Netflix ผงาดขึ้นเป็นผู้ชนะการประมูลซื้อกิจการ Warner Bros. Discovery (WBD) หลังยื่นข้อเสนอสูงสุดและได้รับสิทธิ์เข้าสู่การเจรจาแบบเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อตกลงรายละเอียดขั้นสุดท้าย ดีลประวัติศาสตร์นี้เกิดขึ้นหลังวันอันดุเดือดที่ Paramount พยายามเร่งเดินเกมเพื่อชิงดีลเช่นกัน
แหล่งข่าวเผยว่า Netflix เสนอราคาประมาณ 28 ดอลลาร์ต่อหุ้น โดยเป็นเงินสดเป็นหลัก ขณะที่ Bloomberg ระบุว่าบริษัทเสนอ ค่าปรับยกเลิกดีล (breakup fee) สูงถึง 5 พันล้านดอลลาร์ หากการเข้าซื้อไม่สำเร็จ
WBD ตัดสินใจเปิดขายกิจการตั้งแต่เดือนตุลาคม หลังได้รับข้อเสนอจาก Paramount ต่อเนื่องสามครั้ง โดยตั้งเป้าปิดดีลภายในกลางถึงปลายเดือนธันวาคมนี้
การเข้าซื้อครั้งนี้จะทำให้ Netflix ได้ครอบครอง Warner Bros. Studios และทรัพย์สินด้านสตรีมมิ่งรวมถึง HBO Max ขณะที่ข้อเสนอของ Paramount เป็นการซื้อกิจการทั้งหมดของ WBD ส่วน Comcast ก็ยื่นประมูลเฉพาะสตูดิโอและธุรกิจสตรีมมิ่งเช่นกัน
Paramount ย้ำว่าตนเป็นรายเดียวที่ “ปิดดีลได้อย่างราบรื่น” โดยอ้างว่าข้อเสนอของ Netflix และ Comcast จะเจอปัญหาใหญ่ด้านกฎหมายการแข่งขัน เนื่องจาก Netflix เป็นผู้เล่นสตรีมมิ่งรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐและทั่วโลก การควบรวมกับ HBO Max อาจกระทบตลาดอย่างมีนัยสำคัญ
ในอีกด้านหนึ่ง Paramount โจมตีขั้นตอนการขายของ WBD อย่างรุนแรง ระบุว่ากระบวนการ “เอนเอียงเข้าหา Netflix” และอาจมี ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ของผู้บริหาร WBD โดยพาดพิงถึง David Zaslav ซีอีโอของบริษัท
WBD ตอบโต้ว่า บอร์ดบริหารปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายอย่างครบถ้วน และยืนยันว่ากระบวนการทั้งหมดเป็นไปตามมาตรฐานสูงสุด
หุ้น WBD ปรับขึ้นเกือบ 6% แตะ 26 ดอลลาร์ สูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ และเกือบ 4 เท่าจากระดับต่ำสุดของปีที่ 7.50 ดอลลาร์ กระแสดีลเข้าซื้อทำให้ราคาหุ้นฟื้นตัวหลังอ่อนแรงต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2022
นักวิเคราะห์ Jessica Reif Erlich จาก Bank of America ชี้ว่า ผู้เสนอซื้อทุกรายพร้อมจ่ายแพงเพื่อ “กำจัดคู่แข่ง ควบคุมแฟรนไชส์ และผสานคลังคอนเทนต์ล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่งของโลก” ไม่ว่าจะเป็น Harry Potter, DC Comics, Game of Thrones, Hanna-Barbera ซึ่งเธอเรียกว่าเป็น “crown jewel” ของอุตสาหกรรม
ดีลนี้ถือเป็นการเปลี่ยนทิศใหญ่ของ Netflix ซึ่งแทบไม่เคยซื้อกิจการรายใหญ่เลยในประวัติศาสตร์บริษัท แต่ปัจจุบันเผชิญข้อจำกัดด้านคลัง IP ที่ลึกและหลากหลาย เมื่อเทียบกับสื่อยักษ์เจ้าอื่น
การได้ครอบครอง IP ขนาดใหญ่ รวมถึงการได้สตูดิโอผลิตภาพยนตร์และซีรีส์ระดับโลก จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและดึงดูดครีเอเตอร์ระดับท็อปเข้าร่วมงานกับ Netflix ได้มากขึ้น
หากดีลเสร็จสมบูรณ์ Netflix จะได้ทรัพย์สินฝั่งสตูดิโอและสตรีมมิ่ง ได้แก่ Warner Bros Television, Warner Bros Motion Picture Group, DC Studios, HBO และ HBO Max
ส่วนธุรกิจทีวีทั่วโลก เช่น CNN, Discovery Network, TNT Sports, ช่องฟรีทีวีในยุโรป และ Discovery+ จะไม่รวมอยู่ในดีลนี้
หาก Netflix ควบรวม Warner Bros สำเร็จ บริษัทจะมีเครือข่ายจัดจำหน่ายภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ทั่วโลก แต่ผู้กำกับ โรงภาพยนตร์ และคนในวงการเริ่มกังวลว่า Netflix อาจลดความสำคัญของการฉายโรง
Netflix เคยประกาศว่า จะให้หน้าต่างฉายโรง 17 วัน ก่อนลงสตรีมมิ่ง ซึ่งสวนทางกับ AMC ที่เรียกร้อง 45 วัน ทำให้ภาพยนตร์ลุ้นรางวัลล่าสุดของ Netflix ไม่ได้ฉายในเครือโรงใหญ่ของสหรัฐ
จนถึงตอนนี้ หนัง Netflix ที่ทำรายได้เปิดตัวอันดับ 1 มีเพียง KPop Demon Hunters Singalong ที่โกย 19 ล้านดอลลาร์ในสองวัน
