นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิกเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย วันนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 17,784 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 17,706 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 78 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,942,439 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) หายป่วยกลับบ้าน 22,846 ราย หายป่วยสะสม 1,786,451 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 183,154 ราย เสียชีวิต 126 ราย จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,929 ราย เฉลี่ยจังหวัดละ 25 ราย อัตราครองเตียง ร้อยละ 24.5
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เน้นย้ำประชาชนและทุกภาคส่วนยังคงต้องเข้มข้นในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อลดอัตราการติดเชื้อที่อาจจะเพิ่มขึ้น แม้ผู้ติดเชื้อในประเทศส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอาการสีเขียวที่สามารถรักษาได้ในรูปแบบ Home Isolation (HI) Community Isolation (CI) และแบบผู้ป่วยนอก "เจอ แจก จบ"
อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดแนวทางการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
1. กลุ่มที่ไม่มีอาการ ไม่ต้องกินยาต้านไวรัส อาจให้ยาฟ้าทะลายโจร ขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์
2. กลุ่มที่มีอาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยง พิจารณาให้ฟาวิพิราเวียร์เร็วที่สุด
3. กลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อโรครุนแรงหรือกลุ่มที่มีปอดอักเสบ แต่ยังไม่ต้องให้ออกซิเจน พิจารณาให้ยาต้านไวรัสเร็วที่สุด โดยประเมินจากประวัติวัคซีนและปัจจัยเสี่ยงต่อโรครุนแรง
4. กลุ่มที่มีอาการปอดอักเสบต้องได้รับการรักษาด้วยออกซิเจน พิจารณาให้เรมเดซิเวียร์อย่างเร็วที่สุด
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงสาธารณสุขยังได้ดำเนินการตามนโยบายและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญในการลดจำนวนผู้เสียชีวิตให้น้อยที่สุด โดยเน้นการดูแลผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองและสีแดง ที่มีความเสี่ยงอาการรุนแรงและเสียชีวิต และเร่งรณรงค์ให้ประชาชนมารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั้งเข็มปกติและเข็มกระตุ้นด้วย