ไดแอน คีตัน นักแสดงหญิงระดับตำนานของฮอลลีวูด เสียชีวิตแล้วในวัย 79 ปี ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ตัวแทนครอบครัวระบุว่าไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในขณะนี้ และขอความเป็นส่วนตัวในช่วงเวลาโศกเศร้านี้
คีตันแจ้งเกิดในยุค 1970 จากบทบาทในภาพยนตร์ตระกูล The Godfather และผลงานร่วมกับผู้กำกับ วู้ดดี้ อัลเลน เธอคว้ารางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจาก Annie Hall ในปี 1977 และมีผลงานโดดเด่นอีกมากมาย อาทิ The First Wives Club, Something’s Gotta Give และแฟรนไชส์ Book Club
คีตันเกิดในลอสแอนเจลิส ปี 1946 มีพี่น้อง 4 คน พ่อเป็นวิศวกรโยธา ส่วนแม่เป็นแม่บ้านซึ่งเธอเชื่อว่า “ลึก ๆ แล้วแม่คงอยากเป็นนักแสดง” เธอเล่าให้ People ฟังในปี 2004 ว่า “แม่ร้องเพลง เล่นเปียโน และสวยมาก เธอคือคนที่คอยผลักดันฉันเสมอ”
เธอเริ่มแสดงละครเวทีตั้งแต่มัธยม และหลังเรียนจบในปี 1964 ก็ตัดสินใจย้ายไปนิวยอร์กเพื่อเข้าสู่วงการละครเวที โดยใช้ “Keaton” ซึ่งเป็นนามสกุลเดิมของแม่เป็นชื่อในวงการ เพราะมีนักแสดงชื่อ Diane Hall อยู่แล้วในสมาคมนักแสดง
ในปี 1968 เธอได้รับบทสำรองในละครบรอดเวย์ Hair แต่ช่วงนั้นเธอต่อสู้กับโรคบูลีเมียหลังถูกผู้กำกับกดดันให้ลดน้ำหนัก “มันคือโรคทางจิตใจที่เกี่ยวกับความต้องการเกินพอดี ฉันกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการปกปิดมัน” เธอกล่าวในปี 2017 แม้ท้ายที่สุดจะรักษาได้ด้วยการทำจิตบำบัด แต่เธอยอมรับว่าโรคนี้ทำให้ช่วงเวลาบนบรอดเวย์ไม่สนุกอย่างที่ควร
บทบาทแจ้งเกิดครั้งใหญ่ของคีตันมาถึงเมื่อ ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา เลือกเธอมารับบท “เคย์ อดัมส์” แฟนสาวของตัวละคร “ไมเคิล คอร์เลโอเน” (รับบทโดย อัล ปาชิโน) ใน The Godfather (1972) โดยเธอยอมรับภายหลังว่าไม่ได้อ่านต้นฉบับนิยายก่อนเข้ารับบทด้วยซ้ำ ภาพยนตร์เรื่องนี้คว้าออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และเธอกลับมารับบทเดิมอีกครั้งในภาคต่อปี 1974 และ 1990
คีตันยังร่วมงานกับวู้ดดี้ อัลเลนอย่างต่อเนื่อง ทั้ง Play It Again, Sam (1972), Sleeper (1973) และ Love and Death (1975) กระทั่ง Annie Hall ในปี 1977 ซึ่งเธอรับบทนำและคว้าออสการ์ โดยสไตล์การแต่งตัวในเรื่องกลายเป็นภาพจำและส่งอิทธิพลต่อแฟชั่นยุคนั้นอย่างมาก
ตลอดทศวรรษ 1970–1980 เธอมีผลงานเด่นอีกหลายเรื่อง เช่น Looking for Mr. Goodbar (1977), Reds (1981), Shoot the Moon (1982) และ The Little Drummer Girl (1984) จากนั้นร่วมงานกับผู้กำกับแนนซี เมเยอร์ส ใน Baby Boom (1987) ก่อนกลายเป็น “แม่เจ้าสาว” ที่คนทั่วโลกจดจำใน Father of the Bride (1991) และภาคต่อปี 1995
ในปี 2003 เธอสร้างความประทับใจอีกครั้งใน Something’s Gotta Give จนได้เข้าชิงออสการ์อีกครั้ง และในปี 1996 เธอร่วมแสดงกับ โกลดี ฮอว์น และ เบ็ตต์ มิดเลอร์ ใน The First Wives Club ภาพยนตร์คอมเมดี้ที่กลายเป็นขวัญใจคนดู
คีตันยังมีผลงานโดดเด่นอีกมากในยุคหลัง เช่น The Family Stone, Because I Said So, Finding Dory, Book Club และภาคต่อ, Poms รวมถึงการแสดงนำในมินิซีรีส์ The Young Pope (2016) และการกำกับภาพยนตร์สารคดี Heaven (1987) กับภาพยนตร์ Hanging Up (2000)
เธอไม่เคยแต่งงาน และเคยให้สัมภาษณ์กับ People ว่า “ฉันเป็นนักแสดงรุ่นเดียวที่ยังเป็นโสดมาตลอดชีวิต และฉันดีใจที่ไม่แต่งงาน ฉันเป็นคนแปลก ๆ และไม่อยากเป็น ‘ภรรยา’ ตั้งแต่เด็กแล้ว” เธอยังยอมรับว่าถูกดึงดูดโดย “พรสวรรค์” ของคนที่เธอคบหา ทั้งอัลเลน ปาชิโน และวอร์เรน บีตตี
คีตันมีลูกสองคนที่รับมาเลี้ยงคือ เด็กซ์เตอร์ (รับมาในปี 1996) และ ดยุค (ในปี 2001) “ความเป็นแม่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้านทานไม่ไหว แต่มันคือความคิดที่อยู่ในใจมานาน และฉันก็ตัดสินใจก้าวเข้าไป” เธอกล่าวในปี 2008
ในช่วงบั้นปลายชีวิต เธอยังคงโลดแล่นทั้งในจอและโลกออนไลน์ โดยเฉพาะในปี 2021 ที่เธอร่วมแสดงในมิวสิกวิดีโอ “Ghost” ของจัสติน บีเบอร์ และโพสต์เรื่องราวชีวิตและมิตรภาพบนอินสตาแกรมอย่างสม่ำเสมอ
“ฉันไม่รู้อะไรเลย และไม่ได้ฉลาดขึ้นเลยแม้จะแก่ขึ้น” เธอกล่าวกับ People ในปี 2019 “หากไม่มีการแสดง ฉันคงเป็นแค่คนนอกสังคม”
ไดแอน คีตัน ทิ้งผลงานระดับตำนานไว้ให้คนรักหนังทั่วโลก และจะเป็นที่จดจำตลอดไป เธอจากไปโดยมีลูกทั้งสองคนอยู่เคียงข้าง
