xs
xsm
sm
md
lg

"เพชร โอสถานุเคราะห์" มาก่อนกาลจน(เพลง)ถูกเมิน (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แม้จะเป็นบทเพลงฮิตที่ใครหลายคนร้องได้และเป็นเพลงที่ถูกนำมาคัฟเวอร์โดยนักร้องมากมายกระทั่งบางคนอาจจะสับสนไปแล้วว่า "เพียงชายคนนี้ (ไม่ใช่ผู้วิเศษ)" นั้นเป็นของใครกันแน่

แต่ใครจะรู้บ้างว่าเมื่อย้อนกลับไปในอดีตเพลงรักเพลงนี้ของ "เพชร โอสถานุเคราะห์" นั้น เคยเป็นเพลงที่ไม่ได้รับการเหลียวแลเอาซะเลย

เพชร โอสถานุะคราะห์ เป็นลูกชายของ สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ ประธานกรรมการบริษัท โอสถสภา จำกัดและผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยกรุงเทพ

ด้วยความที่เป็นคนที่ชื่นชอบด้านศิลปะตั้งแต่เด็ก ถึงแม้จะต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเรียนด้านการบริหารธุรกิจตามที่ครอบครัวต้องการ แต่ทุกครั้งที่มีโอกาส เวลาว่างทายาทนักธุรกิจคนดังจะเอาเวลาเหล่านั้นมาทำในสิ่งที่ตัวเองรักอยู่เสมอ

หนึ่งในนั้นก็คือการทำงานที่เกี่ยวกับบทเพลงและเสียงดนตรี



วันหนึ่งระหว่างที่เป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยที่สหรัฐอเมริกาเพชรนั่งสังเกตว่ามีผู้คนมากมายที่เดินผ่านตัวเขาไปมาโดยไม่มีใครหันมาสนใจตัวเขาเลยสักคน ทำให้เขาได้ไอเดียเขียนเพลงเนื้อร้องภาษาอังกฤษขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า I'm Just a Man พูดถึงเรื่องราวของผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่ง

หลังกลับมาทำงานสืบทอดธุรกิจของครอบครัวแต่เจ้าตัวก็ไม่ได้ละทิ้งความฝันในเรื่องของงานเพลง จนในปี 2530 เขาก็ได้มีโอกาสทำเพลงกับค่ายแกรมมี่ บทเพลง Just a Man จึงได้ถูกนำมาปัดฝุ่นดัดแปลงเป็นเนื้อร้องภาษาไทยในชื่อ เพียงชายคนนี้ (ไม่ใช่ผู้วิเศษ) บรรจุอยู่ในอัลบั้มที่ชื่อ "ธรรมดา...มันเป็นเรื่องธรรมดา"

แม้จะมาพร้อมกับสีสันที่แปลกใหม่ด้วยงานดนตรีในแนวอิเล็คโทรนิกส์ มีการใช้เสียงสังเคราะห์เข้ามาประกอบ แต่ด้วยความที่ไม่ค่อยจะคุ้นหูคนไทยส่วนใหญ่เท่าไหร่นัก ทำให้อัลบั้มชุดนี้รวมถึงเพลงเพียงชายคนนี้ไม่ได้ถูกพูดถึงมากในวงกว้าง

กระทั่ง 3 ปีต่อมาเพลงเพียงชายคนนี้ (ไม่ใช่ผู้วิเศษ) ได้ถูกนำมาเปิดออกอากาศตามคลื่นวิทยุอีกครั้ง คราวนี้มันได้กลายเป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมากในฐานะเพลงรักที่มีเนื้อหาง่ายๆ แต่กินใจ มีการนำไปเป็นเพลงประกอบละคร, โฆษณา, นักร้องนักดนตรีนำไปเล่นในผับบาร์ จนทำให้อัลบั้มของเขากลับมามียอดขายที่ดีขึ้นถึง 50,000 ชุดเลยทีเดียว

โดยทางด้านของเพชร โอสถานุะคราะห์เคยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่เพลงตัวเองกลับมาได้รับความนิยมโดยระบุว่า..."ความจริง เพียงชายคนนี้ฯ ผมไม่คิดว่ามันจะฮิตตั้งแต่วันที่โปรโมทอัลบั้มอยู่แล้ว เพราะเพลงของเรามันมาก่อนเวลา ถ้ามาในยุคสมัยนี้มันอาจจะป๊อป กว้างขวางขึ้นก็ได้ แต่ผมก็มีความสุขกับการได้ชื่อว่าเป็นผู้บุกเบิก เป็นผู้ที่มาก่อนกาล แบบนั้น"

ทิ้งช่วงนานกว่า 20 ปี ในปี พ.ศ. 2550 เพชรได้ออกผลงานอัลบั้มที่ 2 Let's Talk About Love มีการทุ่มทุนในการทำมิวสิควิดีโอพร้อมดึงผู้กำกับฝีมือดีมาร่วมงาน ทั้ง เป็นเอก รัตนเรือง, วิศิษฎ์ ศาสนเที่ยง, อภิชาติพงษ์ วีระเศรษฐกุล ซึ่งแม้อัลบั้มชุดนี้จะได้รับคำชมจากนักวิจิารณ์แต่กระนั้นก็เหมือนกับชุดแรกที่คนส่วนใหญ่ไม่ใด้ให้การตอบรับมากนัก

อย่างไรก็ตาม แม้โดยรวมผลงานเพลงทั้งสองอัลบั้มจะมีผลตอบรับที่ไม่ดีนักจากคนฟังในระยะแรกๆ แต่งานเพลงของเพชร โอสถานุเคราะห์ ก็ได้ชื่อว่ามีอิทธิพลอย่างมากต่อนักทำเพลงในรุ่นต่อๆ มา ไม่ต่างอะไรไปจากบทเพลงเพียงชายคนนี้ ไม่ใช่ผู้วิเศษ ซึ่งถึงตอนนี้จากเพลงที่ถูกเมินมันได้กลายเป็นเพลงรักที่เป็นอมตะเพลงหนึ่งของบ้านเราไปแล้ว

"ผมไม่ได้อยากทำเพลงให้คนร้องได้ทั้งประเทศ มันไม่เก๋ ต่อให้งานของผมขายได้แค่ 50,000 ชุด ผมก็พอใจแล้ว คนที่เป็นเจ้าของเทป 50,000 ชุดนั่นแหละคือคนที่เก๋และเท่ที่สุดในประเทศไทย ผมชอบแบบนั้น"



กำลังโหลดความคิดเห็น