(NDS) ESRB rated : T (สำหรับผู้ที่มีอายุ 13 ปีขึ้นไป)
ในยุคนี้ ที่อุดมไปด้วยเกม 3 มิติ หรือไม่ก็ต้องเป็นภาพระดับ HD ถ้าจะพูดถึงเกม 2 มิติ แบบดั้งเดิม ที่ภาพแบบเป็นดอท พิกเซล ที่ยังยืนหยัดอยู่ได้ โดยไม่เปลี่ยนแปลงคงต้องนึกถึง เกมตระกูล Castlevania ของเครื่อง DS ที่ยังคงซึ่งความเป็นเกมแบบดั้งเดิม ไว้อย่างเหนียวแน่น และมีภาคต่อมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแม้จะเทียบความยิ่งใหญ่อลังการของ Castlevania: Symphony of the Night ของ PS1 ไม่ได้ แต่ก็ได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และเป็นการแสดงให้เห็นว่า เกม 2 มิติ ไม่ได้ตายจากไปไหน
กลับมาครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 โดยเกมยังคงรูปแบบเกม 2 มิติแบบ side scroll ไว้อย่างต่อเนื่อง และกราฟิก ยังคงเป็น ดอทพิกเซล เช่นเดิมแต่เพิ่ม ฉากหลัง 3 มิติไว้เล็กน้อยเหมือนภาคก่อนๆ โดยตัวเอกภาคนี้เป็นสาวสวยนาม "Shanoa" ที่แผ่นหลังอันสวยงามของเธอหลังสามารถดูดพลัง Glyph จากศัตรูมาใช้ได้ ซึ่งภาคนี้มาแปลกที่ไม่มีการใส่อาวุธแบบปกติ แต่เป็นการใช้ Glyph แทนอาวุธ และท่าต่างๆ โดยต้องเสียพลัง MP ที่เพิ่มขึ้นทันทีที่หยุดใช้ และ Glyph แบ่งออกเป็นสีน้ำเงินไว้โจมตี ส่วน สีแดงไว้สนับสนุน(ใช้ปุ่ม R) โดยสามารถตั้งค่าสีน้ำเงินได้ ทั้ง ปุ่มคือ X กับ Y เพื่อทำให้เกิดท่าคอมโบ ส่วนท่าไม้ตายที่ต้องเสียพลังหัวใจ(ที่ไม่เพิ่มเองต้องตามเก็บ) โดยเราสามารถผสาน Glyph ร่วมกันทำให้เกิดท่าต่างๆได้หลากหลายมาก เช่นนำ Glyph หอกมาร่วมกับ Glyph สายฟ้าจะได้ หอกสายฟ้าเป็นต้น
นอกจากนี้ ศัตรูและบอส ที่ทำออกมาค่อนข้างยากถ้าเดินไปลุยโดดๆ แต่ถ้ารู้วิธีจัดการและ ตั้งค่า Glyph ร่วมกับการใส่เครื่องประดับให้ถูกต้องตามธาตุที่มันแพ้แล้ว จะจัดการได้ไม่ยาก ดังนั้นการไล่ล่าหา Glyph จากศัตรูหรือที่ซ่อนอยู่จึงจำเป็นและทำให้สิ่งที่เกมสร้างมาไม่ไร้ค่า เมื่อเทียบกับภาคก่อนๆและที่เด่นภาคนี้ถูกปรับเปลี่ยนให้ตัวเกมแบ่งออกเป็นด่านๆ ที่เลือกบนแผนที่ ซึ่งนอกจากเราได้เล่นในแบบ ตะลุยด่านที่ไม่ซับซ้อน แล้วเรายังได้แก้ไขปริศนาในการช่วยคน และการทำเควส และเก็บเลเวล หรือหาของที่ซ่อนอยู่แบบเกม แอ็คชั่น อาร์พีจี และในเกมยังคงมีฉากที่ซับซ้อนเช่น ปราสาทแดร็กคูล่า ที่ยังคงอยู่เหมือนเดิม (แต่ลดความซับซ้อนลง) โดยองค์รวมแล้วภาคนี้เป็นการผสานเกมหลายแนวได้อย่างลงตัว
ตัวเกมโดยรวมแม้จะ แบ่งเป็นด่านๆ และแถมด้วย ปราสาทผีดูดเลือดอีก 1 เกมก็ยังคงดูสั้นไปนิด แต่การช่วยคนในหมู่บ้านที่ถูกคำสาปเพื่อปลดล็อก สิ่งต่างๆ เช่นร้านค้า หรือ ไอเท็ม รวมทั้งกลับไปทำเควส ของคนในหมู่บ้าน เพื่อแลกกับไอเท็มต่างๆก็ช่วยให้เกมนี้มีอะไรให้ทำมากขึ้น โดยเนื้อเรื่องของภาค ค่อนข้างเดาง่าย แถมตัวละครหลักๆก็มีน้อยไปหน่อย ดีที่การออกแบบตัวละครที่ เปลี่ยนจากแนว แอนิเมะ ที่ดูน่ารักไปจาก 2 ภาคแรก มาเป็นการ์ตูนที่ดูจริงจังเหมือนสมัย Castlevania: Symphony of the Night มากขึ้น แต่ที่น่าผิดหวังนิดๆ คือดนตรีประกอบที่ดูด้อยกว่าภาคก่อนลงเล็กน้อย เพราะไม่มีธีมเด่นๆเท่าไรนัก แต่ก็ยังอยู่ในระดับดี ในด้านเสียงประกอบก็ทำออกมาได้ดีเช่นเดิม ส่วนของแถมอย่าง โหมด Boss rush และเกมมีโหมด ออนไลน์เช่น ร้านค้า ออนไลน์ รวมทั้งโหมด Race ก็มีมาให้เล่น
ท้ายที่สุดเกมตระกูล Castlevania หรือที่คนเก่าคนแก่เรียกชื่อเล่นว่า "เกมแส้" ที่แม้จะพัฒนาเป็น 3 มิติออกมาหลายต่อหลายภาค และบางภาคก็สนุกใช้ได้ แต่น่าแปลกใจที่ ผู้เขียนเองยังคงรู้สึกสนุกกับการได้ฟาดฟันกับ แดร็กคูล่า ในรูปแบบ 2 มิติเหมือนเดิมมากกว่า ที่สำคัญการที่เกมพัฒนาระบบใหม่ตลอดทำให้รูปแบบการเล่นเปลี่ยนไปในทุกๆภาคทำให้เกมไม่ค่อยซ้ำซากกันเท่าไรนัก แฟนๆเก่าคงไม่พลาดอยู่แล้ว ส่วนแฟนใหม่ๆที่เกิดในยุค 3 มิติก็อยากให้ลิ้มลองดู ที่แม้จะดูเป็น เหล้าเก่าในขวดเก่า แต่ด้วยการที่บ่มเพาะมาเป็นอย่างดี รสชาติจึงออกมากลมกล่อม และควรค่าแก่การหามาลิ้มลอง
ข้อดี : ระบบ Glyph หลากหลาย
ข้อเสีย : ปริศนาในเกมที่อ่อนด้อยลง
ข้อแนะนำ : เวลา ดูด Glyph จากศัตรูใช้เวลานานไปหน่อย
คะแนนการเล่น | 8.5 |
กราฟิก | 8 |
เสียง | 8.5 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 8 |
ความคุ้มค่า | สนุกแบบ 2 มิติ |
ภาพรวม | 8.5 |
Darth.Vader (วงศกร ปฐมชัยวัฒน์)