“ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์” สุดปลื้ม ซีรีส์ “สงครามส่งด่วน” ดังไกลทั่วโลก ชิง 3 รางวัลงาน International Streaming Festival ที่เกาหลีใต้ มีพลังทำงานมากขึ้น พร้อมลุยโปรเจกต์ใหม่ 2 เรื่องที่ท้าทายความสามารถ เผยวิธีสลัดหลุดคาแรกเตอร์ คือใช้เวลาอยู่กับแมว
เป็นความทุ่มเทที่คุ้มค่าเลยทีเดียว สำหรับพระเอกมากฝีมือ “ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์” กับซีรีส์สงครามส่งด่วน ที่กลายเป็นซีรีส์ที่ดังไปทั่วโลก ถึงขั้นมีการเสนอรายชื่อไอซ์ซึ ชิงนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Best Lead Actor) ในงานInternational Streaming Festival ที่เกาหลีใต้ โดยไอซ์ซึเผยว่ายิ่งทำให้ตนเองมีพลังในการทำงานมากขึ้นกว่าเดิม
“ตอนนี้ผมมีพลังในการทำงานมากขึ้น เหมือนเอเนอร์จี้มากขึ้น หลังสงครามส่งด่วนออนแอร์ไป คนดูชื่นชอบกันเยอะมาก รู้จักผมเยอะขึ้นมาก ผมมีโอกาสไปชิงรางวัลที่ประเทศเกาหลีใต้ ก็รู้สึกว่า โห เหมือนซีรีส์คนไทยเองก็สามารถไปชิงรางวัลระดับเอเชียได้ พอเรากลับมา เรารู้สึกว่าอยากผลิตสร้างสรรค์ผลงาน มีส่วนร่วมกับโปรเจกต์ดีๆ และส่งไปที่เมืองนอกได้อีก ตอนนี้พลังในการแสดงล้นมาก อยากทำงานให้เต็มที่กว่าเดิม
ที่ไปเกาหลี ดีมาก สงครามส่งด่วนได้เข้าชิง 3 รางวัล ผมชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ไปเจอกับเกาหลีใต้ ประเทศจีน มาหลากหลายที่มากในเอเชีย รู้สึกภูมิใจนะ ผมเคยไปทำงานที่เกาหลีในฐานะโมเดล เราอยากพิสูจน์ว่าเราไปเป็นโมเดลที่เกาหลีได้ไหม พอเราแสดง แล้วได้ชิงรางวัลที่โน่น เราก็ได้เห็นว่าการที่เราตั้งใจทำงาน มันก็ส่งผลจริงๆ รู้สึกขอบคุณทีมงานทุกคน พอซีรีส์ไปได้ มันคือพลังของการทำงานทั้งทีม ตอนนี้ก็มีพลังมากในการทำงาน
ส่วนที่มองว่าปกติสองปีมาครั้งหนึ่ง (หัวเราะ) ก็แล้วแต่ช่วงเวลาและโอกาสด้วยครับ พอเราเปลี่ยนลุคอีกโปรเจกต์นึงเข้ามา แต่ลุคไม่ตรงกัน ก็เสียดายโอกาสที่รับไม่ได้ แต่เราอยากโฟกัสกับงานที่เราทำให้เต็มที่ที่สุด
ในคาแรกเตอร์มีอีกหลายอย่างให้ลองแสดง ตอนนี้ที่คุยอยู่มี 2 โปรเจกต์ ก็รู้สึกว่าเป็นคาแรกเตอร์ที่น่าสนใจ เป็นเรื่องราวที่ดี เป็นอะไรที่ท้าทายมาก ฝากให้รอติดตามนิดนึง แต่ก็ต้องใช้เวลานิดนึง มีคุยกันแล้วครับ คาแรกเตอร์ไม่เคยเล่น เป็นอีกทาง ทั้งสองเรื่องก็ไม่เหมือนกัน ไม่เคยเล่นมาก่อน อยากมีส่วนร่วมในเรื่องราวนี้ครับ
เผยความทุ่มเทเล่นซีรีส์ มีนักโภชนาการปรับลุคตัวเอง เติบโตไปพร้อมกับตัวละคร สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คน
“วันนี้เป็นไอซ์ซึจริงๆ ครับ สบายๆ พอแสดงก็มีการเปลี่ยนลุค ปรับลุค อย่างสงครามส่งด่วน มีอบผิวแทน ตอนนี้ซีรีส์จบแล้วก็ค่อยๆ กลับมาเป็นตัวเอง เวลาเล่นละครสักเรื่องนึง ก็มีผลต่อร่างกาย ตอนนี้ผมก็มีนักโภชนาการที่มาดูแลการลดน้ำหนัก อย่างซีรีส์เรื่องนี้ต้องมีลดน้ำหนัก พอดูแลดีๆ ก็ไม่มีผลมาก ผมก็ออกกำลังกาย คาดิโอ เวลาลดน้ำลงมาก็ทำให้สุขภาพดี
พอปรับเปลี่ยนลุคก็ช่วยในเรื่องคาแรกเตอร์ เวลาตื่นมามองกระจก เราก็จะเห็นเป็นตัวละครที่เราเล่น รูปร่างเรา ผิวเราก็เปลี่ยนไป ยิ่งมีทีมคอสตูมช่วยด้วย ยิ่งทำให้อินง่ายขึ้น ระยะเวลากลับมาเป็นตัวเองก็แล้วแต่เลยครับ อย่างเรื่องนี้ผมก็อินมาก ถ่ายทำเกิน 8 เดือนได้ ก็ต้องมีเวลาค่อยๆ จูนตัวละคร ตัวละครจะดุเดือด เป็นคนกล้าทำ กล้าลุย ผมก็เป็นคนซอฟต์ๆ หน่อย ก็ต้องใช้เวลาหลายเดือนอยู่ครับกว่าจะกลับมาเป็นปกติได้
แต่ก็มีความเป็นตัวเองอยู่ ทุกครั้งที่ผมแสดงเป็นตัวละครใดตัวละครหนึ่ง เราก็จะโตไปกับตัวละคร ได้ประสบการณ์เหมือนที่ตัวละครใช้ ผมก็อินไปกับเขา มีความรู้สึกไปกับเขา เราก็เติบโตไปกับทุกตัวละครที่แสดง พยายามดึงสิ่งที่อยากเอามาพัฒนาตัวเอง อันไหนไม่เหมาะกับเรา เราก็พยายามเอาออกไป
การปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่องานผมว่ามันก็โอเคนะถ้าใช้เป็น ผมเป็นคนใช้หลากหลายวิธีมากในการแสดง ก็เรียนรู้เรื่อยๆ ก็สนุกกับการใช้หลายวิธี ลองทำเต็มที่กับงานที่เราทำ อยากทำให้เต็มที่และงานออกมาดี อย่างวันนี้ซีรีส์สงครามส่งด่วน คนดูชื่นชอบกันเยอะมาก เรียกผมว่าสันติ เขาอินไปกับตัวละครที่เราได้ปรับลุคไป
อย่างผมไปวิ่ง เด็กผู้ชาย 10 ขวบเตะบอล เขาเห็นผม ก็บอกว่าพี่หน้าเหมือนพี่สันติเลย พี่สันติหรือเปล่า ส่วนใหญ่จะเรียกว่าสันติ จะมีคนที่จำได้ว่าเป็นไอซ์ซึคือแฟนคลับที่เขาติดตามผลงานเราอยู่แล้ว ผมไปทานอาหาร คุณป้าที่เขาเปิดร้านอาหาร เขาก็จะรู้จักผมจากซีรีส์เรื่องนี้ เขาบอกว่าเขาชอบซีรีส์เรื่องนี้มาก เพราะทำให้เขานึกถึงตอนที่เขาเป็นหัวแถวใหม่ๆ เปิดร้านใหม่ๆ
เขาบอกว่าเขาไม่เคยดูซีรีส์เลย แต่เขาทนกระแสไม่ไหว เลยให้หลานเขาโหลดแอปฯ และสมัคร แล้วเปิดดู 3-4 รอบ เขาชอบผมมาก ก็รู้สึกว่าเราทุ่มเทกับงาน วันนี้เป็นงานที่ทุกคนได้ดูกัน เหมือนเป็นงานสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนดู เราแฮปปี้มาก”
ดึงตัวเองออกจากคาแรกเตอร์ ด้วยการใช้ชีวิตอยู่กับแมว
“เราออกจากตัวละคร โดยการใช้เวลาอยู่กับแมว ตอนไปออกกองก็มีเรื่องของเราต้องทำตามที่ตัวละครบอกเราให้ทำ ต้องไปต่อสู้กับคณิน ทำให้ผมดูตัวเองว่า พอใช้ชีวิตปกติแล้ว ก็ไม่ต้องไปทำตามซีนนั้นแล้วพฤติกรรมก็ค่อยๆ เปลี่ยนเอง ไม่มีปัญหาครับ รู้ตัวมากกว่า แต่ช่วงทำงานแรกๆ ตอนเข้าวงการแรกๆ รู้สึกว่ามันติด แต่ตอนนี้เรามีสติรู้ตัวแล้วว่าต้องทำยังไง”
