xs
xsm
sm
md
lg

Review:The Last Remnant (Xbox 360) โฉมใหม่ RPG ญี่ปุ่น?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


Rate ESRB M สำหรับผู้มีอายุ 17 ปีขึ้นไป

หลังจากผิดหวังไป (เล็กน้อย) กับเกม RPG เกมแรกที่ลง Xbox 360 อย่าง Infinite Undiscovery ที่ไม่สนุกเท่าที่ควร มาปลายปีนี้ สแควร์ เอนิกซ์ ก็ส่งเกม RPG ที่คุยว่าจะพลิกโฉมเกมภาษาในรูปแบบ Turn Base เดิมๆให้พัฒนาขึ้น ทั้งภาพที่ลงทุนซื้อ Unreal Engine มาทำกราฟิก รวมทั้งรูปแบบการเล่นที่คุยว่าถูกพัฒนาขึ้นและทำมาเพื่อแข่งกับเกมตะวันตกหลายเกมที่มาแรงในช่วงนี้ ซึ่งตัวเกมถูกปรับให้มีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เกมจึงติดเรต M ด้วยเนื้อเรื่องและภาษาที่ใช้ รวมถึงการฟันกันเลือดสาด ที่เกมRPG ญี่ปุ่นมีไม่กี่เกมที่สร้างให้เกมตัวเองติดเรตสูงๆ จึงเป็นหนึ่งเกมน่าจับตามองประจำปลายปีนี้

สิ่งที่ทำให้ผู้เขียนสนใจอย่างแรกไม่ใช่ภาพหรือกราฟิกในเกม แต่เป็นระบบการเล่นที่ปรับปรุงรูปแบบ Turn Base RPG โดยเกมนี้แบ่งออกเป็น Turn และจะนับค่าพลังรวมกันทั้งกลุ่มที่เกมเรียกว่า Union ถ้าพลังหมดก็ตายยกทีม ที่ในการต่อสู้ในแต่ละครั้งเราจะคุมได้หลายกลุ่ม โดยสามารถจัดเพื่อนร่วมทีมได้อิสระ และยังจัด Formation ได้หลายรูปแบบ โดยการจัดจะส่งผลต่อการเล่นและส่งผลต่อค่าพลังต่างๆ ของกลุ่มนั้นๆอีกด้วย ที่เพื่อนร่วมทีมนอกจากได้ตามเนื้อเรื่องแล้ว ยังจะหาได้จากการซื้อที่ร้านและการทำเควส

และที่โดดเด่นคือการใส่คำสั่ง ที่ไม่ได้มีรูปแบบเหมือนเกมภาษาทั่วไป แต่เป็นการใส่คำสั่งต่อสู้ล่วงหน้าของแต่ละทีมว่าจะโจมตีแบบธรรมดาหรือใช้ Combat Art , Mystic Art , เติมพลัง โดยไม่สามารถลงรายละเอียดได้มากนัก และจะมีบางคำสั่งจะขึ้นมาแล้วแต่สถานการณ์ ซึ่งการตั้งค่าทำให้คาดเดาอะไรไม่ได้ ตัวเกมมีความยากที่ท้าทายพอสมควร เพราะถ้าไม่รู้วิธีเล่นศัตรูธรรมดาก็อาจฆ่าเราได้ และด้วยการที่ไม่สามารถลงลึกในรายละเอียดการต่อสู้ได้มากนัก ทำให้เกมขาดเสน่ห์ของ Turn Base RPG ในแบบดั้งเดิมไปเล็กน้อย

ส่วนที่ทำให้เกมดูสมจริงมากคือ การเคลื่อนไหวของตัวละครที่ไม่ได้ยืนทื่อๆเป็นแถวๆแบบ Turn Base ทั่วไป แต่จะมีการทำท่าทางเหมือนต่อสู้กันอยู่ตลอดแม้จะรอคำสั่งจากผู้เล่นอยู่ก็ตาม โดยรูปแบบการต่อสู้เหมือนการวางแผนรบในสงคราม มีการรุมล้อม การโดนลอบโจมตีด้านหลัง การปะทะกันหลากหลายรูปแบบ และในแต่ละรูปแบบจะส่งผลต่อค่าพลังป้องกันและโจมตีทั้งสิ้น การเลือกกลุ่มของศัตรูและรูปแบบการโจมตีที่จะโจมตีให้ถูกต้องตามลักษณะเกมแนววางแผนก็จำเป็นอย่างยิ่งในการเล่น นอกจากนี้มีการให้กดปุ่มให้เข้าจังหวะลักษณะเดียวกับเกมแอ็คชั่น โดยผลที่ได้จากการกดทันหรือไม่ทันจะส่งผลมากกว่าที่คุณคิด โดยปุ่มจะขึ้นอยู่กับอาวุธที่ใช้ที่ทำให้เกมนี้ไม่ใช่แค่เกมที่ใส่คำสั่งแล้วนั่งดูภาพเฉยๆ

เกมนี้นับเป็นการต่อสู้แบบผลัดกันตีที่มีฉากต่อสู้ใหญ่มาก เพราะมีหลายฉากที่เราต้องสู้ในสนามรบครั้งใหญ่ และเนื่องด้วยเกมไม่มีการสุ่มการเจอศัตรู จึงมีศัตรูเดินบนดันเจี้ยนเป็นตัวๆที่พร้อมโจมตีเราได้ทุกเมื่อ และถ้าเราโดนศัตรูเข้าใกล้และโจมตีก่อนจะพบกับความเสียหายหนัก เราจึงต้องโจมตีก่อนโดยการกด RT เพื่อกระจายคลื่นพลังไปเป็นวงกลมรอบตัวเรา เมื่อไปโดนศัตรูจะเข้าสู่การสู้แบบปรกติ โดยเกมมีระบบ TIME SHIFT ไว้หน่วงเวลาหนีและเลือกโจมตีศัตรูได้หลายตัวพร้อมกันหรือจะเลือกเป็นตัวๆก็ได้ แต่ถ้าเลือกศัตรูหลายตัว ศัตรูก็จะมาตะลุมบอนเราในฉากต่อสู้เดียวเช่นกัน และยังมี Mr. Diggs’s ไว้ขุดหาไอเท็มในดันเจี้ยนต่างๆอีกด้วย

ตัวเกมสร้างโดยทีมงานผู้พัฒนาเกมชื่อดังในอดีตอย่าง "ซาก้า" ดังนั้นเกมจึงมีกลิ่นความเป็นซาก้าอยู่เต็มไปหมด เช่นระบบ Save เกมที่สามารถ Save ได้ทุกที่ทุกเวลา ตัวเกมไม่มีเลเวล การอัปค่าพลังหรือท่าไม้ตายจะได้มาแบบสุ่ม รวมทั้งค่าความสามารถของอาวุธจะขึ้นตามอาวุธที่ใช้บ่อยๆ และการเห็นศัตรูในฉากเป็นตัวๆแบบไม่สุ่ม หรือค่าพลังที่ฟื้นคืนทุกครั้งที่ต่อสู้เสร็จ ระบบแผนที่เลือกสถานที่แบบเลือกได้เลยไม่ต้องเดิน ซึ่งในใจผู้เขียนคิดว่าทำไมผู้สร้างไม่ใช่ชื่อซาก้า ไปตั้งแต่แรกเสียเลย ขณะที่ตัวเกมถูกสร้างขึ้นเพื่อไปสู้กับเกมฝั่งตะวันตก จึงทำให้การออกแบบตัวละครที่แม้จะมีความเป็นญี่ปุ่นอยู่แต่ก็ปรับเปลี่ยนให้เป็นสากลมากขึ้น ส่วนเนื้อเรื่องที่ว่าด้วยการค้นหา Remnant ที่มีอะไรให้น่าติดตามและดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

เกมมีความยาวพอสมควรและมีเควสย่อยให้ทำเยอะมาก นอกจากนี้สามารถเลือกทำเควสก่อนหรือหลังได้อย่างอิสระทำให้ค่อนข้างคุ้มค่าที่จะเล่น แม้จะใช้ฉากซ้ำไปหน่อยก็ตามที และมีการหาของมาตีทำอาวุธตามแบบเกม RPG ทั่วไป โดยการหาข้อมูลข่าวสารหรือรับเควส ที่ดูง่ายเพราะคนที่มีเควสและข้อมูลจะมีเครื่องหมายที่ใส่คำพูดจะเป็นสีแดง ส่วนดันเจี้ยนออกแบบตามมาตรฐานเกมภาษาทั่วไปไม่ได้โดดเด่นอะไร ระบบเสียงประกอบก็ทำได้ดีในระดับหนึ่งแต่ก็ไม่มีธีมเด่นๆให้จดจำเท่าไรนัก แต่อย่างไรก็สร้าง ความเร้าใจด้วยการผสมกีตาร์ร็อคแน่นๆ ไว้ได้อย่างลงตัว ส่วนเสียงพากย์ก็ทำได้ดีมีคุณภาพกว่าตอนทำ Infinite Undiscovery เสียงบรรยากาศก็ทำได้เยี่ยม

แต่ที่น่าผิดหวังเล็กๆคือกราฟิกในเกมที่แม้จะลงทุนซื้อ Unreal Engine มาทำที่แม้โดยรวมทำออกมาได้ดี แต่ติดตรงที่โหลดบ่อย ,เฟรมเรตตก ,ภาพกระตุก และโหลดเท็กซ์เจอร์ไม่ทัน แม้ว่าจะนำเกมลงฮาร์ดดิสก์แล้วก็ตามที แต่ถ้าใครเล่นเกมที่โหลดโหดๆอย่าง lost odyssey (เล่นบน DVD) หรืออาการโหลดเท็กส์เจอร์ไม่ทันใน GTA4 มาแล้วเกมนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร หวังว่าเวอร์ชั่น PS3 น่าจะดีขึ้นโดยรวมแล้ว ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่เท่าไร และหลายส่วนก็ไม่ได้ฉีกไปจากแนวเดิมๆนัก แต่อย่างน้อยก็เป็นก้าวแรกที่เริ่มเปลี่ยนไปของเกม RPG ญี่ปุ่น ที่แม้ระบบจะดูแปลกๆแต่ถ้าเข้าใจก็ถือว่าทำได้ดี และถ้าคุณเคยสนุกกับเกม RPG ญี่ปุ่นอย่าง ซาก้า หรือ ชอบเกมที่ต้องตั้งค่า และมีอะไรให้ทำมากมาย เกมนี้จะทำให้คุณสนุกไปกับมันได้ อย่างน้อยก็ทำให้เล่นจนติดหนึบมากกว่าตอนเล่น Infinite Undiscovery และหวังว่าเกมต่อไป (Star Ocean 4) จะสนุกมากขึ้นกว่านี้

ข้อดี : การต่อสู้ที่รวดเร็ว สมจริง เควสย่อยเยอะ
ข้อเสีย : ภาพกระตุก เฟรมเรตตก โหลดบ่อย
ข้อแนะนำ : ทำ ซาก้า ภาคต่อด้วย Unreal Engine



เกมการเล่น8
กราฟฟิก8.5
เสียง8
ความคิดสร้างสรรค์8
ความคุ้มค่าสำหรับผู้ที่ชอบ Turn Base RPG
ภาพรวม8.2


Darth.Vader (วงศกร ปฐมชัยวัฒน์)






กำลังโหลดความคิดเห็น