xs
xsm
sm
md
lg

ทีมไก่เถื่อน! “เม พรีมายา” จวกแหลก “ยาย่า-หมอต่อ” ทองแท้กี่โมง! ผิดหวังดิสเครดิต (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ไก่เถื่อน ปะทะ ทองแท้! “เม พรีมายา” แถลงโต้ “ยาย่า-หมอต่อ” ทองแท้กี่โมง ผิดหวังใช้เรื่องสารอันตรายมาดิสเครดิต ทั้งที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง ลั่น! เอาความจริงมาสู้ ปลอดภัยมากกว่าไปสู้ในศาล ร้อนใจจนจะระเบิด อยากหาทางลง แต่ทุกอย่างดูซับซ้อน-ซ่อนเงื่อน ลั่นจะขายหุ้นทำไม เป็นธุรกิจเดียวที่เหลืออยู่ อยากจบแบบมีศักดิ์ศรี แฟร์ และยุติธรรม

กลายเป็นมหากาพย์ สำหรับกรณี “เม พรีมายา” เปิดศึกแฉหุ้นส่วน Dermatige Aesthetice ธุรกิจคลินิกความงาม ซึ่งรีแบรนด์มาจาก PRIMAYA คลินิก ฮุบบริษัท ถูกกีดกันการเข้าถึงข้อมูลของบริษัท สุดทนเรียกตร.มาจับ มีการฟ้องร้องกันไปมาสองฝ่าย ด้าน “ยาย่า-หมอต่อ” คู่กรณีเม ก็ออกมาโต้ผ่านรายการโหนกระแส เรียกว่าหนังคนละม้วน อีกทั้งหลังจบรายการ ยาย่า-หมอต่อ ได้แถลงต่อสื่อมวลชนอีกรอบ ประกาศพร้อมสู้ในศาล

หลังจบการแถลงของคู่กรณี “เม พรีมายา” ก็ตั้งโต๊ะแถลงสวนทันที โดยครั้งนี้มาพร้อม แซค สามี , ไอซ์ อาภาภัทร ชูสุวรรณ์ น้องสาว เม พรีมายา ซึ่งมีชื่อเป็นหุ้นส่วนคลินิกแทนเม พรีมายา และ พินิจ ลักษณวิศิษฎ์ ทนายความ โดยรอบนี้จัดหนัก ทองแท้กี่โมง!!

เม : “รู้สึกว่าในโหนกระแส มีแค่ประเด็นเดียวจากฝั่งเขา คือเราไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้ ขายหุ้นไปแล้ว และน้องกลับเข้ามา ซื้อหุ้นกลับเข้าไป เป็นเรื่องราวใหม่ โลกใบใหม่ที่เมต้องกลับไปทำการบ้านเหมือนกันว่าไทม์ไลน์หรือบริษัทต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชาร์ตนั้นเรื่องจริงมันเป็นยังไง เพราะในข้อเท็จจริงที่ปรากฏอยู่ ในโซเชียลมีเดียที่เราเคยทำงานร่วมกัน หรือลูกค้าหรือสิ่งที่เคยสร้างขึ้น ไม่ได้เป็นแบบนั้น ฉะนั้นส่วนเขาที่ชี้แจงมาเป็นแผนผังเยอะๆ งงๆ ส่วนนี้เมไม่รู้ว่าเพราะอะไร ส่วนตัวเมก็รู้สึกว่าถ้าวันนี้เมเป็นประชาชนหรือสังคมที่รอข้อเท็จจริงอยู่ วันนี้เมคงสับสนไม่น้อย คงตั้งคำถามมากมายว่าใครให้ความจริงหรือข้อเท็จจริงเป็นยังไง ก็เหมือนสังคมแหละค่ะว่าอะไรวะเนี่ย

เมว่าถ้าเมนั่งอยู่ตรงนั้น เมสามารถเปิดไทม์ไลน์หลักฐานให้เขารู้ได้ตลอดเวลา มันอาจทำให้เขาเสียสมาธิ หรือทนายหรืออะไรต่างๆ ไม่สามารถทำเส้นเรื่องที่เขาจะสื่อสารได้ เขาอยากบอกประชาชนในเส้นเรื่องแบบนั้น โดยไม่มีเมอยู่ตรงนั้นเพราะเมเชื่อว่าถ้าเมนั่งอยู่ตรงนั้น เมสามารถเปิดรูปอะไร ไลน์ปลอมแชตปลอมเหรอ รับสายสิ ใช่จริงหรือเปล่า ถ้าเมพิสูจน์ตรงนั้น มันอาจทำให้สิ่งที่เขาเล่าดูไม่เป็นจริงได้ ฉะนั้นวันนี้เขาต้องการให้เป็นแบบนั้นแหละ”

แซค : “ที่เขาบอกว่าเมไม่ได้มีหุ้นส่วนอยู่ในบริษัท Dermatige จริงๆ เดอร์มาเวย์ไม่ได้อยู่ เราอยู่ Dermatige ตั้งแต่ต้น ที่เราฝากหุ้นไว้คือ Dermatige ครับ ที่เรากลับมาก็ Dermatige ครับ แต่อันนั้นเขามาตั้งใหม่ตอนเรากลับไปถือหุ้น”

เม : “เมไม่รู้ว่าที่เขาชี้แจงมาเป็นแผนผัง มันคืออะไร เมไม่เข้าใจเหมือนกัน เมว่าสังคม ลูกค้า หรือประชาชนก็สามารถหาข้อมูลได้ในโซเชียล มันไม่ได้เป็นแบบนั้น ตรงนั้นเมไม่ขอไปแก้ไขหรือแตะอะไรในเรื่องราวของเขา แต่สิ่งที่เมจะเปิดคือเราเปิดบริษัทพริมยาคลินิกขึ้นมา พอได้ 3 สาขา ก็เปิดพริมยาไพรม์ ที่มีพี่ใบเตยและพี่แมน เป็นศัลยกรรม เข้ามาเกี่ยวด้วย สองบริษัทนี้มาทีหลังเป็นคนละบริษัท คนละหุ้นส่วนกัน ตัวพริมยาคลินิก ช่วงนั้นเราต้องการรีแบรนด์ดิ้ง เพราะตัวเมมีดรามา บริษัทเดิมนะ สถานที่ตั้งคือบ้านเม สำนักงานใหญ่ก็คือบ้านเม เปลี่ยนชื่อเป็น DMT เมดิเคิล เรื่องจริงมีแค่นี้ ไม่ได้ซับซ้อนเข้าใจยากอะไรเลยค่ะ”

แซค : “ไทม์ไลน์จริงๆ คือตามนี้ บริษัทจัดตั้งเดือนก.พ. ปี 64 เดือน 9 ปี 64 มีการแบ่งหุ้นให้หมอกลางเท่ากัน ตอนแรกถือคนละ 30 หมอกลางคือ 10 ปลายปีก็แบ่งให้เป็นคนละ 25 เท่ากัน 4 คน เราขยายสาขาเรื่อยๆ มีสาขาเลียบด่วน ก็ย้ายสำนักงานวันที่ 21 เดือน 4 ปี 65 แต่ตอนที่จดทะเบียนจัดตั้งก็อยู่บ้านเม แต่พอมีสำนักงานใหญ่ ที่เหมาะกว่า ก็ย้ายพนักงาน ตอนเมฝากหุ้นไว้ วันที่ 15 เดือน 2 ปี 66 มีการประชุมผู้ถือหุ้น เซ็นซื้อขายให้เป็นไปตามที่มันต้องเป็น”

เม : “ประเด็นนี้เขาบอกว่าเราได้รับเงิน 3 แสนกว่าบาท เงินสด ความจริงเราไม่ได้รับเงิน และไม่มีการซื้อขายหุ้น ตอนนั้นเมมีธุรกิจหลักๆ คือพรีมายาและคลินิก ซึ่งตอนนั้นเมได้รับผลกระทบจากธุรกิจอาหารเสริม มันเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าเมจะขายหุ้นบริษัทนี้ด้วย แล้วอะไรจะมาหล่อเลี้ยงเมและชีวิตครอบครัว ซึ่งตอนนั้นบริษัทมีรายได้และกำไรมาโดยตลอด ในความจริงไม่เมกเซ้นส์เลย ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่เมจะขายหุ้นได้เงิน 3 แสนกว่าบาท เมถามจริงๆ ว่าบริษัทรายได้แบ่งเงินกันขนาดนี้ มันไม่มีเหตุผลที่เมจะรับเงิน 3 แสนแล้วในเวลานั้นเมไม่มีธุรกิจอื่นเลย เมมีแต่คลินิก ประเด็นนี้เมก็ไม่รู้จะชี้แจงยังไง แต่เราฝากหุ้นไว้ เราไม่ได้ซื้อขายหุ้น 3 แสน ไม่ได้เป็นข้อเท็จจริง เมก็มีหลักฐานเยอะแยะมากมาย”

พินิจ : “ตั้งแต่วันเซ็นโอนหุ้นจนถึงปัจจุบันเราก็ยังอยู่ในกลุ่ม ยังคุยงาน แบ่งผลกำไร แบ่งเงินมาตลอด แต่เริ่มมีปัญหากันตอนที่เราขอกลับเข้าไปถือหุ้น ขอกลับเข้าไปมีชื่อในบริษัท มันก็เริ่มมีปัญหา หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้แบ่งแล้ว”

เม : “จริงๆ กลุ่มสำคัญทุกกลุ่มของบริษัท ตัวเราก็รับรู้และเกี่ยวข้องมาโดยตลอด ไม่ว่าจะในฐานะผู้ถือหุ้น หรือร่วมตัดสินใจ ตอนนั้นเราก็บทบาทค่อนข้างเยอะมากๆ พอสมควร แต่เมมีไฟล์ลับ ไฟล์ผู้บริหารอีก ที่หากวันนี้เมได้สเตทเมนต์บริษัทมา

ถ้าเมเป็นคนอื่นที่ขายหุ้นไปแล้วเมจะเข้าถึงข้อมูลบริษัทที่ลึกขนาดนี้ได้ยังไง เขาจะให้คนนอกไปอยู่ตรงนั้นได้ยังไง ถ้าข้อมูลนี้สังคมตั้งคำถามว่าทำมาเองหรือเปล่าคะ งั้นก็เอาเลขต่างๆ ชนได้เลย เพราะมันคือข้อมูลข้อเท็จจริงทั้งหมด เป็นหลักฐานที่เมจะสู้ทางคดี แต่มันลึกมาก เป็นข้อมูลสรุปทางบัญชี ซึ่งยอดต่างๆ เมไม่สามารถเมกขึ้นได้แน่นอน เพราะต้องชนกับสเตทเมนต์บริษัท ถูกมั้ยคะ ฉะนั้นหลักฐานที่มันลึกไปกว่ากลุ่มบริหาร กลุ่มการเงิน กลุ่มบัญชี กลุ่มมาร์เก็ตติ้งต่างๆ ที่เมอยู่ 5-10 กลุ่ม มันมีลึกกว่านั้น ถ้าเราขายหุ้นไปจริงๆ คนนอกอย่างเมย์ ซึ่งไม่เกี่ยวข้อง จะเข้าไปอยู่ตรงนั้นได้ยังไง

เรื่องฝากหุ้น ขายหุ้น เมตอบแบบมึนๆ แบบชาวบ้าน วันนี้เขาก็ต้องออกมารูปแบบนี้แหละค่ะ เขาต้องสู้ให้มันล้อไปกับสิ่งที่เขาจะเอาตัวรอดจากข้อกล่าวหา จากสิ่งที่เราจะตั้งฟ้องเขาในอนาคต มันก็ต้องล้อไปกับการที่เขาต่อสู้ทางกฎหมาย วันนี้เขาจะไม่ชี้แจงประเด็นอื่นๆ เลย เขาต้องทำให้เมไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้เขาถึงจะไม่ถูกเมดำเนินคดีทางกฎหมายในสิ่งที่เมพยายามจะเอาผิดเขา ฉะนั้นตัวเมเอง เรื่องทั้งหมดที่พี่ๆ งงกัน หนูก็งงไม่ต่างจากสังคม ว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ เหรอ คุณลองเอา 3 คนนี้มาสัมภาษณ์แยกสิ เขาตอบไม่ได้ เมเชื่อแบบนั้น และเมก็กล้าท้า หมอกลางออกมาเล่าเลยค่ะ

เรื่องหลักฐานยืนยันว่าเราไม่ได้ขายหุ้น อย่างที่บอก เมอยู่ในทุกๆ การประชุมสำคัญทุกๆ การดำเนินงานที่สำคัญ ถึงแม้ว่าวันนี้เขาตราหน้าเมว่าคุณไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรใดๆ เลย งั้นเดี๋ยวเราเปิดให้ดู เมอยู่ลึกไปถึงบัญชี ตัวข้อมูลบริษัทที่สามารถชนสเตทเมนต์ได้ ถ้าหากเมเป็นคนอื่น”

แซค : “เราเปิดไปเยอะแล้ว เช่นแชตกลับไปถือหุ้น มีเงื่อนไขต่างๆ เข้ามา ซึ่งก็บอกได้แล้วว่าเราคือผู้ถือหุ้น แล้วเขาก็ให้เรากลับไปถือหุ้น เพียงแต่มีเงื่อนไข ผมจะเปิดแชตตั้งแต่ 15 ก.พ. ที่เราไปประชุมบริษัท และเซ็น 15 ก.พ. 2023 มี.ค. เรามีการคุยกันตลอด มีบัญชีรายรับรายจ่าย ที่เขาอ้างว่าเป็นปลอม แต่เขาไม่ยืนยัน”

ยกมือไหว้ขอหน่วยงานรัฐช่วยเข้าพิสูจน์ แชตปลอมจริงหรือไม่
เม : “เขาไม่ยืนยันว่าแชตที่หนูโชว์ในโซเชียลมีเดียจริงมั้ย งั้นหนูยกมือไหว้และขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐนะคะ หลังจากนี้หนูขอพิสูจน์หน่อยว่าคนที่หนูคุยมาตลอด 4-5 ปี เป็นมิจฉาชีพหรือตัวจริง ถ้าวันนี้หนูนั่งอยู่ตรงนั้นกับเขาด้วย หนูจะกดทุกอย่างให้เห็นเลย แต่ว่าเขาไม่อนุญาตให้หนูนั่งอยู่ตรงนั้น ก็ไม่รู้เหมือนกันทำไมเขาตอบแบบนี้ มันเป็นคำตอบที่ควรตอบให้สังคมฟังจริงๆ เหรอ ในเมื่อวันนี้เราต้องการข้อเท็จจริง เมไม่มีอะไรหรอกค่ะ เมไม่ใช่กรรมการผู้มีอำนาจ เมไม่ใช่คนไปบริหารอยู่ ณ ตรงนั้น สิ่งเดียวที่เมมี ณ วันนี้คือข้อเท็จจริงเรื่องจริง ที่เมไม่สามารถกลับไปแก้ไขอดีตได้เลย เมสามารถสร้างไลน์สร้างแชตปลอมได้จริงๆ เหรอคะ เมทำไม่ได้ เมก็แคปออกมา กดโทร.ให้ได้นะ แต่เขาไม่รับอยู่แล้ว”

แซค : “ข้อความล่าสุดที่พิมพ์ไปคือ 6 ก.ย.2024 ซึ่งวันนั้นเรามีปัญหากันแล้ว เพราะวันที่เราโดนเด้งออกจากทุกกลุ่มน่าจะเป็น 5 ก.ย. เราเลยพิมพ์ไปว่าขอสเตทเมนต์บัญชีบริษัทได้ที่ไหนคะ แต่ก่อนหน้านี้คุยกัน เป็นการประชุมกลุ่ม ที่เขาบอกว่าผมพูดจาหยาบคาย ผมก็พูดด่าเขาไป เพราะก่อนวันนั้นวันนึง มีการประชุม จะทำข้อตกลงกัน ว่าอ้าว ถ้าคุณไม่ให้สาขาใหม่เรา คุณจะแบ่งยังไง คุณจะใช้แบรนด์ ใช้ไลน์เดิมเหรอ ถ้าจะใช้ไลน์เดิมต้องมีข้อตกลงนะจะใช้พนักงานชุดเดิมเหรอ เครื่องเดิมเหรอ ซึ่งเป็นของบริษัท DMT ทั้งหมดอยู่แล้ว แต่วันนั้นการประชุม เราก็โดนดูถูกเหยียดหยาม โดนพูดไม่ให้เกียรติกันในฐานะหุ้นส่วน”

เม : “และเพื่อนคนนึง”

แซค : “ผมให้เกียรติเขามาตลอด แล้วก็รู้สึกว่ามันไม่ให้เกียรติกันแล้ว ก็เลยยอมรับว่าฟิวส์ขาด เลยด่าเขาไป แล้วพอมันจบ เราก็โดนเด้งออกจากทุกกลุ่ม ก่อนหน้านั้นคุยกันปกติทุกกลุ่มนะครับ คุยงาน คุยอะไรที่เป็นข้อมูล”

เม : “เรารับรู้มาโดยตลอด แต่เขาบอกว่าเมไม่ได้เกี่ยวข้อง ไม่ได้ร่วมอะไรเลย”

แซค : “นี่คือแชตการแบ่งเงิน วันที่ 5 มิ.ย. หลักฐานคือ 5 เดือน 6 ปี 67 เราได้รับก้อนสุดท้าย เพราะหลังจากนั้นเรากลับไปถือหุ้นเดือนส.ค. ก็ไม่มีการแบ่งกันแล้ว แต่ก้อนนี้ก็ยังไม่ได้นะ แต่เรารู้ยอดเพราะมีการสรุปกันอยู่แล้ว”

ลั่นแก้ปัญหามรสุมชีวิต เอาตัวเองออกมาก่อน ไม่คิดว่าจะเจอการทรยศ หักหลัง คิดไม่ถึงจะกล้าแถลงในสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นจริง
เม : “ตอนนั้นเมไม่ได้มีที่ปรึกษาอะไร เมก็บ้านๆ ง่ายๆ ทำธุรกิจกับเพื่อน เมอยากเอาตัวเองมาแก้ปัญหามรสุมชีวิตก่อน ไม่ได้คิดว่าการฝากหุ้นครั้งนี้จะเจอปัญหา หรือการทรยศ หักหลังหรือปัญหา ณ วันนี้เหมือนเรา เราก็ฝากไว้ด้วยความไว้ใจ เราก็ไม่คิดว่าวันนี้คุณจะกล้าออกมานั่งแถลงการณ์แบบในสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเราไม่เคยคิดสิ่งนี้เหมือนกัน

วันนั้นเมไม่ได้มีใคร ไม่ได้มีที่ปรึกษาว่าต้องฝากไว้ ก็โอเค เขาบอกฝากไว้ก่อนมั้ย เราก็ฝาก แต่เธอจะฝากไว้ที่เราคนเดียว หรือ 3 คนเท่าๆ กัน เมมองว่าคนเดียวก็เสี่ยงไป งั้น 3 คนเฉลี่ยเท่าๆ กันเลยแล้วกันดีกว่า ก็เลยเป็นการฝากไว้ เดี๋ยวมึงเคลียร์เสร็จก็ค่อยกลับมาเอา ถ้ากูโกงมึง มึงมาตั้งไลฟ์แฉกูได้เลย อันนี้คุณหมอพูด คุยกันม่วนๆ เป็นลักษณะนี้ตลอด เลยไม่ได้ฝากหุ้นไว้ ต้องทำหนังสือ ร่างสัญญา ไม่ได้ทำตรงนั้นไว้ค่ะ

ส่วนที่เขามองว่าเราเต็มใจขายให้เขา อย่างที่แจ้งค่ะ หนูมีแค่สองธุรกิจที่ทำรายได้และหล่อเลี้ยงตัวเองและครอบครัว พรีมายาเจ๊ง เหลือธุรกิจคลินิกที่เป็นหลัก ถามจริงๆ ถ้าหนูขาย 3 แสนบาท วันนั้นหนูเรื่องวุ่นวายต้องไปศาล มันก็ไม่พอแล้ว มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่หนูต้องเอาตัวเองออกมาจากธุรกิจหลักของหนูในราคา 3 แสนบาท ซึ่งเงินก้อนนั้น ก็ไมได้รับค่ะ”

แซค : “ไม่มีอะไรยืนยันได้เลย ในเอกสารระบุว่าเงินสด แต่เราก็ไม่ได้รับ เพราะมันไม่ใช่การซื้อขายหุ้น ยังยืนยันคำเดิมว่าเป็นการฝากหุ้น”

เม : “เราต้องทำเอกสารแบบนั้น ณ ตอนนั้น เวลาเราฝากหุ้นต้องเซ็นเอกสารตัวนี้อยู่แล้ว พี่ๆ ถามว่าแล้วหนูมีหลักฐานอะไร ก็เงินปันผลต่างๆ ที่เกิดขึ้น ถ้าขายขาดหนูก็จะไม่มีสิทธิ์กลับเข้าไปเหมือนเดิมนะ ทำไมวันนี้เขาบอกคุณไอซ์ซื้อหุ้น เรื่องใหม่กับหนูมาก อเมซิ่งมากๆ ว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้นได้ยังไง ก็อย่างที่หมอต่อพูดมา ว่าขอไปพิสูจน์ก่อนว่าแชตนั้นจริงหรือเปล่า ที่คุณหมอกลางส่งมา เพราะคุณหมอต่อเป็นคนรีเควสให้น้องเป็นคนเข้าไป”

ไอซ์ยันไม่ได้ซื้อหุ้น แต่รับหุ้นต่อจากคลินิก เมมั่นใจแต่งเรื่อง ย้ำเรื่องนี้ไม่ซับซ้อน แค่แย่งผลประโยชน์ ชี้สิ่งที่คู่กรณีตอบสังคม แค่เอาตัวรอดทางกฎหมาย
ไอซ์ : “DMT แต่ไม่ได้ซื้อหุ้น เป็นการรับหุ้นต่อจากคลินิก ให้เอาหลักฐานมาได้เลยค่ะว่าไอซ์ซื้อหุ้น”

เม : “เขาก็พยายามแต่งเรื่องขึ้นมาว่ามีสองบริษัท คุณไอซ์ต้องเลือก คุณไอซ์มองเห็นโอกาสบริษัท DMT ไม่เห็นโอกาสของบริษัทเดอร์มาเวย์ ตรงนี้ก็เป็นเรื่องราวที่เราเพิ่งได้รับมา เพราะก่อนหน้านี้มันไม่เคยเกิดขึ้น เราไม่เคยเกิดการต้องมานั่งตัดสินใจว่าเลือกบริษัทไหนดีในการกลับเข้าไป เพราะมันไม่เคยเกิดเรื่องนี้อยู่ในชีวิต แต่เธอไม่ได้ขาย SLC แล้วใช่มั้ย งั้นฉันกลับไปถือหุ้นแล้วนะ เพราะเคลียร์ตัวเองหมดแล้ว

สุดท้ายเขาบอกว่าขอเป็นชื่อของน้องแล้วกัน โดยให้มา 2 เงื่อนไข เรื่องไม่ได้ซับซ้อนเลย พี่ถามว่าทำไมทุกอย่างดำเนินมาเป็นแบบนี้ หนูมองว่าเรื่องนี้ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลยจริงๆ มันเป็นเรื่องผลประโยชน์ ที่วันนึงมันเติบโตขึ้น ปกติก็อยู่กันได้ในก้อนเค้กเล็กๆ แบ่งกันได้อย่างลงตัวมาโดยตลอด พอธุรกิจเติบโตจากหลักสิ 100 ล้านเป็น 100 ล้าน ปีนึง 400 -500 ล้านนี่มันมหาศาลนะคะ ในการทำธุรกิจมันก็คือธุรกิจที่แย่งผลประโยชน์กันเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรซับซ้อนในการตีความ มันก็คือเรื่องเงินแค่นั้น”

ไอซ์ : “หุ้นส่วนที่เหลือเขารับทราบว่าคุณไอซ์ซื้อมาเพราะถือครองแทนพี่เม เพราะมีออปชั่นที่เป็นไอซ์เอง ที่เขาบอกว่าให้มีคนมารับหุ้นต่อพี่เม ซึ่งก็คือไอซ์”

เม : “จริงๆ แล้วน้องไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลย หุ้นส่วน 3-4 ท่านรู้จักน้องอยู่แล้ว น้องไม่ได้ร่วมตัดสินใจอะไรเลย เพราะเขาเป็นคนของเม เขาแค่บอกว่าขอเป็นชื่อน้องไอซ์นะ เมก็แค่ยกหูหาน้องว่าเดี๋ยวฉันจะกลับเข้าไปถือหุ้นแล้ว ทุกอย่างจะเป็นชื่อเธอนะ มันก็แค่นี้ค่ะ

สตอรี่ตรงนี้ที่เขาออกมาเล่า ซึ่งเมก็ไม่รู้จะไปแก้ไขหรืออธิบายอะไรจริงๆ เพราะไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่เมจะเล่าได้ เพราะมันไม่ได้เป็นแบบนั้น ความเป็นจริงมันไม่ได้ซับซ้อนเลย คือเมออกจากหุ้น เมฝากหุ้นไว้ วันที่เมกลับเข้าไปถือ เมได้สองออปชั่น คือที่หมอพิมพ์มา แล้วขอเป็นชื่อน้องนะ เรื่องมีเท่านี้เลย ชื่อเขาก็เป็นคนพิมพ์มาด้วย”

พินิจ : “ตอนนั้นมีปัญหาในเรื่องน้องเม ในเรื่องส่วนตัว ทางนั้นเลยบอกว่าทำยังไงก็แล้วแต่ ไม่ให้บริษัทมีชื่อคุณเมไปเกี่ยวข้อง เขาบอกให้คุณเมออก คุณเมไม่ได้ตั้งใจออก วิธีการคือทำให้สังคมได้รับทราบว่าคุณเมได้ออกจากหุ้นจริง ก็ทำเป็นสัญญาซื้อขาย ทำว่าคุณเมได้ลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัท นั่นคือสิ่งที่เขาให้คุณเมทำ ในส่วนน้องไอซ์มาถือหุ้นในช่วงคุณเมได้มาทวงหุ้นคืน คุณเมให้หุ้นคืน จริงๆ ไม่มีการขอซื้อ ไม่มีการจ่ายเงิน น้องไอซ์ คุณเม ไม่ได้จัดเตรียมว่าคุณหมอต้องทำหลักฐานว่าขายหุ้นแต่ละส่วนกลับมาให้ได้ 25 เปอร์เซ็นต์ในนามของน้องไอซ์ ทางนี้ก็เชื่อใจโดยไม่มีปัญหา ก็เลยใส่ชื่อเป็นน้องไอซ์เป็นผู้ถือหุ้นแทนเลย”

เม : “มันง่ายๆ ไม่ได้ซับซ้อนเหมือนในรายการ เราแค่หนูจะกลับเข้าไปถือหุ้นแล้วนะ มาประชุมกัน แต่ขอ 2 ออปชั่น เป็นชื่อน้องไอซ์นะ เรื่องราวมีแค่นี้เลยจริงๆ สำหรับหนู มองว่าที่เขาต้องชี้แจงแบบเมื่อเช้า มันคือการเอาตัวรอดทางกฎหมาย หรือมีช่องโหว่ทางกฎหมายหรือเปล่า เพราะความจริงไม่ได้เป็นมุมอย่างนั้น ทำไมเขาต้องสร้างเรื่องออกมาแบบนั้น เพราะอะไรคะ”

พินิจ : “หลังจากที่น้องไอซ์เข้ามาถือหุ้นแทน มันก็มีส่วนที่เขาทำไม่ถูกต้องอยู่หลายส่วน เขาเลยต้องพยายามทำเรื่องเป็นลักษณะซื้อขายหุ้น เท่ากับคุณเมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทำไมมายุ่งเกี่ยวกับบริษัท เขาต้องการตัดปัญหาในภายหลัง อย่างเขาตั้งบริษัทเดอร์มาเวย์ ตั้งมาเพื่ออะไร ตั้งมาเพื่อทำธุรกิจอย่างเดียวกับ Dermatige ตั้งมาแล้วผลเป็นยังไง เพราะจริงๆ แล้วในทางกฎหมายเขาห้ามไม่ให้กรรมการบริษัทค้าแข่ง การที่เขาตั้งบริษัทใหม่เดอร์มาเวย์ กรรมการเป็นคนเดิม แต่ขาดน้องเมไป เขาไปทำกิจการประเภทเดียวกัน ตัวเองได้ผลประโยชน์ พยายามทำยังไงก็แล้วแต่ให้เมไม่อยู่ในธุรกิจของเขาที่ตั้งขึ้นมาใหม่ เขาเลยอ้างว่าเขาซื้อขายหุ้นเบ็ดเสร็จเด็ดขาด จะทำอะไรก็ได้ แต่เขาติดล็อกของข้อกฎหมายว่าห้ามทำการค้าแข่ง

ส่วนที่เขายืนยันว่าไม่ได้ค้าแข่ง กิจการประเภทเดียวกัน ไม่ทำการค้าแข่งได้ยังไง ต้องดูว่ากิจการเดียวกันมั้ย หมอชุดเดียวกันมั้ย ลูกค้า ฐานลูกค้าอย่างเดียวกันมั้ย ถ้าไม่ค้าแข่ง ทำไมคุณต้องไปแจ้งลูกค้าเก่า Dermatige บอกว่าฉันไปเปิดกิจการใหม่ในนาม เดอร์มาเวย์ คุณสามารถใช้บริการในบริษัทใหม่ได้ แล้วแจ้งเอาลูกค้าบริษัท Dermatige ไป ตรงนี้ไม่ใช่ค้าแข่งเหรอ นอกจากค้าแข่ง ยังแย่งลูกค้าบริษัทเก่าไปซะด้วยซ้ำ นั่นคือเหตุผลที่เขาบอกว่าปิดบริษัท ชำระบัญชี เขาอ้างว่าธุรกิจไปไม่ได้ ไม่มีผลกำไร ถามว่าเดือนนึง 40-50 ล้านกำไรมั้ย กำไร แล้วต้องการปิดบริษัทเพื่อให้บริษัทใหม่เติบโตให้บริษัทเก่าตาย แค่นั้นเอง นั่นคือสิ่งที่เขาทำ”

เม : “เขาไปเปิดอีกหนึ่งคลินิก เพราะคลินิกแรกขาดทุนเขาน่าจะหมายถึงตัวพริมยา ชื่อเสียตอนนั้นเป็นการรีแบรนด์ แต่เป็นบริษัทเดิม ทุกคนก็ห่วงธุรกิจเนอะ วันนี้มีผลกระทบจากตัวแบรนด์เดิม ก็รีแบรนด์ดิ้ง มันก็เลยเปลี่ยนเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ สำนักงานเพิ่งมาเปลี่ยนทีหลัง ตามข้อเท็จจริงมีเพียงเท่านี้ ไม่รู้ว่ามันซับซ้อนตรงไหนให้เขาต้องชี้แจงตรงนั้น เขาอาจต้องออกมาท่านั้นแหละ เพื่อให้หลุดจากข้อกล่าวหาของเรา เขาบอกทุกอย่างอยากให้จบในศาล ทำไมมาคุยตรงนี้ ฉันจะดำเนินการทุกอย่างตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว”

ร้อนใจจนจะระเบิด อยากหาทางลง แต่ทุกอย่างดูซับซ้อนและมีเงื่อนงำ ยันไม่ใช่เอฟซีไก่เถื่อนกลั่นแกล้ง ลั่นขอพูดหยาบๆ กูอยู่ของกูทุกวัน ทำไมต้องกังวลและกลัวกับการต้องเจอคนแบบนี้
เม : “แต่เราได้รับหมายจากเขานี่แหละค่ะ ศาลให้ไกล่เกลี่ยตั้งแต่ ม.ค.ถึง ก.ย. หนูเสียเวลามากนะ หนูร้อนรนใจจนจะระเบิดอยู่แล้ว ที่ต้องพยายามไกล่เกลี่ยกับคนแบบนี้ แต่ในเมื่ออยู่ในช่วงไกล่เกลี่ย เหมือนจะมีทางลง หนูเลยไม่ได้ทำอะไร แต่เราเห็นท่าทางการชี้แจงทุกอย่างในวันนี้ มันดูซับซ้อน มีเงื่อนงำ ดูใต้โต๊ะทุกอย่างสำหรับมุมมองของเม สิ่งเดียวที่เมมีวันนี้

มันไม่ใช่เมกลั่นแกล้งใครนะ ไม่ใช่เมมีเอฟซีลูก เอฟซีไก่เถื่อน มันไม่ใช่ นี่คือสิ่งที่ฉันจะเรียกร้องความยุติธรรมได้ มันคือสิ่งเดียวที่ฉันมีเว้ยไม่งั้นฉันไปรอศาลเมื่อไหร่จะเสร็จก็ไม่รู้ ฉันเจอคนแบบนี้ พูดหยาบๆ นะ กูถูกของกูอยู่ทุกวัน แต่ทำไมกูกังวลและกลัวจังเลยกับการที่ต้องเจอคนแบบนี้ จริงๆ รู้สึกหวาดระแวงมาก ที่เจอกระบวนการทำแบบนี้ จึงต้องออกมาโปรเทคและรักษาสิทธิ์ตัวเอง ในการที่ออกมาโพสต์เรียกร้องความยุติธรรมต่างๆ ถ้าฉันจะโจมตีคุณ ฉันโจมตีคุณไปนานแล้ว แต่ฉันอยากจะจบ ตอนที่เราเริ่มมีความรุนแรง คือวันที่เขาพาตร.มาจับเราข้อหาบุกรุก วันนั้นยอมรับว่าไม่เคารพแล้ว ไม่ใช่แล้ว

ถ้าสู้อย่างตรงไปตรงมาชัดเจนตามหลักฐานตามจริง เมไม่กลัวหรอก แพ้ก็แพ้ ชนะก็ชนะ เมมีศักดิ์ศรี แต่สิ่งที่เหมือนทำให้เมมีอารมณ์ เหมือนเมสู้อยู่กับคนที่มีอุดมการณ์แปลกๆ หรือมีอุดมการณ์ไม่โปร่งใสหรือเปล่า เมรู้สึกกลัวพวกคุณมากๆ เมไม่รู้เลยถ้าเมรอกฎหมายหรือรอศาลเป็นยังไง แต่วันนี้สิ่งที่เมทำได้แบบนี้ เมรู้สึกปลอดภัยกว่า การเอาความจริงมาสู้เมรู้สึกปลอดภัยมากกว่าไปสู้พวกคุณในศาล เมบอกเลยเมอยู่กับพวกคุณ เมกลัวมากจริงๆ

ส่วนเรื่องแชต หนูจะให้สังคมมาด่าทำไม ฉันไม่เกี่ยวข้องกับ Dermatige เลย วันนี้ฉันจะออกมาสร้างเรื่องสร้างราวทำไม หนึ่งเนอะ ถ้าเป็นแชตปลอมจริงๆ สังคมฟังแล้วคิดยังไง พี่ๆ ฟังแล้วรู้สึกยังไง เมโทร.มั้ย แต่เขาไม่รับอยู่แล้ว มันมีความจริงทุกอย่าง หนูต้องไปหน่วยงานไหนถึงจะพิสูจน์ได้ว่าคนที่คุยคือคนจริงๆ ไม่ใช่มิจฉาชีพ ไม่ใช่แชตปลอม หนูต้องไปหน่วยงานไหน หนูปรึกษาหน่อย”

ฟาดกลับหัวไลน์ Dermatige ไม่เคยคุยงานผ่านหัวไลน์พริมยา ลั่นให้พิสูจน์ไหม?
เม : “โห งั้นไปพิสูจน์มั้ยล่ะคะ ทุกอย่างกลุ่มไม่เคยเปลี่ยนชื่อ เป็นพริมยาคลินิกมาโดยตลอด แต่มันเป็นกลุ่มเพื่อน กลุ่มทำงาน กลุ่มพวกเราที่ไม่มีคนอื่น แล้วก็มีกลุ่ม DMT ที่เป็นกลุ่มผู้บริหาร คนร่วมบริหารด้วย เป็นหัว DMT แต่อันนี้เป็นกลุ่มที่แบ่งเงินกันนะ ไม่ต้องทางการมาก กลุ่มพริมยา 7 คน ยังอยู่ครบ กลุ่มยังมีอยู่จริงค่ะ หนูอยู่ทุกกลุ่ม”

พินิจ : “สมมติว่าวันนี้อีกฝ่ายเขามีความเคลือบแคลงใจว่าแชตนี้จริงหรือไม่ ทำให้เกิดความเสียหาย เขาสามารถแจ้งความดำเนินคดีกับคุณเมได้เยอะมาก เป็นคดีอาญาแผ่นดินด้วยแล้วยอมความไม่ได้ ถ้าหากว่าเขามั่นใจว่าเอกสารตัวนี้ ที่ทางนี้แคปจากไลน์มาทำให้เกิดความเสียหาย ให้เขาดำเนินคดีได้เลยแล้วมาพิสูจน์กัน ทางคุณเมเขายินดีอยู่แล้ว แต่ถามว่าทำไมคุณถึงจะมาป้องกันว่าแชตปลอมๆ แชตไม่รองรับ จะรองรับได้ไง เรายังไม่กล่าวอ้างในส่วนไหน เราแค่ชี้แจงข้อเท็จจริงในช่วงที่คุณเมออกรายการแค่นั้นเอง”

ยกเป็นบทเรียนเพื่อนเหมือนละคร หน้ามือเป็นหลังมือ เหมือนเกิดคนละโลก ไม่รู้ปลายทางจะหยุดตรงไหน
เม : “มันเหมือนบทเรียนมากกว่า เคยเห็นแต่ในละครมั้ยคะเรื่องราวแบบนี้ แต่ในชีวิตจริง การทำงานกับเพื่อนหรือคนไว้ใจ มันก็ประมาณนึง ยิ่งเพื่อนฝากไว้ก่อนเดี๋ยวแก้ปัญหาก่อน ซึ่งมันปกติมากๆ เลยนะ กับการฝากหุ้นไว้ วันนั้นเราไม่เคยคิดเลยว่าวันที่เราตัดสินใจไปวันนั้นจะก่อให้เกิดอะไรในวันนี้ ซึ่งวันนี้มันซับซ้อนมากสำหรับเม ปลายทางเมไม่ทราบเลยว่าจะไปหยุดที่ตรงไหน

แต่เป็นบทเรียนให้เมรู้ว่าชีวิตจริงยิ่งกว่าละครอีก เมฟังเขาแถลงสด โห ทำได้ไง มีเรื่องนี้อยู่ในชีวิตจริงด้วยเหรอ คิดว่ามีอยู่ในละคร มันก็ทำให้เราได้เรียนรู้ เราได้บทเรียนมาไม่น้อย แต่เรื่องนี้คือบทเรียนทางธุรกิจ กับคำว่าเพื่อนที่เราได้เห็นว่าคนๆ นึงสามารถทำแบบนี้ได้เหมือนกัน มันก็หน้ามือหลังมือหลายๆ อย่าง ทำให้การต่อสู้เรื่องตรงนี้คงไม่ได้ง่ายแล้วล่ะ เหมือนกูเกิดกับมึงคนละโลก คนละเวลา คนละไทม์ไลน์กันเลย ในมุมของเมนะ มันเป็นอย่างนั้น”

เตรียมปล่อยคลิปที่หมอต่ออนุญาตให้ปล่อยได้
เม : “ประเด็นที่เขาบอกโอนจอง 999 บริษัทนึง แต่พอโอนจ่ายเต็มเข้าบริษัทนึง อยู่ที่ว่าทำสาขาไหน จริงๆ เรากลับเข้าไปถือหุ้นแล้ว สาขาใหม่ปิ่นเกล้าที่เขาสวมใบอนุญาตจะเกิดขึ้นอยู่แล้ว แล้วจะจัดการกันยังไง จะโอนเงินต่างๆ นานา วันนั้นเรายังหาข้อสรุปอยู่เลย แชตหนูเอาออกมาเยอะมาก แต่จะคัดไปเล็กๆ ที่หมอต่อบอกว่าให้ปล่อยคลิปได้ เขาอนุญาตแล้ว ตรงนั้นมีการหารือกันมาก่อนว่าจะจัดการยังไง

ฝั่งนั้นก็รู้ดีว่าไม่สามารถทำได้ มีการคุยกันบนโต๊ะว่าลูกค้า 8 หมื่นกว่าคน ถ้าพี่บอกไปสาขาใหม่ แล้วสาขาเก่าเขาก็เสียผลประโยชน์สิตรงนี้ต้องหาผู้รู้มาช่วยดูหน่อยนะ ไม่งั้นคุยกันเองปากเปล่า วันนึงก็ต้องทะเลาะกัน นั่นคือจุดประสงค์ที่เราเปิดห้องอาหารคุยกันปากเปล่า ในเดือนก.ย. แต่วันนี้เขามาชี้แจง สำหรับหนู เขาเป็นกรรมการผู้มีอำนาจ เขาสามารถเซ็นอนุญาตได้อยู่แล้ว

แต่ต้องไปดูไทม์ไลน์ว่าเรื่องนั้นเกิดขึ้นวันไหน เพราะหนูไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลบริษัทได้หนึ่งปี วันนี้ที่เขาออกมาชี้แจงหลายๆ เรื่อง ตัวเขาเป็นกรรมการผู้มีอำนาจ เขาสามารถดำเนินการหลายๆ อย่าง ฉันสามารถอนุญาตให้เดอร์มาเวย์ใช้โลโก้ ฉันอนุญาตให้บริษัทนี้ใช้อันนั้นอันนี้ เขาเซ็นได้หมดอยู่แล้ว แต่ก่อนวันที่จะเกิดเหตุแบบนี้ พอเราโกรธขึ้นมา เราเอาจริง คุณเลยต้องมาทำอะไรแบบนี้ไง

สิ่งที่เขาอธิบาย หนูก็ยังไม่เข้าใจเขา อย่างที่ทนายบอกว่ามีหลายอย่างที่เขาทำไป ณ วันนี้ก็ต้องออกมารูปแบบนี้แหละค่ะ แต่ว่าในข้อเท็จจริงที่จะตอบได้ เมต้องไปหาข้อมูลอีกที เมก็เพิ่งรู้พร้อมๆ กับสังคมเหมือนกัน ทนายมองว่าไงเรื่องนี้”

พินิจ : “จริงๆ คนละนิติบุคคล รายได้บริษัทต้องแยกออกจากกัน ผลประโยชน์ก็คนละบริษัท ต่อให้เป็นพันธมิตร หรือบริษัทในเครือ มีข้อตกลงร่วมกันก็ทำไม่ได้นะครับ เพราะผู้ถือหุ้นคนละชุด ผลประโยชน์อีกบริษัทได้ อีกบริษัทเสีย แล้วเขาบอกว่าน้องไอซ์ ในฐานะผู้ถือหุ้นปัจจุบัน สามารถตรวจสอบเอกสารทางการเงินได้ ตรวจสอบงบดุลการเงิน ตรวจสอบเอกสารบริษัทได้อยู่แล้ว เราใช้วิธีการติดต่อไม่เป็นทางการ ตั้งแต่ประชุมกันที่ร้านอาหาร แต่เขาไม่ให้ความร่วมมือ จนทำหนังสือเป็นทางการ ไปอีก 2-3 ฉบับ เขาก็ไม่ให้เข้าตรวจสอบ จนมีคดีกัน พอต่อมา เขาก็ไปแถลงกับศาล ว่าคุณจะมาตรวจสอบเมื่อไหร่ก็ได้ เดี๋ยวเตรียมเอกสารให้เรา จนปัจจุบันปีกว่าแล้ว เราไม่มีเอกสารจากเขาสักหนึ่งฉบับ”

ไอซ์ : “ไม่เคยได้ตรวจสอบอะไรค่ะ”

พินิจ : “เขาบอกเขาเตรียมมาให้ คุณก็ใช้สิทธิ์ตามกฎหมายสิ น้องไอซ์ใช้สิทธิ์ทุกวิถีทางแล้วแต่ก็ไม่ได้”

ไอซ์ : “ทุกครั้งที่ไอซ์ติดต่อผ่านไลน์ ไม่เคยได้รับการตอบกลับเลยค่ะ”

เม : “ทุกอย่างคนละม้วนหมดเลย แต่เดอร์มาเวย์ที่เข้ามาทีหลัง ใช้เครื่องหมายการค้า ฐานลูกค้าเรา ช่องทางการขายเราหมดทุกช่องทาง แม้แต่เงินลงทุนก็เป็นของบริษัทเรา ถ้าเมขายไปแล้วจริงๆ แต่เมกลับมาแล้วไง”

พินิจ : “น้องไอซ์มาถือหุ้นแทน 25 เปอร์เซ็นต์ เขาจะไปทำตามอำเภอใจไม่ได้นะ

เม : “คุณเอาเงินลงทุนบริษัท ก. ไปลงทุนบริษัท ข. แล้วกรรมการไม่มีน้องไอซ์ ถือหุ้นอยู่ มันทำไม่ได้นะ”

พินิจ : “ต่อให้การขออนุญาตเรื่องการใช้เครื่องหมายการค้าก็ดี การอ้างเป็นพันธมิตรก็ดี การอ้างช่องทางในการติดต่อหรือประชาสัมพันธ์ลูกค้าก็ดี ก็ต้องมาแจ้งน้องไอซ์เหมือนกัน น้องไอซ์เป็นผู้ถือหุ้น คุณทำอะไรต้องมาขออนุญาต ชี้แจง ต้องได้มติจากที่ประชุมว่าน้องไอซ์ในฐานะผู้ถือหุ้นจะว่ายังไง แต่น้องไอซ์ไม่เคยได้รับแจ้งในเรื่องดังกล่าวเลย เท่ากับเขาทำโดยพลการ ยึดอำนาจ ทำนองว่าตัวเองทำอะไรทุกอย่างได้ ซึ่งมันไม่ใช่

มันต้องคำนึงถึงผู้ถือหุ้นด้วย เพราะผู้ถือหุ้นมีส่วนได้เสีย คุณต้องแจ้งเขา ข้อดี ข้อเสีย เขาต้องได้รับรู้ แต่นี่ไม่มีการแจ้งให้น้องไอซ์ทราบเลย คุณคิดว่ากรรมการที่ทำงานแบบนี้ถูกต้องมั้ย ขนาดผมถือหุ้นกสิกร 1 หุ้น เขามีไม่รู้กี่สิบล้าน ร้อยล้านหุ้น เวลาเขาจะประชุมใหญ่ เขาแจ้งผมทุกครั้ง น้องไอซ์ถือตั้ง 25 เปอร์เซ็นต์ ทำไมคุณไม่แจ้งเขาคุณจะทำอะไรทำไมไม่แจ้งเขา จะทำโดยพลการได้เหรอ จริงๆ ทำไม่ได้อยู่แล้ว กฎหมายไม่ได้ยินยอมให้กรรมการทำอะไรก็ได้”

เม : “เรื่องโลโก้ที่เขาส่งมาให้ดู หนูไม่ได้คิดว่าจะได้เป็นส่วนนึงมั้ยเพราะตรงนั้นคือของหนู หนูไม่ได้เอะใจอะไรตรงนั้น เพราะการทำงาน รีแบรนด์ คิดชื่ออันนี้ สีนี้ มันก็ปกติ ตอนนั้นหนูไม่มีทางต้องรู้สึกอะไร เพราะมันธรรมชาติไปเรื่อยๆ ชีวิตดำเนินไปเรื่อยๆ เดี๋ยวแบ่งเงิน กินไวน์บ้านกู มันปกติโดยเราไม่ได้ตั้งคำถามกับตัวเองเลย ว่าฉันมีส่วนร่วมมั้ย ไม่ได้มีอยู่ในสมองค่ะ”

แซค : “วันที่ 1 ก.พ. 2023 มีการจะรีแบรนด์ มีการแท็กเรา ผมขออนุญาต ผมเมมชื่อเมว่าเมียเป็นใหญ่ มันเลยขึ้นว่าเมียเป็นใหญ่ อันนี้เลยเป็นแบบนี้ ที่เขาส่งมา จะบอกว่าเขาทำเอง เป็นเจ้าของเอง มันไม่ใช่ มันคือของบริษัทที่เราทำมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตั้งแต่การคิดโน่นนี่นั่น”

เม : “ลูกค้าก็ลูกค้าเรา”

แซค : “จะบอกว่าเราก็อยู่ในกลุ่ม เราเป็นคนทำด้วย ตัดสินใจด้วย”

เม : “เหมือนคนทำงานอยู่แล้ว (เขาบอกให้เพื่อนดูเท่านั้น?) สังคมคิดว่ายังไงคะ ประเด็นนี้ ตัวหนูไม่มีคำตอบจริงๆ หนูงงตั้งแต่เริ่มต้นรายการจนจบรายการ มันคือเรื่องใหม่ที่หนูว่าเหมือนกัน หนูไม่มีคำตอบกับเรื่องนี้ ให้สังคมตอบแล้วกันค่ะ”

ลั่น 3 ชม.ในโหนกระแส ผิดหวังนำเรื่องสารอันตรายมาดิสเครดิตตน ทั้งที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง และไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นความสัมพันธ์ที่เสียดายที่สุดในชีวิต
เม : “เขาพยายามดิสเครดิตเมมาโดยตลอด”

แซค : “เรื่องสารอันตรายเหมือนดิสเครดิตกัน อันนั้นเป็นคดีความ อัยการสั่งไม่ฟ้อง ตร.ก็เห็นด้วย ไม่ได้เห็นแย้ง ซึ่งมันจบไปนานมากแล้ว มันจบไปนานก่อนที่จะมีดรามาใหญ่ ซึ่งไม่เกี่ยวกันเลย มันคนละไทม์ไลน์ คนละเวลากันเลย”

เม : “เรื่องนี้ทำให้เมผิดหวัง และรู้สึกว่าคู่กรณีเมก็ใช้ได้เหมือนกันนะที่นำเรื่องนี้มาดิสเครดิตเม เพราะปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาที่ก่อให้เกิดการที่เราไปฝากหุ้น มันอยู่คนละไทม์ไลน์ซะด้วยซ้ำ เจตนาคุณวันนี้ไม่รู้เพื่ออะไร สำหรับเมไม่โปร่งใสตั้งแต่คุณมานั่งอ้าปากพูดคำแรกแล้ว ฉะนั้นเมก็ขอชี้แจงกับประเด็นนี้ ด้วยความที่ตอนนั้นพรีมายาดังมากๆ ในตลาดลดน้ำหนัก เราดังมาก เราคือนัมเบอร์วันของตลาด ณ วันนั้น เขาเลยเข้ามาตรวจสอบของเรา”

แซค : “สุดท้ายแล้วคือรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว อัยการสั่งไม่ฟ้อง เรื่องไปไม่ถึงศาลด้วยนะครับ จบตั้งแต่ชั้นตร.แล้ว”

เม : “หมายความว่าเราไม่ได้เกี่ยวข้อง เราไม่ใช่คนผิด แล้ววันนี้คุณพูดยาวมากเลยในแถลงการณ์ ว่าคุณไปสู้ในศาล ศาลท่านเข้าข้างผู้บริสุทธิ์ กฎหมายยุติธรรมเสมอ ก็เหมือนกันค่ะวันนั้นกฎหมายก็พิสูจน์แล้วว่าเมบริสุทธิ์เหมือนกัน สิ่งที่คุณมาดิสเครดิตเรา พูดซ้ำๆ ในศาล พูดตลอดอยู่ ณ วันนี้ มันไม่ใช่ไทม์ไลน์ ไม่ใช่สาเหตุทำให้เกิดปัญหา เหมือนเพื่อนเล่นแง่ ชักกะเย่อกับเรา มาดิสเครดิตกัน เพราะการฝากหุ้นตอนนั้น ไทม์ไลน์จริงๆ คือตัว 3 เดือน 15 ล้าน พรบ.คอมพ์ฯ เรื่องสารนี่ไม่ได้เป็นข่าว ไม่มีใครรู้ แต่เขาหยิบเรื่องนี้มาเป็นประเด็นของวันนี้ ซึ่งตัวเมก็รู้สึกผิดหวัง ถามว่าคับแค้นใจมั้ย เมว่าความสัมพันธ์นี้เป็นความสัมพันธ์ที่เมรู้สึกเสียดายที่สุด ตั้งแต่เมมีชีวิตมาแล้วกัน”

ยันไม่ได้ทำเป็นขบวนการ น้องไม่รู้เรื่องตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
เม : “เรื่องนี้ ไอซ์ไม่ได้เกี่ยวข้องจะมาซื้อมาขายอะไร ไอซ์ไม่ได้เกี่ยวข้อง บริษัทที่เขาชี้แจงไม่มีอยู่ตอนนั้น ไม่รู้จะอธิบายยังไง น้องไม่ได้จะเข้ามาถือหุ้นไม่ได้เข้ามาเพราะบริษัทมีกำไร ฉันแค่ยกโทรศัพท์โทร.หาน้อง แล้วบอกว่าเธอเข้าไปถือหุ้นแทนฉันด้วยนะ ฉันจะกลับเข้าไปถือหุ้นบริษัทนี้แล้ว แค่นี้เอง เมไม่มีคำตอบให้กับเรื่องนี้ เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆ”

พินิจ : “อย่างเช่นน้องไอซ์ที่เขาอ้างว่าไปขอซื้อ น้องไอซ์ทำสัญญาแบบที่เขาบอกให้คุณเมทำสัญญาหรือเปล่า ของน้องเมเขาอยากให้สังคมรับทราบว่าขายแล้ว ไม่เกี่ยว ออกจากการเป็นกรรมการ แต่พอน้องไอซ์ เป็นกรรมการ ถือหุ้นก็ดี ไม่เห็นทางนี้มาบอกว่าเป็นกรรมการ ฉันตั้งใจขายหุ้น แล้วฉันจ่ายเงินเขาไม่เห็นต้องทำเป็นหลักฐานเลย เพราะเขารู้ดีว่าทางนี้ได้หุ้นคืน คนละประเด็นเลย ตัวเองเอาหลักฐานที่ตัวเองทำไว้ก่อนมาปิดปากทางนี้ ว่าถ้าฉันจะทำอะไรก็ได้ จะเอาคุณออกเมื่อไหร่ก็ได้ เอาออกจากกลุ่มที่รับรู้เรื่องรายได้เมื่อไหร่ก็ได้ เพราะทางนี้ไปรุกหนักว่าทำไมช่วงหลังเงินในบริษัทคุณถึงไม่แบ่งเหมือนที่เคยแบ่ง

ทางโน้นเห็นว่าทางนี้เริ่มทวงเงิน แต่เขาอาจนำเงินไปใช้ทำบริษัทใหม่ ไปทำสาขาใหม่ช่วงรอยต่อ เขาเลยเห็นว่าทางนี้มีปัญหา ก็เตะออกเลย ไม่ต้องรับรู้อะไร คุณขอเอกสารฉันก็ไม่ให้ น้องไอซ์ไปขอดูเอกสารเขาก็ไม่ให้ แบบนี้เขาโปร่งใสที่ไหน กรรมการบริษัทไหนก็แล้วแต่ต้องมีธรรมาภิบาล ต้องมีความโปร่งใสกับผู้ถือหุ้น ต้องมีการบริหารในธุรกิจให้เป็นที่ไว้วางใจต่อเพื่อนร่วมงาน ต่อผู้ถือหุ้นด้วย แต่นี่ไม่ใช่

ถามว่าตัวเองวางแผนกันหรือเปล่า พอผมทำหนังสือแจ้งว่าคุณไปดำเนินคดีกับเดอร์มาเวย์ ที่ใช้ชื่อก็ดี ทั้งพ้องชื่อ เครื่องหมายการค้าตรงกัน ทำไมไม่ดำเนินการ เขาบอกว่าเขาจะไปฟ้องตัวเองทำไม ซึ่งมันเป็นเรื่องแปลกอยู่แล้ว ไม่มีคนไหนดำเนินการอยู่แล้ว แต่เราจะดำเนินการ แต่คุณเอามาฟ้องร้องเรา พอเราถูกฟ้อง เราก็เข้าไปในกระบวนการชั้นศาล ปรากฏว่าคดีที่ศาลอาญา และคดีที่ศาลแขวงพระนครเหนือ มีแนวโน้มว่าจะตกลงกันได้ คิดว่าจะจบสวยๆ สุดท้ายเราชะล่าใจก็รอ แต่ศาลไม่สามารถทำการไกล่เกลี่ยได้ เพราะเขามองว่าที่คุณเมเรียกไป 100 ล้าน มันเยอะไป เขาบอกถ้า 50 ล้านคิดดูก่อน มีเอกสารอยู่แล้วตรงนี้”

เมรับเรียก 100 ล้าน แต่ตกลงกันไม่ลงตัว
เม : “ในศาลมีการบันทึกในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ว่าเมเรียก 100 ล้าน เขาบอกว่า 50 ล้านก็ไม่ได้เป็นเอกฉันท์ มีการเถียงกันบนโต๊ะ และมีบันทึกออกมาว่าไกล่เกลี่ยไม่ลงตัว อย่างที่เมโทร.เข้าโหนกระแส หากว่าเมไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ศาลท่านจะไกล่เกลี่ยทำไมว่าไปซื้อขายหุ้นกันให้เสร็จเถอะ เธอมาชี้แจงผังใหญ่มาก แต่ข้อเท็จจริงในศาล คือเราพยายามหาข้อตกลงว่าฉันจะออกไปค่าตัวเท่าไหร่ คุณจะซื้อหุ้นเท่าไหร่ ฉันเรียก 100 ล้าน เธอบอกสูงเกินไป ถ้าเมไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้การบันทึกกับศาล ณ วันนั้นเขาจะมาไกล่เกลี่ยให้เราทำไม 7-8 เดือน จะมีกระบวนการนี้ออกมาทำไม”

พินิจ : “ทั้งๆ ที่ตอนนั้นน้องเมถูกฟ้องเป็นจำเลยคดีอาญาพรบ.คอมพ์ฯ นะครับ ไม่เห็นต้องออกมาเวย์นี้เลยว่าจะเสนอซื้อเสนอขายถ้าเขาไม่เกี่ยว เพราะศาลถามต่อหน้าพวกเขาทุกคนอยู่แล้วว่าตกลงคุณยอมรับมั้ยว่าธุรกิจนี้เมมีส่วนเป็นเจ้าของ ทางนี้ถือหุ้นแทน เขายอมรับ แต่ทำไมมาแถลงข่าว มันคนละเรื่องกันหรือเปล่า ก็คนละเรื่องไง น้องเมก็ไม่รู้จะพูดยังไง ในเมื่อพูดคนละเรื่องกันแล้ว”

เม : “ในศาล ศาลก็ข้ามประเด็นไปเลย เขาบอกให้ไปไกล่เกลี่ยซื้อหุ้นกันไปเลย มัน 4-5 รอบเลยนะคะ”

แซค : “เขาฟ้องเมนะครับ ถ้าเมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร เขาจะมาไกล่เกลี่ยทำไม”

พินิจ : “ใช่ จริงๆ ต้องคุยกับน้องไอซ์ แต่นี่คุยกับเมโดยตรงคนเดียว”

เม : “ตอนเขาแถลงการณ์ สำหรับเม ไม่รู้ข้อเท็จจริงอยู่ตรงไหน มันสับสน วันนี้เมออกมาไม่ได้อยากให้สังคมสงสัยหรือเคลือบแคลงใจกับเม ไม่อยากให้ใครตั้งคำถาม เมมีแต่ความจริงใจและความบริสุทธิ์เท่านั้น สิ่งที่เขาทำเมื่อเช้า มันทำให้เมสับสนมากๆ รวมทั้งสังคมด้วย ในสิ่งที่เกิดขึ้น เมมี 2 ประเด็น ที่อยากพูด คือบุกรุกกับปิดบริษัท ตัวบุกรุก วันนั้นที่เราไป เราทำหนังสือไปแล้ว

ตัวทนายเขาส่งกลับมาหาทนายว่าไม่มีใบมอบอำนาจ เราก็เลยส่งใบมอบอำนาจไป หรือเราไปพร้อมใบมอบอำนาจ แปลว่าเขาไม่ได้ปฏิเสธอะไรมา เราส่งไป 23 พ.ย. เราไม่ได้เข้าใจว่าเขาปฏิเสธ เพราะเขาบอกว่าขาดหนังสือมอบอำนาจ เราก็ทำหนังสือมอบอำนาจเข้าไป ทุกคนรู้ว่าเราไปอย่างถูกต้อง ไม่ได้เป็นไปตามที่เขาแจ้งค่ะ เหตุการณ์จริงมีแค่นั้นเลย

ซึ่งรอบนั้นเป็นรอบที่สามนะที่เข้าไป จริงๆ ถ้าไม่มีอะไร ก็แค่มาบอกว่ายังไม่พร้อม ยังไม่เสร็จ จริงๆ เราเข้าถึงสเตทเมนต์ไม่ได้ เพราะเขาอาจจะกังวลว่าถ้าเมเข้าถึงสเตทเมนต์บริษัทได้ เมจะเข้าถึงหลักฐานไปฟ้องร้องอะไรเขาหรือเปล่า วันนี้เมไม่ได้ต้องการข้อมูลชำระบัญชีจากสำนักงานบัญชี เมต้องการสเตทเมนต์ โอเคนะคะ แค่นั้นเอง คุณจะจ่ายเรา 30 ล้าน 50 ล้านเราต้องการดูตรงนี้”

พินิจ : “คดีบุกรุก จริงๆ น้องไอซ์ไปด้วย เจ้าตัวเป็นผู้ถือหุ้น ทีมทนายรับมอบอำนาจไปอยู่แล้ว เขาไปได้ ยังไงก็ไม่เป็นการบุกรุกอยู่แล้ว แต่เวลาเขาดำเนินคดี เขาดำเนินคดีกับผม คุณเม คุณแซค อยู่ศาลแขวงพระนครเหนือ หาว่าเราว่าเขาอย่างโน้นอย่างนี้ ปรากฏว่าวันนี้ศาลก็พิพากษายกฟ้องไป แต่ส่วนคุณเม ที่บอกว่าพรบ.คอมพ์ฯ โดยปกติแล้วถ้าหลักฐานมีพยานบุคคล เอกสาร พยานวัตถุ ถ้าเกิดในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ ศาลจะประทับรับฟ้องว่าคดีมีมูลไว้ก่อน

แต่ถ้าเกิดฟังแล้วศาลเห็นว่าคดีไม่มีมูล ไม่มีเหตุผลต้องรับคดีไว้ ศาลจะพิพากษายกฟ้อง วันนี้ศาลพิพากษายกฟ้องนะครับ ส่วนพรบ.คอมพ์ฯ คุณเมต้องไปพิสูจน์ว่าคุณเมไปพูดว่าโปรเท่านั้นเท่านี้ มีรายได้ xx บาท มันว่ายังไง เขามีสิทธิ์พูดมั้ย ก็ในเมื่อคุณแถลงต่อศาลอยู่แล้วว่าเขามีส่วน เจรจาให้ตั้ง 4-5 ครั้ง น้องไอซ์เขาก็อยู่ เขามีสิทธิ์พูด ดังนั้นต้องไปพิสูจน์กันอีกครั้งในคดีอาญา ส่วนคดีศาลแขวงพระนครเหนือ เบื้องต้นศาลพิพากษายกฟ้องไป ฝ่ายโน้นต้องไปยื่นอุทธรณ์เพื่อให้ศาลประทับรับฟ้อง ก็ไม่กังวล เพราะตามกฎหมายเรามีสิทธิ์พูดชี้แจง เรามาเพราะอะไร

เรามีหนังสือ เรามีใบนัดนะ เราได้แจ้งทางนี้ประสานกับทนายแล้วด้วย ถ้าไม่อธิบายตร. วันนั้นเราสามคนจะถูกจับกุม รวมทีมทนายด้วย 11 คน ทุกคนจะถูกจับหมดเลย แล้วเราจะไม่ไปชี้แจงได้ยังไง ศาลบอกว่าการพูดแบบนี้ไม่ถือว่าเป็นการหมิ่นประมาท ใส่ร้ายเขาเพราะผมพูดกับตร. แต่บังเอิญฝ่ายเขาอ้างว่าแม่บ้านซึ่งอยู่นอกห้องประชุมแอบอัดเสียงพวกผม ซึ่งผมดำเนินคดีกับเขาได้นะ เพราะผมไม่ได้ยินยอม พวกเราไม่มีใครยินยอมให้เขาอัดเสียง การที่เขาเอาหลักฐานนี้มาใช้ในชั้นศาลแขวงพระนครเหนือ ศาลพิพากษายกฟ้อง ทางแม่บ้านทางนี้กำลังคิดว่าจะดำเนินคดีหรือไม่ หรือสงสารเขาไม่ดำเนินคดี ก็ต้องไปว่ากันอีกที

(เชื่อมั้ยว่าเป็นแม่บ้าน?) ผู้จัดการอัดเอง แต่พอจะถูกดำเนินคดี ก็บอกว่าบ้านอัดให้เขา พอถามแม่บ้านชื่ออะไร ชื่อเล่นอะไร ตอบไม่ได้ แม่บ้านมีตัวตนหรือเปล่าก็ไม่รู้ ตัวเขานั่นแหละเป็นคนอัด แต่ไม่กล้าบอกว่าเขาอัด เพราะจะติดคุกทันที”

เม : “ที่เขาบอกว่าส่งมาให้เราแล้ว จริงๆ ไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในศาล หลังไกล่เกลี่ยตัวเลขไม่ลงตัว ศาลบอกงั้นชำระบัญชีซะเลย สมมติเป็นวันที่ 7 พ.ค. มีการให้วันคร่าวๆ กันอยู่แล้ว ต้องดูไทม์ไลน์ทุกคนให้ตรงกัน สุดท้ายจบหน้าศาลว่าเดี๋ยวคอนเฟิร์มกันว่าวันไหน เวลาไหน สถานที่ไหนแล้วแยกย้ายกันไป

แต่ที่เขาบอกว่าเขาส่งทางไปรษณีย์แล้ว แจ้งทางหนังสือพิมพ์ใดๆ แล้ว อันนั้นเขาต้องทำตามกฎหมายอยู่แล้วค่ะ แต่ในทางปฏิบัติ ทนายหนูติดต่อทนายเขาไป 3-5 ครั้งก่อนหน้า สองอาทิตย์ก่อนหน้า สามวันก่อนหน้า หนึ่งวันก่อนหน้า เราได้วันคร่าวๆ มาอยู่แล้วในศาล แต่เราไม่ได้รับการคอนเฟิร์ม มีแชตหมดนะ คุณไอซ์ก็มีการส่งไลน์ไปถาม อ่านแต่ไม่ตอบ หากคุณโปร่งใส บริสุทธิ์ใจจริงๆ สามารถคุยได้เลยว่าวันนี้ๆ ที่นี้ๆ โดยไม่ต้องมานั่งทริกกี้กัน สุดท้ายเขามานั่งบอกว่าทำไมคุณไม่มา ฉันอยู่ต่างประเทศยังส่งคนมาเลย ไม่มีเหตุผลเลยที่จะให้เข้าร่วมประชุม เหตุการณ์จริงโคตรยากเลย

แซค : “หนึ่งวันก่อนหน้าเขาไปประชุมกัน ทนายถามว่าช่วยเช็กให้หน่อย ว่านัดประชุมกันที่ไหน มีหนังสือแจ้งมาที่ผู้ถือหุ้นหรือเปล่า ให้ดูว่าหนึ่งวันก่อนหน้าไปประชุม ทนายตอบมาว่ากรณีไม่มีการดำเนินการเพื่อคำเชิญนัดกำหนดวันผู้ถือหุ้น ก็ต้องเลื่อนกำหนดวันไป เพื่อเชิญและกำหนดวันใหม่ นี่หนึ่งวัน แต่สุดท้ายแล้ว พรุ่งนี้ ตาคนนี้ไปร่วมประชุมด้วย”

เม : “แปลว่าตาคนนี้ก็อยู่ในกระบวนการนี้ ปกปิดไม่ให้เราเข้าไป ทั้งที่คุณรู้อยู่แล้วว่าต้องประชุมที่ไหน”

แซค : “เราตามตลอด จริงๆ แชตเยอะนะ เหลือเวลา 2 วัน เห็นมั้ยครับ เราตามก่อนวันเมื่อกี้”

ไอซ์ : “ไม่เคยมีจดหมายหรือคำเชิญ โอเค เรามีแค่คุยในศาลที่บอกว่าจะนัด เราไม่ได้คุยกันส่วนตัวแล้ว ทนายจะเป็นคนติดตามเรื่องให้ ก็เป็นตามแชตที่ทนายถามไปแต่หลังจากวันนั้นไปศาลแล้วมีข้อความว่าไอซ์ไม่ได้ร่วมประชุมทั้งที่ส่งหนังสือหาแล้ว ไอซ์เลยทักหาพี่หมออีก ก็ไม่ได้รับคำตอบ”

เม : “ตลอดระยะเวลาปีกว่า ไม่มีการเชิญเราไปทำอะไรนะ มีแต่เราขอไปเข้าพบในฐานะผู้ถือหุ้นตามกฎหมาย ที่เขาบอกว่าคุณไอซ์ไม่ให้ความสนใจ ไม่ให้ความร่วมมือ บลาๆ มันไม่เคยเกิดขึ้น เราไม่ได้รับคำเชิญ เขาไม่เคยจัดประชุมแล้วเชิญเราเลย จนวันสุดท้ายปิดชำระบัญชีบริษัท ที่เขาแจ้งเมื่อเช้า อย่างที่เมบอก เมช็อตทุกดอก เจ็บทุกดอกตั้งแต่เปิดรายการ เพราะสถานการณ์จริงไม่ได้เป็นแบบนั้น ตัวเมต้องการเข้าถึงบริษัทมาก ทำไมเมจะไม่อยากไป ทำไมไอซ์ถึงจะไม่อยากไป ในเมื่อประสานมาโดยตลอด แต่ไม่มีสิ่งนั้นเกิดขึ้นเลยวันนี้เป็นทั้งหมดที่เมมีเว้ยทุกคน มากกว่านี้ก็ไม่มีแล้ว ไม่รู้จะเอาอะไรมาให้ดูกันแล้ว วันนี้กล้าบอกว่าเป็นข้อเท็จจริงที่เราสามารถให้ทุกคนได้ดู ที่เหลือก็ให้สังคมตัดสินและพิจารณาได้เลย

เรื่องฟ้อง หนูคิดว่าจะดำเนินการทุกอย่างในเดือนนี้อยู่แล้วค่ะ เพราะศาลเพิ่งประทับรับฟ้อง เขาเพิ่งยื่นชำระบริษัทเมื่อต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา เราก็อ้าว ได้ข้อสรุปว่าเรื่องที่เราพยายามไกล่เกลี่ยมาตลอด เราไม่สามารถไกล่เกลี่ยกันได้อย่างลงตัว แม้แต่วันปิดบริษัท เราก็ถูกทริกกี้ตรงนี้ ทนายอยากให้ไกล่เกลี่ยจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ต่อไปนี้ก็จะเป็นการที่หนูฟ้องเขาบ้าง บางอย่างแจ้งความแล้วเพื่อกันอายุความมันหมด

จากนี้ที่เขาบอกว่ามีอะไรไปฟ้อง ไปพิสูจน์ในศาลสิ ไม่ต้องห่วง ตรงนั้นหนูรักษาสิทธิ์เต็มที่อยู่แล้ว แต่อยากให้มันโปร่งใส การที่ออกมาวันนี้ หนูคิดว่าการเป็นประเด็นทางสังคม จะทำให้หนูสู้คดีนี้ง่ายขึ้นจริงๆ หนูคิดว่าเขาอาจเล่นช่องทางกฎหมายหลายอย่าง เอาตัวรอดในการกระทำหลายอย่างที่เขาผิดพลาดไปในอดีต แต่แม้กฎหมายมีช่องโหว่ยังไง คุณต้องมีจรรยาบรรณ มีศีลธรรมในการทำธุรกิจเป็นพื้นฐานชีวิตที่นักธุรกิจที่ดีต้องมี การออกมาทำแบบนี้อยากยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีเจตนาเอาเอฟซีลูก เอาเอฟซีฉันมาถล่มหรือสร้างความเสียหายให้ใคร คุณเองรู้ดีแก่ใจว่าวันนี้ฉันต้องการจบ และต้องการจบแบบคุณไม่มาเอาเปรียบฉันแน่นอน สิ่งที่เราทำลงไป ทำให้เราอุ่นใจขึ้นในการต่อสู้คดีครั้งนี้แน่นอน”

ชี้สังคมตอบได้ ทองแท้หรือไม่ เหน็บทองแท้กี่โมง จี้ “หมอกลาง-หมอต่อ” ตอบแบบแมนๆ สังคมดูออก เรื่องเดียวที่เป็นปมในใจ อยากจบแบบแฟร์และยุติธรรม อยากจบแบบมีศักดิ์ศรี
เม : หนูว่าตอนนี้สังคมตอบได้แล้วว่าเขาทองแท้หรือเปล่า ทองแท้กี่โมง วันนี้ไม่ต้องรอศาลตัดสินนะ สำหรับหนู ทองแท้มั้ยไม่ขอตอบ สังคมสามารถตอบได้แล้วค่ะ

หนูก็มีความหวังเล็กๆ ให้พี่หมอกลาง พี่หมอต่อ ออกมาพูดความจริง หรือออกมาแบบแมนๆ กว่านี้ เพราะจริงๆ แล้วสังคมก็ดูออก หนูคิดว่าเรื่องนี้ยังมีช่องให้เราจบกันได้สวยกว่านี้ ทุกคนก็มีชื่อเสียงทางสังคม เราเองก็ต้องการพื้นที่ในสังคมในการต่อยอดชีวิตหลังจากนี้หนูพร้อมคุย โกรธมั้ยอาจโกรธมากๆ แหละ แต่คุยได้ จบเร็วที่สุดก็ดีกับตัวเราอยู่แล้ว เราจะได้ต่างคนต่างแยกย้ายไปทำธุรกิจ นี่ 10 วันแล้วนะคะ ที่เมไม่ได้อยู่กับลูกอย่างเต็มที่

(ท้องด้วยเจอเรื่องท็อกซิกด้วย?) ก็แบกรับได้แหละค่ะ มันไม่ใช่ปัญหาใหม่ มันเจอมา 1 ปีแล้ว เราก็สามารถจัดการทุกอย่างได้แหละค่ะ แต่วันนี้เรามองว่าครอบครัวเรา ลูกเรา หรือสภาพแวดล้อมเรามันดีมากๆ เลย เราควรได้ออกไปใช้ชีวิตของเรา ชีวิตมันดีมาก มันเป็นสิ่งที่หนูควรได้รับหลังจากผ่านมรสุมทุกอย่าง แต่มันมีเรื่องเดียวที่มันทำให้หนูนอนไม่หลับ พูดไปจะร้องไห้ไป เป็นปมในชีวิต ถ้าจบเรื่องนี้ได้หนูคงมีความสุขมากๆ เลย ก็อยากจบแบบแยกย้ายกันไปเหอะด้วยวิธีใดวิธีนึงให้เร็วที่สุด แต่จบในที่นี้ต้องแฟร์และยุติธรรมสำหรับเมนะ

โอกาสทำคลินิกเอง เมมีแพลนอยู่แล้ว คำว่าอยากจบไปใช้ชีวิต ตัวเมเองก็มีภาระหน้าที่ เมก็ต้องเลี้ยงครอบครัว ลูกเมก็ 3 คนแล้ว ถ้าเมสามารถจบเรื่องนี้ได้เร็วที่สุด ก็หมายถึงเมจะเริ่มต้นใหม่ได้เร็วที่สุด เพราะตัวเมก็มีแพสชั่นเยอะแยะมากมายจริงๆ พอเราตอบใครไม่ได้ ไม่หลุดจากบ่วงนี้เสียที ทำให้เหมือนเหมือนกดตัวเองอยู่กับปัญหา ออกจากบ้านไปไม่มีความมั่นใจ ไม่มีศักดิ์ศรี มันทำอะไรไม่ได้จริงๆ แล้วลูกคนที่สามมาแล้ว อยากไปเริ่มอะไรใหม่ๆ ยิ้มให้เต็มที่ ธุรกิจนี้จบไปยังไงก็ไม่รู้ แต่ฉันจบจากตรงนี้อย่างมีศักดิ์ศรีแล้ว ค่าตรงนั้น แวลู่ในตัวหนูอาจมากกว่า 100 ล้านที่มาเรียกร้องซะด้วยซ้ำ สิ่งที่มีค่าที่สุดในวันนี้ ตัวหนูจมมากๆ กับปัญหานี้ (เสียงสั่นเครือ)”

แซค : “ตั้งแต่วันแรกที่เมออกมา จนถึงวันนี้ มีแต่ความจริงให้ทุกคน ที่เราโพสต์ไปออกรายการให้สัมภาษณ์มีแต่ความจริง แต่ไม่รู้ว่าความจริงที่เราพูดออกไปจะเอาผิดฝั่งตรงข้ามได้หรือเปล่า ก็อยากให้ทุกคนรอติดตาม จะออกมาเล่าเรื่อยๆ ว่าผลเป็นยังไง คอยให้กำลังใจด้วยนะครับ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย”

เม : “วันนี้ที่เมตั้งโต๊ะแถลง เมอยากจบเรื่องนี้ อยากให้สังคมตัดสินเลย เมอยากโพสต์รูปลูกจะตายอยู่แล้ว แต่มีเรื่องนี้ที่มันยังไม่เสร็จ การที่มาแถลง เราคิดว่าน่าจะจบแล้วนะข้อมูลจากฝั่งเรา จากนี้เราจะดำเนินทุกอย่างอย่างเต็มที่ ส่วนผลสรุปจะเป็นยังไง เมจะออกมาอัปเดตเรื่อยๆ เราจะสามารถเอาผิดคนกระทำผิดได้มั้ยเดี๋ยวมารอติดตามกัน เพราะมันมีลูกล่อลูกชนหลายอย่าง ก็อยากให้ติดตามและเป็นกำลังใจให้กันค่ะ”













กำลังโหลดความคิดเห็น