การที่เราคาดหวังอะไรไว้มากๆมักจะผิดหวังเสมอ คำพูดนี้ได้รับการพิสูจน์ว่าจริงเสมอ ดังนั้นไม่ควรคาดหวังอะไรมากเกินไป แต่สำหรับเกมที่สร้างโดยทีมงาน Tri Ace และ Square Enix ถึงทำใจไว้แค่ไหนแล้วก็อดที่จะคาดหวังไว้ว่า เกมภาษาฟอร์มยักษ์ Infinite Undiscovery ซึ่งเป็นเกมแรกใน 3 เกมที่จะออกเครื่อง Xbox360 ว่าจะต้องสนุกสมกับเป็นทีมงานสร้าง Star Ocean และ Valkyrie Profile แน่นอน แต่ด้วยกระแสรีวิวจากต่างประเทศที่ออกมาไม่ค่อยดีนัก ทำให้ผู้เล่นหลายคนอาจลังเลว่า การค้นหาสิ่งใหม่ๆครั้งนี้ของ Tri Ace จะคุ้มค่าน่าเล่นหรือไม่
เมื่อเริ่มเกมจะพบกับ CG คุณภาพสูง ภาพในเกมที่สวมงาม การเคลื่อนไหวที่นุ่มนวล แสงสีของท่าไม้ตายที่ฉูดฉาด สมเป็นเกมจาก Square Enix เมื่อเริ่มเกม สัมผัสแรกคุณจะพบกับเกมแอ็คชันอาร์พีจีที่สามารถบังคับได้เฉพาะตัวเอก ซึ่งดูเป็นเกมแอ็คชันมากกว่า แต่เสียตรงที่โหมดสอนการเล่นที่ปัจจุบัน นิยมทำเป็นด่านเพื่อให้ผู้เล่นค่อยๆเรียนรู้วิธีการเล่นนั้นสร้างความมึนให้กับผู้เล่นพอสมควร เพราะการบังคับสั่งการเพื่อนรวมปาร์ตี้ หรือ Connect ที่ทำให้สับสน ทำให้การ Connect สำหรับผู้ที่ได้เล่นครั้งแรกต้องเกิดอาการ มึนๆกันบ้าง โดยเฉพาะฉากในป่าที่ ทำให้สัมผัสแรกที่ได้เล่นเกมนี้สอบตก เพราะความมืด บวกกับการที่ผู้เล่นยังไม่ชินกับระบบ จึงไม่แปลกที่จะมีเสียงบ่นจากผู้ที่เล่นช่วงแรก(รวมทั้งผู้เขียนเอง)
ยิ่งเจอระบบที่ต้องมานั่งชักดาบเข้าๆออกๆ เพื่อหยิบของหรือเปิดประตู ทำให้เสียจังหวะในการเล่น แถมระบบเกมที่เป็นแอ็คชันแบบเรียลไทม์จริงๆ การหยุดเข้าเมนูเพื่อใช้ไอเท็มจึงเป็นเรื่องน่าเครียด เพราะศัตรูไม่ได้หยุดตามเรา ส่วนระบบ Connect เพื่อสั่งการทั้งทำได้โดยกด RB แล้วสามารถเลือกสั่งการเพื่อนในทีมได้ และใส่คำสั่งได้ 2 คำสั่ง ด้วยปุ่ม X กับ Y โดยเราสามารถตั้งค่าได้ว่าจะให้ใช้ ท่าไม้ตายหรือเวท โดยเราสามารถ เลือก ได้ 3 คน(เฉพาะใน Partyเรา) ถือว่าเป็นระบบที่ OK ในทางทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัติแล้วมีข้อติดขัด เพราะการ Connect กับเพื่อนร่วมทีมนั้นต้องรอ ในบางครั้งก็ไม่สามารถสั่งการได้ทันเพราะโดนศัตรูโจมตีก่อน จนพลาดไปหลายครั้ง
ส่วนการบังคับตัวเอกก็ใช้ปุ่ม A กับ B ที่สามารถตั้งค่าท่าไม้ตายไว้ทำคอมโบได้เต็มที่
ในการต่อสู้จริงๆการ Connect แทบไม่มีประโยชน์นอกจาก เรียกให้เติมพลังหรือเพิ่มค่าต่างๆ แต่การ Connect จำเป็นในการแก้ปริศนา , เก็บหีบสมบัติ ,หาข่าวสาร หรือกระทั้งทำเควสต์บางครั้งทำพลาดส่งผลให้เกมโอเวอร์เลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตาม เกมนี้มีระบบ A.I. ที่ชาญฉลาดพอสมควร เรียกได้ว่าถ้าไม่เจออะไรหนักๆจริงๆแล้ว A.I. ของเราเอาตัวรอดได้สบายๆ ส่วนมุมกล้องที่เป็นมุมมองบุคคลที่ 3 ที่ปรับได้อิสระ แต่ก็มีจุดบกพร่องตรงเมื่อเกิดการตะลุมบอน จะสับสนมากๆเพราะแทบไม่รู้ว่าใครเป็นใคร หรือจะมีศัตรูโจมตีจากตรงไหน
การแก้ปริศนาภายในเกมนั้นดูธรรมดาๆ ถ้าใครเคยผ่านเกมแนวนี้มาแล้ว จะเดาได้ไม่ยาก แต่ก็มีบางครั้งที่ต้องใช้การผสมของ หรือใช้การเป่าฟลุตในการเปิดทางที่ซ่อนอยู่โดยมีในบางปริศนาที่ดูคลุมเครือบ้าง โดยเกมมีการใช้ลักษณะทางภูมิประเทศของด่าน เช่น หินกลิ้ง พายุทราย , คลื่นยักษ์ หรือใช้ศัตรูเพื่อเปิดทาง จนแม้กระทั้งด่านทำสงครามที่ต้องใช้อาวุธขนาดใหญ่ เช่นเครื่องยิงหินมาร่วมโจมตี แต่วิธีจัดการบอสที่ค่อนข้างซ้ำซาก ความจริงเราก็ไม่ได้หวังว่าปริศนามันจะซับซ้อนเท่าเซลด้า แต่อย่างน้อยมันน่าจะทำได้ดีกว่านี้ บางดันเจี้ยนทำให้ผู้เขียนอุทานออกมาว่า “คิดออกมาได้แค่นี้เหรอ” หรือในบางปริศนาที่คลุมเครือจนทำให้ปวดหัวมากกว่าสนุก
เกมมีระบบ Item creation และEnchant creation เพื่อผสมของ หรือเพิ่มค่าพลัง โดยทำกับเพื่อนที่มีความสามารถตามที่เกมกำหนด นอกจากนี้ยังมีอะไรให้ทำเพิ่มเติมเช่นการเก็บ AP , การทำตามเงื่อนไข เพื่อจะได้ situation bonus และเควสต์ย่อยให้ทำแต่บางเควสต์ออกจะน่าเบื่อไปสักหน่อย โดยรวมถือว่าใช้ได้แต่ก็ไม่มีอะไรใหม่ ส่วนเนื้อเรื่องที่ได้รับการประพันธ์ โดยคุณ Shoji Gatoh ผู้แต่ง Full Metal Panic ที่มีจุดน่าสนใจ และมีการเขียนถึงความสัมพันธ์และการพัฒนาของตัวละครที่ดี แต่เนื้อเรื่องออกจะเดาง่ายไปสักหน่อย ตัวเกมใช้เวลาเล่นจบโดยไม่ทำเคสวต์ย่อยประมาณ 25-30 ชม. ค่อนข้างสั้นไปสำหรับเกมที่ใช้ DVD9 ถึง 2 แผ่น
ติไปเสียเยอะ สรุปเกมนี้จะไม่มีดีเลยหรือ ความจริงเกมนี้พอจะมีข้อดีอยู่ เช่นกราฟิกในเกมที่สวยงาม ระบบเสียงที่เป็น 5.1 และดนตรีประกอบที่ไพเราะ จนหลายครั้งต้องหยุดนั่งฟัง รวมทั้งเสียงพากย์ที่ดูดี(ใน ver.ญี่ปุ่น) แต่ก็มาๆหายๆไม่ครบทุกคัตซีน ที่สำคัญการจำลองโลกขนาดใหญ่ โดยใช้เวลาโหลดอันน้อยนิด นั้นสร้างความประทับใจให้กับผู้เล่นที่เบื่อการโหลดในเกมภาษายุคหลังๆมาก และการจัดปาร์ตี้ได้มากถึง 3 ปาร์ตี้ โดยเราสามารถตั้งค่าได้สูงสุด 12 ตัวละคร ส่งผลให้การต่อสู้ดูชุลมุนวุ่นวายดี แต่ในบางครั้งเกิดอาการกระตุก และเฟรมเรตตกบ้าง (ส่วนใหญ่เราจะได้เล่นแค่ปาร์ตี้เดียว) ถ้าพูดในแง่ความเป็นเกมแอ็คชันแล้วเกมนี้ก็สนุกในระดับหนึ่ง และตัวเกมมีระดับความยากให้เลือก ใครที่ชอบความท้าทายสามารถกลับมาเล่นอีกรอบได้
ความจริงเกมนี้ไม่ได้เลวร้ายอะไร แต่ถ้าเทียบกับชื่อชั้นของผู้ผลิตอย่าง Tri Ace และ Square Enix แล้ว น่าจะทำได้ดีกว่านี้ ดังนั้นจึงเป็นที่มาของคำว่าทำได้ไม่เท่าที่หวังจริงๆ แต่ก็ยังถือว่าน่าเล่นในสภาวะที่ขาดแคลนเกม RPG ญี่ปุ่น อย่างน้อยเกมนี้ได้พยายาม เพิ่มเติมสิ่งต่างๆให้เกมแอ็คชันอาร์พีจี และผสานข้อดีของเกมออนไลน์ เข้ากับเกมได้อย่างดี โดยรวมแม้จะมีอะไรติดขัดบ้างแต่ก็คุ้มค่าที่จะลองค้นหาสิ่งที่ไม่เคยถูกค้นพบกับเหล่านักรบผู้กล้าได้ใน Infinite Undiscovery
ข้อดี โหลดเร็ว กราฟิกสวย เพลงประกอบคุณภาพดี
ข้อเสีย ระบบ Connect ยังไม่ดีพอ, ปริศนาน่าเบื่อและคลุมเครือ
ข้อแนะนำ ถ้าทำระบบ Connect และไอเท็มใหม่ด้วยจะดีมาก
เกมการเล่น | 7.5 |
กราฟิก | 8.5 |
เสียง | 9 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 7.5 |
ความคุ้มค่า | คุ้มค่าสำหรับผู้ชอบ J.RPG |
ภาพรวม | 7.8 |
วงศกร ปฐมชัยวัฒน์ (Darth.vader)