เป็นปีที่การประกาศผลรางวัลแกรมมี่ กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยครั้งนี้นับเป็นปีที่ 66 แล้ว สำหรับ 2024 Grammy Awards ที่จัดขึ้นที่ Crypto.com Arena. ใน ลอสแองเจลิส
โดยปีนี้ขาประจำอย่าง เทย์เลอร์ สวิฟต์ ก็คว้ารางวัลกลับไปสะสมที่บ้านได้อีกครั้ง โดยรางวัลตัวที่ 13 ซึ่งเป็นเลขนำโชคของเธอได้มาในสาขา Best Pop Vocal Album จากอัลบัม Midnights ซึ่งระหว่างที่ขึ้นกล่าวขอบคุณบนเวที เธอยังเผยข่าวช็อคแฟนคลับด้วยว่าเธอได้ซุ่มทำอัลบัมเพลงและเตรียมจะปล่อยอัลบัมใหม่เร็วๆนี้ด้วย
“โอเค นี่คือแกรมมี่ตัวที่ 13 ของฉันค่ะ มันเป็นเลขนำโชคของฉัน ฉันไม่รู้ว่าเคยบอกคุณหรือเปล่า ฉันอยากจะขอบคุณสมาชิกของสถาบันที่โหวตให้ฉันด้วยค่ะ ฉันรู้ว่าวิธีที่ Recording Academy โหวตก็มาจากเสียงสะท้อนโดยตรงจากความหลงใหลของแฟนๆ ดังนั้นฉันจึงอยากจะขอบคุณแฟนๆ โดยการบอกความลับเรื่องที่ฉันอุบไว้ไม่ให้รู้มานานกว่า 2 ปีว่า ฉันกำลังจะมีอัลบัมใหม่ออกมาค่ะ ในวันที่ 19 เม.ย. ชื่อว่า The Tortured Poets Department. เดี๋ยวฉันจะไปโพสต์ภาพปกให้ดูตอนนี้เลย ที่ด้านหลังเวที ขอบคุณค่ะ ฉันรักคุณ ขอบคุณค่ะ“
นอกจากนั้นรางวัลใหญ่อย่าง อัลบัมแห่งปี ที่ถูกประกาศเป็นรางวัลสุดท้าย เจ้าตัวก็ได้รับรางวัลนี้จากผลงานอัลบัม Midnight ซึ่งนับเป็นการได้รางวัลในสาขานี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว
ในส่วนของเพลงแห่งปี บิลลี ไอลิช นักร้องสาววัย 22 ปี รวมถึง ฟินเนีย พี่ชายวัย 26 ปีของเธอ ก็พาผลงานเพลง What Was I Made For? ซาวนด์แทร็คของภาพยนตร์ Barbie 2023 คว้ารางวัลเพลงแห่งปี รวมถึงสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วย
ซึ่งเจ้าตัวได้ขึ้นกล่าวบนเวทีแบบไม่เชื่อหูตนเองว่า เหลือเชื่อ พร้อมขอบคุณโอกาสที่หยิบยื่นให้ลองทำเพลงประกอบภาพยนตร์
ทางด้าน ไมลีย์ ไซรัส ก็คว้ารางวัลแกรมมีได้เป็นครั้งแรกในงานประกาศผลรางวัลแกรมมี่ครั้งที่ 66 นับเป็นปีที่ ไมลีย์ ได้มีชื่อเข้าชิงรางวัลมากถึง 6 สาขา โดยเฉพาะในสาขาใหญ่ๆอย่าง บันทึกเสียงแห่งปี, เพลงแห่งปี และ อัลบัมแห่งปี จากผลงานอัลบัมล่าสุดอย่าง “Endless Summer Vacation.” นับเป็นปีที่เธอมีชื่อเข้าชิงมากที่สุด โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอเคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลมาถึง 8 ครั้งแล้ว
รางวัลแกรมมีตัวแรกของ ไมลีย์ มาจากผลงานเพลง “Flowers” ในสาขา ศิลปินเดี่ยวป็อปยอดเยี่ยมแห่งปี เบียดคู่แข่งตัวเป้งอย่าง เทย์เลอร์ สวิฟต์ ไปได้ซึ่งทำเอาเจ้าตัวแทบจะไม่เชื่อหูตนเอง แถมยังได้รับรางวัลจากดีว่าชื่อดังอย่าง “มารายห์ แครีย์” ซึ่งเธอได้ขึ้นกล่าวระหว่างรับรางวัลเพื่อบอกเล่าถึงเกียรติยศครั้งนี้หลังจากที่อยู่ในวงการมาเกือบ 20 ปี
“โอ้พระเจ้า ฉันทั้งติดฝนแล้วก็รถติดคิดว่าคงต้องพลาดโมเมนต์นี้แน่ๆ แล้วก็อาจจะพลาดรางวัล แต่ไม่ใช่เลย มารายห์ แครีย์ ฉันเพิ่งได้เจอคุณที่ Hollywood Bowl นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น มันมีเด็กคนหนึ่งที่ทุกอย่างที่เขาต้องการในวันเกิดก็คือผีเสื้อ ดังนั้นพ่อแม่ของเขาจึงมอบตาข่ายจับผีเสื้อให้ ซึ่งเขาตื่นเต้นมาก เขาออกไปข้างนอกท่ามกลางแสงอาทิตย์ แล้วก็เริ่มแกว่งไปแกว่งมา แต่ก็โชคไม่ดี เขานั่งทิ้งตัวลงกับพื้น เขาปล่อยมันไปแล้วใช้ชีวิตต่อไป เขาโอเคที่จับผีเสื้อสวยๆไม่เคยได้ และทันทีที่เขาทำ ผีเสื้อมันมาเกาะที่ปลายจมูกเลย และเพลงนี้ Flowers ก็คือ ผีเสื้อของฉันค่ะ ขอบคุณค่ะ”
นอกจากนั้นอีกหนึ่งรางวัลใหญ่อย่าง บันทึกเสียงแห่งปี หรือ Record of the Year เจ้าตัวก็พาเพลง “Flowers” คว้ารางวัลไปได้ นับเป็นรางวัลแกรมมี่ตัวที่ 2 ที่พากลับบ้านได้อย่างเต็มภาคภูมิ
ซึ่งเพลง Flowers นับเป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จอย่างมากของ ไมลีย์ โดยเป็นเพลงที่เข้าไปติดชาร์ต Billboard Hot 100 นานถึง 8 สัปดาห์หลังจากเปิดตัว และยังทำลายสถิติ Spotify กับยอดสตรีมมิงสูงที่สุดภายในหนึ่งสัปดาห์โดยมีผู้ฟังมากถึง 100 ล้านคน และไม่กี่เดือนหลังปล่อยออกมาก็ทยานขึ้นเป็นเพลงที่แตะพันล้านสตรีมได้เร็วที่สุด
ทาง รอน เพอร์รีย์ ซีอีโอ ของ Columbia Records ค่ายเพลงสังกัดของ ไมลีย์ ไซรัส ได้เผยว่า “เพลงนี้เป็นบันทึกการเดินทางและการล้มแล้วรีบลุกขึ้นมาของ ไมลีย์ ที่สมบูรณ์แบบ มันไม่ใช่แค่เกี่ยวกับเธอเท่านั้น แต่มันยังสะท้อนถึงความรักตัวเองได้อย่างงดงาม ซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่โดนใจทุกคน”
ทางด้าน SZA ที่เป็นผู้มีชื่อเข้าชิงรางวัลมากที่สุดในปีนี้ถึง 9 สาขา ก็คว้ารางวัลล่วงหน้าก่อนวันประกาศผลแบบถ่ายทอดสดไปแล้ว 2 สาขา ก่อนจะขึ้นรับรางวัลออกกล้องในสาขา Best R&B Song
ทางด้านศิลปินน้องใหม่มาแรงอย่าง วิคตอเรีย โมเนต์ ที่มีชื่อเข้าชิง 7 สาขา ก็พาอัลบัมแรกอย่าง “Jaguar II.” คว้ารางวัลกลับบ้านไปได้ถึง 3 สาขาทั้ง Best Engineered Album (non-classical) และ Best R&B Album ก่อนที่รางวัลใหญ่อย่าง ศิลปินหน้าใหม่แห่งปี ก็ตกเป็นของเธอด้วย
เรียกได้ว่าปีนี้เป็นปีของเพื่อนหญิงพลังหญิงที่แท้จริงที่ 4 สาขาใหญ่ยักษ์ทั้ง อัลบัมแห่งปี, บันทึกเสียงแห่งปี, เพลงแห่งปี และ ศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม ล้วนเป็นศิลปินหญิงทั้งหมด
แต่ทางด้านตัวพ่ออย่าง เจย์-ซี ที่ขึ้นรับรางวัล Dr. Dre Global Impact Award ก็ขอกล่าวสปีชเพื่อเมียรักอย่าง บียอนเซ โดยขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้เมีย ที่ไม่เคยคว้ารางวัลอัลบัมแห่งปีได้เลย ถึงแม้ว่าจะมีสถิติเป็นศิลปินที่ครองรางวัลแกรมมีสูงที่สุด
“ผมไม่ได้อยากทำให้หญิงสาวคนนี้ต้องอับอายหรอกนะครับ แต่เธอคือคนที่ได้รางวับแกรมมี่มากกว่าใครทั้งหมด แต่เธอกลับไม่เคยได้รับรางวัลอัลบัมแห่งปีเลย เพราะงั้นแม้จะใช้วิธีการวัดในแบบของพวกคุณเอง มันก็ไม่เวิร์ก ลองคิดดูแล้วกันว่า คนที่ได้รางวัลแกรมมี่มากที่สุดแต่ไม่เคยได้รางวัลอัลบัมแห่งปี มันไม่เวิร์กนะครับ”
นอกจากนั้นในปีนี้ยังมีการเพิ่มรางวัลอีก 2 สาขาในปีนี้ ซึ่งได้ประกาศไปแล้วก่อนวันถ่ายทอดสด โดย ไคลี มิโนค ได้รับรางวัลจากผลงานเพลง “Padam Padam” ในสาขา Best Dance Pop Recording ขณะเดียวกัน ไทลาร์ ก็รับรางวัลใหม่อย่าง Best African Music Performance จากเพลง “Water” เพลงสุดฮิตในโซเชียลมีเดียซึ่งเป็นการเข้าชิงครั้งแรกและเข้าชิงสาขาเดียวของเธอด้วย
ผลรางวัล Grammy Awards ครั้งที่ 66 ประจำปี 2024
Record of the Year : “Flowers,” Miley Cyrus
Album of the Year : “Midnights,” Taylor Swift
Song of the Year : “What Was I Made For?” [จากภาพยนตร์เรื่อง “Barbie”] — Billie Eilish O’Connell & Finneas O’Connell, นักแต่งเพลง (Billie Eilish)
Best New Artist : Victoria Monét
Producer of the Year, Non-Classical : Jack Antonoff
Songwriter of the Year, Non-Classical : Theron Thomas
Best Pop Solo Performance : “Flowers,” Miley Cyrus
Best Pop Duo/Group Performance : “Ghost in the Machine,” SZA featuring Phoebe Bridgers
Best Pop Dance Recording : “Padam Padam,” Kylie Minogue
Best Dance/Electronic Recording : Skrillex, Fred again.. & Flowdan – Rumble
Best Dance/Electronic Music Album : Fred again.. – Actual Life 3 (January 1 – September 9 2022)
Best Rock Album : “This Is Why,” Paramore
Best Alternative Music Performance : “This Is Why,” Paramore
Best Alternative Music Album : “The Record,” boygenius
Best Rock Performance : Boygenius – Not Strong Enough
Best Metal Performance : Metallica – 72 Seasons
Best Rock Song : Boygenius – Not Strong Enough
Best R&B Performance : “ICU,” Coco Jones
Best R&B Album : “Jaguar II,” Victoria Monét
Best Traditional R&B Performance : PJ Morton ft. Susan Carol – Good Morning
Best R&B Song : SZA – Snooze
Best Progressive R&B Album : SZA – SOS
Best Melodic Rap Performance : “All My Life,” Lil Durk featuring J. Cole
Best Rap Performance : Killer Mike ft. André 3000, Future, and Eryn Allen Kane – Scientists & Engineers
Best Rap Song : Killer Mike ft. André 3000, Future, and Eryn Allen Kane – Scientists & Engineers
Best Rap Album : Killer Mike – Michael
Best Country Solo Performance : “White Horse,” Chris Stapleton
Best Country Album : “Bell Bottom Country,” Lainey Wilson
Best Country Duo/Group Performance : Zach Bryan ft. Kacey Musgraves – I Remember Everything
Best Country Song : Chris Stapleton – White Horse
Best Latin Pop Album : “X Mí (Vol. 1),” Gaby Moreno
Best Score Soundtrack for Visual Media (Includes Film and Television) : “Oppenheimer,” Ludwig Göransson ( นักแต่งเพลง )
Best Song Written for Visual Media : “What Was I Made For?” จาก “Barbie the Album,” Billie Eilish O’Connell and Finneas O’Connell, นักแต่งเพลง (Billie Eilish)
Best Jazz Performance : Samara Joy – Tight
Best Jazz Vocal Album : Nicole Zuraitis – How Love Begins
Best Traditional Pop Vocal Album : Laufey – Bewitched
Best Pop Vocal Album : Taylor Swift — Midnights