจ้างทั้งหมดให้ถูกต้องตามกฏหมาย ตามสิทธิ์ที่กฏหมายกำหนดไว้