จากกรณีที่มีการโพสต์ให้ข้อมูลในเรื่องยาฟาวิพิราเวียร์รักษาผู้ป่วยโควิด 19 ทุกราย ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ผู้ป่วยที่จะได้รับยาฟาวิพิราเวียร์จะต้องได้รับการพิจารณาการรักษาและการให้ยา ผู้ที่จะได้รับยาฟาวิพิราเวียร์คือกลุ่มที่มีอาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยง และกลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยง
วันนี้ (13 พ.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นสุขภาพเรื่องใช้ยาฟาวิพิราเวียร์รักษาผู้ป่วยโควิด 19 ทุกราย ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน
จากกรณีที่มีการโพสต์ให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับใช้ยาฟาวิพิราเวียร์รักษาผู้ป่วยโควิด 19 ทุกราย ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ผู้ป่วยที่จะได้รับยาฟาวิพิราเวียร์จะต้องได้รับการพิจารณาการรักษาและการให้ยา นอกจากพิจารณาตามอาการประวัติการให้วัคซีนประวัติโรคประจำตัวการประเมินความเสี่ยงต่อความรุนแรง ยาแต่ละตัวจะมีข้อดีและข้อจำกัดรวมถึงผลข้างเคียงของยาในการให้ในผู้ป่วยแต่ละราย เพราะการตอบสนองต่อเชื้อไวรัสแตกต่างกัน ดังนั้นจึงให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัยและขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์ในการรักษาผู้ป่วยแต่ละรายและการให้ยาปรับเปลี่ยนตามอาการและสภาวะของผู้ป่วยในขณะนั้น เนื่องจากอาการแต่ละรายแตกต่างกัน ผู้ที่จะได้รับยาฟาวิพิราเวียร์คือกลุ่มที่มีอาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยง และกลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อโรครุนแรงหรือกลุ่มที่มีปอดอักเสบแต่ไม่ต้องให้ออกซิเจน
ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.dms.go.th หรือโทร 02 5906000
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ผู้ป่วยที่จะได้รับยาฟาวิพิราเวียร์จะต้องได้รับการพิจารณาการรักษาและการให้ยา ผู้ที่จะได้รับยาฟาวิพิราเวียร์คือกลุ่มที่มีอาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยง และกลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยง
หน่วยงานที่ตรวจสอบ รมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข