Review: ORDER UP! (Wii)พ่อครัวแสนสนุกปรุงรสเด็ด

ไม่น่าเชื่อว่าเกมทำอาหารที่ดูน่ารักน่าชังอย่าง Cooking mama ที่ออกมาวาดลาดลายทั้งบนเครื่อง DS และวีจะประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย จนสร้างชื่อให้กับค่าย majesco มากกว่าเกมแนวฮารด์คอร์เสียอีก ด้วยการผสมคลุกเคล้ากันระหว่างลูกเล่นของเครื่องเกมเข้ากับเกมแนวทำอาหารได้อย่างสนุกและชวนหิว แม้จะมีข้อเสียอยู่ตรงเกมไม่ค่อยมีเนื้อเรื่องหรืออะไรให้ทำในเกมเท่าไรนัก แต่ Cooking Mama ก็กลายเป็นเกมแนวหน้าที่เปิดแนวทางของเกมทำอาหาร ดังนั้นการมาสานต่อของ “Order Up!” แม้จะไม่ได้มาจากค่ายเกมยักษ์ใหญ่ แต่ก็น่าลิ้มลองว่า การปรุงรสครั้งนี้จะอร่อยเหมือนต้นตำรับหรือไม่

เกมเปิดตัวโดยเราสามารถเลือกพ่อครัว(หรือแม่ครัว)ได้ ด้วยภาพโพลิกอนที่สะอาดตา และดูเป็นการ์ตูนฝรั่งตัวกลมๆที่น่ารัก รวมทั้งการจัดองค์ประกอบศิลป์ในเกมล้วนน่ารักสดใส การเคลื่อนไหวที่นุ่มนวลและเหมาะสมกับเกมที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นอะไร ตามประสาเกมแนว Casual เสียงและดนตรีประกอบก็ทำหน้าที่เป็นส่วนประกอบจริงๆ ที่ดูเรียบง่ายแต่ก็เหมาะกับรูปแบบเกม โดยเมื่อถึงจุดที่ต้องตื่นเต้นเร้าใจดนตรีก็จะปรับเปลี่ยนไปให้เข้ากับเกมเช่นกัน โดยหลังจากผ่านการฝึกจากร้าน เราจะได้ร้านเป็นของตัวเอง รูปแบบการเล่นจึงแตกต่างจาก Mama เพราะการเปิดร้านต้องแข่งกับเวลา และต้องทำอาหารหลายอย่างพร้อมๆกัน

ในส่วนของการควบคุมบังคับ ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจหลักของเกมที่ทำหน้าที่ของมันได้อย่างดี การหั่น, สับ, คน, คลุก, ทอด, อบ, ย่าง ด้วยวี รีโมตจะออกท่าทางตามที่กำหนด และพัฒนาให้สั่งการได้รวดเร็วแม่นยำกว่า Cooking Mama และด้วยต้องทำหลายอย่างพร้อมกัน ดังนั้นเกมต้องปรับเปลี่ยนให้ใช้เวลาการเล่นน้อยลงส่งผลให้เกมเล่นง่ายไม่ซับซ้อนในการปรุงอาหารแต่ละอย่าง โดยเราสามารถเปลี่ยนมุมมองไปดูเตาอื่นได้โดนกด D pad โดยมีการใช้ปุ่ม B และ A เข้ามาร่วมด้วยซึ่งนับเป็นเกมที่ใช้ความสามารถของเครื่องวีได้ดี และมีปรับปรุงพัฒนาขึ้น

อะไรที่ดูยุ่งยากใน Cooking mama ถูกปรับให้เล่นง่ายขึ้น เช่นการปลอกเปลือก หรือตอกไข่ที่ไม่มีให้เห็นแล้ว และด้วยเกมนี้เน้นไปที่การได้ทำอาหารหลายอย่างพร้อมๆกัน การบริหารทรัพยากรต่างๆภายในร้านเป็นสิ่งจำเป็นเพราะเรามีเตาหรือที่ทอดจำกัด ดังนั้น เราจะต้ม หรือผัดก่อน และระหว่างนั้นเราควรทอดอะไรไปด้วยหรือไม่ หรือจะให้ผู้ช่วยพ่อครัวทำอะไรไปด้วยดี ดังนั้นต้องคิดวางแผนดีๆ นอกจากนี้ต้องคอยดูของในแต่ละเตาไม่ให้ดิบหรือสุกจนเกินไป (จนอาจเกิดไฟไหม้เตาได้) รวมทั้งการปรุงรสให้อร่อยด้วยเครื่องปรุงชนิดต่างๆอีกด้วย

ด้านเกรดการทำอาหารแบ่งออกเป็น poor, ok, good, perfect (ถ้าทำได้ไม่ดีก็สามารถทิ้งลงถังขยะ แล้วทำใหม่ได้) ที่แม้ตัวเกมดูชุลมุนวุ่นวายในการทำอาหาร แต่ก็ให้บรรยากาศความเป็นร้านอาหารดี เพราะลูกค้ามาสั่งพร้อมกันจำนวนมาก ถ้าเราทำทีละอย่าง กว่าจะเสร็จ อาหารจานแรกๆคงเย็นหมดด้วยระบบอุณหภูมิที่จะลดลงเรื่อยๆถ้าเราไม่รีบเสิร์ฟ และต้องทำให้เสร็จพร้อมกันทั้งโต๊ะถึงจะเสิร์ฟได้ด้วย เกมจะแบ่งออกเป็นวันๆ โดยหลังจากจบวันจะมีคอมเม้นจากลูกค้าเพื่อปรับปรุงการทำอาหารของเราให้ดียิ่งขึ้น

ถ้าทำได้ดี อร่อยรวดเร็วทันใจจะได้ทิปจากลูกค้าเยอะขึ้น โดยเงินที่ได้ สามารถเอามาจ้างผู้ช่วยพ่อครัว ซื้อเมนูใหม่ๆเข้าร้าน อัปเกรดเครื่องครัว หรือซื้อเครื่องปรุงต่างๆ เป็นต้น โดยในแต่ละวันของเราสามารถเรื่องระดับความยากง่ายในการเล่นได้จากดาว (ยิ่งดาวมากจะยิ่งยาก)และในท้ายที่สุดเมื่อเรามั่นใจในฝีมือจะลองทำอาหารให้นักวิจารณ์สุดโหดชิม แล้วขยายร้านเปลี่ยนร้าน โดยมีตั้งแต่ร้านแฮมเบอร์เกอร์ ยันร้านอาหารอิตาเลี่ยนสุดหรูเรื่อยไปจนถึงการแข่งขันชิงแชมป์ที่สุดมันที่ล้อเลียนรายการดังอย่าง “ยุทธการกระทะเหล็ก” โดยความยากในการทำอาหารจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆภาพรวมทั้งหมดมีอะไรให้ทำมากมายหลากหลาย จนทำให้ Cooking Mama ต้องคิดหนักขึ้นสำหรับภาคต่อที่จะออกมาเร็ววันนี้ว่าจะมีดีเท่านี้หรือไม่

นอกจากนี้ เกมยังมี มินิเกมฮาๆที่ไม่ได้มีไว้เล่นแก้เซ็งนะ มินิเกมเหล่านี้จะแทรกอยู่ในเกมหลักที่เราจะได้เล่นเมื่อถึงเวลา หรือทำอะไรพลาดระหว่างเล่น เช่น ดับไฟ ,ไล่จับหนู หรือถ้ามีผู้ตรวจจากหน่วยงานมาตรวจร้าน เราก็ต้องล้างจานแสดงว่าร้านเราสะอาด หรือฟันผักที่ตลาด เป็นต้น รวมทั้งต้องเขย่าวี รีโมต เพื่อปลุกผู้ช่วยพ่อครัวที่แอบหลับระหว่างทำงานด้วย และว่ากันตามตรงหลังจากได้เล่นเกมนี้ แล้วรู้สึกเข้าใจและเห็นใจพ่อครัวมากขึ้น เพราะเกมสื่อให้เราเห็นถึงคำว่า “มือเป็นระวิง” ในห้องครัวได้เป็นอย่างดี

สรุปแล้วสำหรับแฟนๆ Cooking Mama ที่รักการเล่นไปเรื่อยๆเกมนี้อาจไม่เหมาะสำหรับคุณเท่าไรนัก เพราะเกมนี้ดูมีอะไรจริงจังมากขึ้น มีอะไรให้ทำมากมายหลากหลาย แม้รูปแบบการเล่นจะปรับให้เข้าถึงได้ง่ายกว่าก็ตาม แต่เกมโดยรวมก็ไม่ได้ง่ายตามเลย แต่สำหรับผู้ที่ชอบอะไรที่ท้าทาย เกมนี้สามารถตอบโจทย์ทุกอย่างที่เกมทำอาหารควรจะมีได้เป็นอย่างดี เสียดายที่ไม่มีโหมดเล่นหลายคน อย่างไรก็ตามเกมนี้ก็เป็นหนึ่งใน “เกมน้ำดี” ที่ไม่มีพิษมีภัยที่ควรมีไว้ติดเครื่องวีอีกหนึ่งเกมที่พวกผู้ใหญ่ที่มักจะมองเกมในแง่ร้ายน่าจะได้ลองเล่นดู เผื่อจะได้มองโลกกว้างขึ้นบ้าง

ข้อดี : สนุกหลากหลาย มีอะไรให้ทำมากกว่า cooking mama
ข้อเสีย : สำหรับเด็ก บางอย่างอาจยุ่งยากไป, ไม่มีโหมดเล่น 2 คน
ข้อแนะนำ : เล่นแล้วจะเข้าใจความลำบากพ่อครัว มากขึ้น

เกมการเล่น	8.5
กราฟิก	8
เสียง	7.5
การควบคุมบังคับ	8.5
ความคุ้มค่า	หลากหลายกว่า Mama
ภาพรวม	8