xs
xsm
sm
md
lg

“กชเบล” สร้างตำนานนางสู้ คว้ารองฯ 1 MGI ร่ำไห้ภูมิใจ พลิกคำบูลลี่เอาชนะใจคนไทย ไม่ใช้ล่ามแม้ไม่เก่งภาษา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“กชเบล” ร่ำไห้ ภูมิใจในตัวเองที่สุด ที่สู้มาจนถึงวันนี้ มองข้ามคำบูลลี่ คำวิจารณ์ต่างๆ พิสูจน์ตัวเองจนมาถึงวันนี้ที่ชนะใจคนไทย ตั้งใจไม่ใช้ล่ามในการตอบคำถามบนเวที เพราะอยากเอาชนะความกลัวเรื่องการพูดภาษาอังกฤษของตัวเอง ในที่สุดก็ทำได้สำเร็จ บอกมงกุฎนี้ขอยกให้เป็นของขวัญวันเกิดแม่พรุ่งนี้ เผยไม่คิดเทียบ “อิงฟ้า” แค่อยากช่วยแบ่งเบางานได้บ้าง ด้านมิสแกรนด์อินเตอร์ฯ สมหวังหลังสู้ประกวดมาตั้งแต่อายุ 13 เวทีนี้จะเป็นเวทีสุดท้าย

เป็นค่ำคืนที่ทำให้แฟนๆ ได้เฮ แม้ “กชเบล ศรัณย์รัชต์ เผือกพิพัฒน์” จะไม่สามารถคว้ามงฯ มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2025 มาครอง แต่เธอกลายเป็นตำนานนางสู้ ใกล้มงทองที่สุดอีกคนหนึ่งของวงการประกวดนางงามเวทีนี้ โดยคว้าตำแหน่งรองอันดับ 1 มาครองด้วยความสามารถ และความพยายาม ทุ่มเทแรงกายแรงใจเอาชนะคำบูลลี่ ทำแฟนๆ ต่างยอมรับในตัวเธอ

ภายหลังเสร็จสิ้นประกวด กชเบลถึงขั้นกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เผยว่าภูมิใจในตัวเองมากที่สู้ฟันฝ่ามาถึงวันนี้ได้ ดีใจที่วันนี้ทำให้แฟนนางงามกลับมาดูการประกวดได้อย่างสนุกสนานอีกครั้ง ดีใจที่ชนะความกลัวของตัวเองด้วยการใช้ภาษาอังกฤษในการตอบคำถาม

หนูภูมิใจมากๆ ค่ะ (ร้องไห้) การได้ตำแหน่งและมงกุฎมันมีความหมายกับหนูมาก แต่การได้ใจคนไทยทั้งประเทศมีความหมายกับหนูมากกว่า ขอบคุณมากๆ กลับมาเปิดใจดูมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนลอีกครั้ง และทำให้แฟนนางงามมีความสุข สนุกกับการเชียร์นางงามอีกครั้ง

ขอบคุณมากๆ จริงๆ ค่ะ รู้สึกดีใจมากๆ จริงๆ กับมงกุฎที่อยู่บนหัวตอนนี้ ทำสำเร็จแล้วเพื่อคนไทย จากที่ไม่ได้คาดหวังเลยว่าเราจะมีโอกาสเข้า top20 ด้วยความที่เราสู้แบบหลังชนฝา สู้แบบไม่คิดชีวิต แล้วก็ไม่ได้กลัวว่าเราจะผิดหวัง เพราะเราทำเต็มที่เพื่อตัวเองและคนไทยทุกคน วันนี้การเดินทางของหนูกับการประกวดมิสแกรนด์ฯ มันสิ้นสุด ณ วันนี้ แต่พรุ่งนี้คือการเริ่มต้นใหม่

ขอบคุณคนไทยที่สนับสนุนและเชื่อมั่นในตัวหนูขอบคุณสำหรับแรงเชียร์และเสียงกรี๊ด อยากส่งต่อความพยายามและความเชื่อแบบนี้ให้กับทุกคน เป็นพลังให้ทุกคนได้สู้ต่อ ใครที่ท้อ ใครที่หมดความหวัง หรือโดนดูถูกมามากมาย อยากให้ดูหนูเป็นตัวอย่างเล็กๆ ก็ได้ค่ะว่าสุดท้ายแล้วการเวลาและความพยายามของเรามันจะพิสูจน์ให้เห็นเองค่ะ

ตอนที่จับมือหนูตกใจมาก ตอนยืนอยู่บนเวที 5 คนหนูคิดว่าใครก็ได้แล้วตอนนี้ คือมันเกินฝันแล้ว ไม่คิดว่าจะมีสติในการตอบคำถามและกล้าที่จะเลือกเชื่อใจตัวเองในการตอบภาษาอังกฤษ เพราะแฟนนางงามก็เป็นห่วงว่าจะตอบได้ไหม และเสียงส่วนใหญ่อยากให้ตอบภาษาไทย แต่เรารู้ว่าเราอยากผ่านกำแพงตรงนี้ไปให้ได้ เพราะว่าหลายคนมองว่าการที่เราไม่กล้าพูดและไม่เก่งภาษาอังกฤษ มันเป็นเหมือนหนามในใจหนู

แล้วพอเราได้พิสูจน์มันเหมือนเราประสบความสำเร็จแล้วค่ะ ก็ตัดสินใจว่าไม่ใช้ล่ามค่ะ เพราะมีวันนึงที่หนูไลฟ์สดกับบอสณวัฒน์ แล้วก็แกล้งๆ ลองถามเขาว่าถ้าตอบเป็นภาษาไทยจะมีผลกับมงฯ ไหมคะ บอสก็บอกว่าใช้ล่ามเลย แต่ถ้าตอบอังกฤษก็ตอบแบบที่พูดอยู่นี่แหละ ก็ตอบได้นี่ คือบอสณวัฒน์ก็มีชมว่าทำไมเวลาอยู่กับเพื่อน เราพูดอังกฤษปร๋อเลย หนูก็เลยรู้สึกว่าถ้าเราอยากจะไปให้สูงที่สุด เราก็ต้องเอาชนะใจตัวเอง ชนะใจคนไทยให้ได้ค่ะ อีกอย่างเบลเชื่อว่าคนไทยหลายๆ คนที่กลัวการพูดภาษาอังกฤษ วันนี้เขาได้เห็นแล้วว่าถ้าเราชนะความกลัวได้ ก็ไม่มีอะไรที่เราต้องกลัวอีกแล้วค่ะ”

ไม่ได้หวังมาเป็นที่หนึ่ง แต่ต้องการมาสร้างตำนาน
“ที่ยากที่สุดของหนูคือการได้ใจคนทั้งประเทศค่ะ คือตั้งแต่ตื่นมาก็น้ำตารื้นแทบจะทั้งวัน เพราะเราอยากให้คนไทยทั้งประเทศภูมิใจที่ตัวแทนคนไทยได้ใส่สายสะพายมาได้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ และภูมิใจในตัวเองค่ะ อยากขอบคุณตัวเองเยอะๆ ที่เชื่อมั่นในความพยายาม และเชื่อว่าวันนึงกาลเวลาจะพิสูจน์ในผลของความพยายามที่เราตั้งใจทำมาทั้งหมด และวันนี้เบลก็อยากขอบคุณคนไทยทั้งประเทศจริงๆ นะคะที่เชื่อมั่นในตัวเบลเยอะมากๆ ขอบคุณชาวแฟนนางงามทุกคนเลยที่ทำรีแคปกชเบล ขอบคุณจริงๆ ค่ะ จริงๆ แล้วที่สุดของหนูคือการสร้างตำนาน สุดท้ายแล้วเราจะเป็นที่หนึ่งหรือไม่ วันนี้หนูเป็นที่หนึ่งในใจทุกคนแล้วค่ะ

แต่ระหว่างทางถามว่าท้อบ้างไหม กล้าสาบานเลยว่าไม่มีค่ะ มีวันเดียวที่ท้อคือก่อนเข้ากอง หนูกลัวเหนื่อย (หัวเราะ) เพราะตอนประกวดแกรนด์ไทยแลนด์ยอมรับเลยว่าเหนื่อยมาก แต่ก็สู้มาก มันมีทั้งความอดทนที่ต้องใช้สูงมากๆ แต่อย่างแกรนด์อินเตอร์ฯ เรากลัวว่าจะเอาเอเนอร์จี้จากไหนมาเสิร์ฟเพื่อนๆ แต่พอเข้ามาแล้วผิดคาด คือทุกคนแฮปปี้กับสิ่งที่เราเป็นอยู่แล้วจากธรรมชาติที่เราเป็น เพื่อนกลับมองว่าเอเนอร์จี้เยอะมาก แต่มันคือปกติของเรา”

ตั้งใจเอามงกุฎนี้เป็นของขวัญวันเกิดให้คุณแม่ในวันพรุ่งนี้
“ตอนที่ได้เจอบอส (ณวัฒน์ อิสรไกรศีล) บนเวที คือบอสมองหน้าหนูก่อนเลย คือเราดีใจมากๆ เราดีใจมากๆ ที่เอ็มม่าเพื่อนเราได้ บอสขึ้นมาแล้วก็มองหน้าถามว่าโอเคไหม ภูมิใจไหม พอเนอะ เดี๋ยวหนักเกินไป ทำงานในประเทศนี่แหละ (หัวเราะ) ฟังแล้วก็รู้สึกใจชื้น รู้สึกว่าบอสน่ารักจังเลย ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งไหนเบลเชื่อว่าบอสมองไว้ขาดอยู่แล้วค่ะ ยังไงเราก็เหมาะสม แต่ก็พูดตรงๆ ว่าตอนแรกแทบไม่ได้คาดหวัง แต่วินาทีที่จับมือก็แอบมีคิดค่ะ คิดว่าจริงไหม 12 ปีที่รอคอย ปีนี้มันจะเป็นมงฯ แรกของไทย และเรากำลังจะสร้างตำนานประวัติศาสตร์ให้กับประเทศไทยกับมงกุฏมงแรก ไม่อยากให้มงกุฎเราออกนอกประเทศ แต่สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ออกมาว่าเป็นฟิลิปปินส์เราก็รู้สึกดีใจและภูมิใจมากๆ แต่มงฯ 1 ก็อยู่นี่ค่ะ เดี๋ยวถ้าคนมงฯ ปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ เดี๋ยวกชเบลไปแทน (หัวเราะ) แต่เชื่อว่าทุกอย่างชะตาฟ้าลิขิตไว้แล้วค่ะ เบลมองว่าเอ็มม่าก็ไม่มีอะไรที่ค้านสายตา ผลงานต่างๆ ที่ผ่านมาเบลเชื่อว่าก็เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเอ็มม่าเหมาะสมมากๆ

ก็คิดว่าจะเอามงฯ นี้ให้เป็นของขวัญวันเกิดคุณแม่ คิดไว้แล้วว่าวันไฟนอลคือก่อนวันเกิดคุณแม่เลย ก็อยากได้มงกุฎสักหนึ่งอันไปให้แม่ค่ะ แล้ววันนี้ก็ได้ จริงๆ แล้วแม่ก็เป็นที่สุดสำหรับหนูในทุกๆ เรื่อง วันนี้ก็ดีใจมากที่แม่มาเชียร์ แต่พรุ่งนี้วันเกิดแม่ เราอาจจะไม่ได้ไปเจอแม่ เพราะต้องทำงาน ก็เลยอยากจะให้มงกุฎนี้เป็นของขวัญให้แม่ค่ะ

กชเบลหลังจากนี้จะเป็นคนที่ดัง ปัง เปรี้ยงค่ะ (หัวเราะ) งานคู่เอ็มม่าเบล ก็รอให้ผู้ใหญ่เสิร์ฟแล้วกันนะคะ ก็ขอบคุณมากๆ ค่ะที่เห็นถึงความน่ารักของเอ็มม่าเบล เราก็เป็นพาร์ตเนอร์ ทำงานด้วยกัน ก็รอดูว่าจะมีผลงานอะไรต่อๆ ไปในอนาคต ขอบคุณแฟนคลับชาวฟิลิปปินส์ด้วยนะคะที่น่ารักและซัปพอร์ตคนไทย และรักกชเบลเหมือนกัน ขอบคุณที่เอ็นดู มันก็เหมือนมีภาพของพาร์ตเนอร์ฟิลิปปินส์กับไทยแลนด์ก็ยังคงแน่นแฟ้นและรักกันไปเรื่อยๆ”

ไม่กล้าเทียบตัวเองกับ “อิงฟ้า วราหะ” แค่ขอได้แบ่งเบางานมาบ้างก็พอ
ที่เบลเคยบอกว่าอยากจะเป็นพี่อิงฟ้า 2 ให้ได้ ก็ไม่กล้าเทียบว่าตัวเองจะเป็นได้เหมือนพี่อิงฟ้า แต่รู้สึกว่าพี่ฟ้าคือคนเดียวที่พาสายสะพายไทยแลนด์ไปได้ไกลที่สุด เราก็เลยรู้สึกว่าเราอยากจะเป็นเหมือนเขาบ้าง เราอยากจะทำให้ได้เหมือนพี่อิงฟ้า มันไม่ใช่แค่ความสำเร็จของเรา แต่คือความสำเร็จของคนไทยทั้งประเทศ

เราไม่รู้หรอกว่าเราจะดีเท่าพี่ฟ้าไหม จะเก่งเท่าพี่ฟ้าไหม ก็ดีในแบบของเรา เก่งในแบบของเรานี่แหละค่ะ เพื่อที่ว่าเราอยากจะเข้ามาทำงานในองค์กร แล้วก็ช่วยแบ่งเบางานจากพี่ฟ้า อันนี้พูดจากใจ เพราะบางงานพี่ฟ้ารับไม่ไหวแล้ว เราก็รู้สึกว่าแบ่งมาให้กชเบลบ้างก็ได้ (หัวเราะ) ก็จะได้ช่วยบอสหาเงินค่ะ”

เตรียมตัวไปรำแก้บนถวายพระแม่ลักษมี และไปที่ฮ่องกง
“ก็มีบนไว้ค่ะ ที่ตำหนักหมื่นมนต์ตราค่ะ ของมี้เบล เป็นคุณครูส่วนตัวของหนู คือจังหวะนั้นมี้เปิดไพ่ให้หนู เพราะหนูขอเปิดไพ่ แล้วมี้ก็เปิดมาเป็นถ้วยทองกับถ้วยเงิน เราก็แอบช็อกตกใจว่าอะไรก็ได้แล้ว มีถ้วยขึ้นมาเราก็รู้สึกดีใจแล้ว มี้ก็เลยบอกว่าเดินไปหาพระแม่ลักษมี แล้วก็ขอสักรอบนึงที่ชุดคล้ายพระแม่ลักษมี เพราะว่าท่านกระซิบมา ก็เลยเกิดเป็นรอบชุดพรีลิมฯ ด้วยค่ะ เราได้เรฟเฟอร์เรนซ์มาจากพระแม่ และพระแม่บอกว่าถ้าได้มงฯ อย่าลืมมารำแก้บนด้วย (หัวเราะ) ก็ต้องขออนุญาตหาวันที่จะไปแก้บน อีกที่นึงก็คือที่ฮ่องกง ยังไม่ได้แก้เลย ตอนที่บนว่าขอให้ได้เป็นมิสแกรนด์ไทยแลนด์ค่ะ เมื่อเช้าก็มีไปไหว้พระพรหมหน้าตึกบราโว่นี่แหละค่ะ แล้วก็ไหว้เจ้าที่เจ้าทางค่ะ”

ขอชื่นชมตัวเองว่าเก่งมาก ที่พยายามมาถึงจุดนี้ได้
“ก็อยากจะบอกตัวเองว่าเก่งมาก ผู้หญิงอะไรทำไมเก่งขนาดนี้ จากที่คนไทยแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เชียร์บ้าง ไม่เชียร์บ้าง หมดหวังบ้าง เตี้ยบ้าง ดำบ้าง ไม่สวยบ้าง หน้าแข็ง หน้าเฟก จมูกเป็นแท่ง ทุกอย่างเอเวอรี่ติง จิงเกอเบล แต่กชเบลไม่เคยโกรธเลย วันนี้ต้องยืนปรบมือให้กชเบลนะ ที่โลกสวยและมองว่าอันนี้แหละดี พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงด้วยการพิสูจน์ตัวเองด้วยการกระทำให้เขาเห็น ขอบคุณจริงๆ ที่กล้าแสดงออกในทางที่ถูกต้อง เป็นเด็กที่น่ารัก มีกาลเทศะ และเป็นคนดีมาก หนูเก่งมากกชเบล (ปรบมือให้ตัวเอง) ภูมิใจในตัวหนูมาก (ทำท่ากอดลูบหัวตัวเอง) เด็กคนนี้เติบโตมาอย่างดีเลย”

ด้าน “เอ็มม่า แมรี่ ทิกเลา” (EMMA MARY TIGLAO) มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2025 ชาวฟิลิปปินส์ก็เผยว่า
“ยังรู้สึกช็อกอยู่ค่ะ เกินฝัน วันนี้ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ แต่ก็ขอขอบคุณแรงซัปพอร์ตชาวฟิลิปปินส์ เพราะเป็นการกลับมาในรอบ 6 ปี เพราะเคยประกวดมาก่อนหน้านี้แล้ว และครั้งนี้ก็สามารถสร้างประวัติศาสตร์ให้กับฟิลิปปินส์ได้ ก็ต้องขอโทษคนไทยด้วยตอนที่พูดภาษาไทยอาจจะไม่ถูกต้องบ้างนะคะ การประกวดทุกครั้งก็เหมือนการเริ่มต้นใหม่ในเรื่องของการประกวด แต่ที่สำคัญคือเราอย่ายอมแพ้ในความหวังของเราที่เราตั้งใจเอาไว้ แล้วคุณก็จะประสบความสำเร็จถ้าไม่ยอมแพ้ แต่ครั้งนี้ก็คงเป็นเวทีสุดท้ายแล้ว เพราะฉันก็อายุ 30 แล้ว หลังจากนี้ฉันก็จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องขององค์กร กับสิ่งที่องค์กรต้องการนำเสนอไปสู่ผู้คนให้มากที่สุด และจะเป็นกระบอกเสียงเรื่องของสันติภาพให้ไปทั่วทุกมุมโลกค่ะ

ฉันแฮปปี้มากสำหรับความรักที่แฟนๆ ชาวไทยมอบให้ ตั้งแต่วันแรกจนมาถึงวันนี้ก็มีแฟนๆ คนไทยเอาของมาให้มากมาย ทั้งอาหาร ทั้งของต่างๆ ฉันรู้สึกขอบคุณมากๆ ที่มอบความรักให้ฉัน ส่วนที่ฉันหน้าคล้ายอิงฟ้า (ยิ้มเขิน) ก็ถ้ามีโอกาสฉันก็อยากจะถ่ายรูปคู่กันค่ะ และถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากจะมีความสามารถเหมือนอิงฟ้าด้วย

ตอนที่จับมือกับกชเบลฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก และบอกกับกชเบลว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะได้ตำแหน่งอะไรมันไม่สำคัญ เพราะฉันรักกชเบล และสิ่งที่ได้มากกว่าก็คือมิตรภาพความรักที่ส่งต่อซึ่งกันและกัน แต่เหมือนพระเจ้าลิขิตไว้แล้ว แต่ตอนนั้นฉันก็ไม่ได้คิดว่าจะชนะ 100% ฉันได้แต่สวดมนต์ และยอมรับในสิ่งที่พระเจ้าได้มอบให้ เพราะฉันเชื่อว่าน้องๆ ทุกคนที่อยู่ตรงนี้มาเป็นตัวแทนประเทศ ทุกคนเก่งมาก ทั้งฝึกหนัก ต้องเตรียมตัวอย่างมาก นอนน้อยด้วยเพื่อที่จะมาประกวดเวทีนี้ ฉันเชื่อว่าเป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานพรมาให้ค่ะ

ฉันก็อยากจะขอบคุณชาวฟิลิปปินส์ทุกๆ คนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้นะคะ ขอบคุณทีม ขอบคุณองค์กรของมิสแกรนด์ฟิลิปปินส์ที่ช่วยเหลือและซัปพอร์ตฉันมาจนถึงวันนี้ ขอบคุณครอบครัว และที่สำคัญขอบคุณเหล่าดีไซเนอร์ที่ทำชุดสวยๆ ให้ฉันในทุกๆ วันและทำให้ฉันประสบความสำเร็จในครั้งนี้ค่ะ และสุดท้ายฉันอยากจะขอบคุณองค์กร ขอบคุณป่ะป๊าณวัฒน์ ขอบคุณหม่ามี้เทเรซ่าที่เชื่อใจฉันในการมาทำงานสานต่อจาก ซีเจ โอเปียซา (CJ Opiaza นางงามชาวฟิลิปปินส์ที่ได้รับตำแหน่งมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2024) ได้ทำไว้เมื่อปีที่แล้วค่ะ ฉันก็จะเป็นนางงามฟิลิปปินส์อีกคนที่มาทำงานกับองค์กรมิสแกรนด์ต่อไปค่ะ”

ด้าน “ไอทาน่า แคโรไลนา ฮิเมเนซ” (AITANA CAROLINA JIMENEZ) รองอันดับ 2 มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2025 ชาวสเปน ก็เผยว่า
“ฉันก็ยังช็อกอยู่ค่ะ แต่ก็ดีใจกับตำแหน่งที่ได้มา ฉันรู้สึกตื่นเต้น มันเหมือนฝันไปเลย ก็ยินดีกับมงกุฎที่ได้มาค่ะ ตอนที่ประกาศชื่อฉันตกใจและดีใจมากที่ฉันก็มาถึงจุดนี้ได้ มาเป็นส่วนหนึ่งของเวทีมิสแกรนด์”

ฝั่งของ “เฟธ มาเรีย พอร์เตอร์” (Faith Maria Porter) รองอันดับ 3 มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2025 ชาวกาน่า เผยว่า
ฉันรู้สึกภูมิใจและมีความสุขมากค่ะ เพราะว่าฉันเป็นคนแรกของประเทศกาน่าเลยที่มาถึงจุดนี้ ฉันมีความสุขมากๆ สำหรับการซัปพอร์ต และสิ่งนี้มันไม่ใช่แค่ตัวฉันอย่างเดียว มันคือความสำเร็จของคนทั้งประเทศ ฉันก็จะส่งความสามารถของฉันให้ไปได้มากขึ้นในระดับโลก”

สุดท้ายกับสาว “นาริมาน บัตติคา” (NARIMAN BATTIKHA) รองอันดับ 4 มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2025 ชาวเวเนซุเอลา ก็เผยว่า
“ฉันรู้สึกมีความสุขมาก ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในตำแหน่งนี้ค่ะ สิ่งที่ประทับใจที่สุดในการมาประกวดครั้งนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างมันสวยงาม ทั้งในเรื่องของโปรดักชั่นของอีเวนต์ต่างๆ ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในโปรดักชั่นที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ค่ะ”











กำลังโหลดความคิดเห็น