“เดียร์น่า” ปลื้ม พลังซอฟต์พาวเวอร์ที่แท้ทรูของ “ลิซ่า แบล็กพิงก์” นุ่งผ้าซิ่นเที่ยววัดที่อยุธยา ทำตลาดผ้าไทยคึกคัก ชาวบ้านได้งาน ได้เพิ่มค่าแรง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ บอกวัดเกือบล่มเพราะโควิด กลับมาดังอีกครั้ง มองวัดชวนตามรอยลิซ่า ส่งเสริมการท่องเที่ยว
เป็นเพื่อนสนิทกับคนดังระดับโลกอย่าง “ลิซ่า แบล็กพิงก์” ลลิษา มโนบาล ล่าสุดทำเอาฮือฮาหลังจากที่ลิซ่าได้นุ่งผ้าซิ่นเที่ยววัดที่อยุธยา ซึ่งเป็นผ้าที่มาจากร้านของแม่นางเอกสาว “เดียร์น่า ฟลีโป”งานนี้เดียร์น่าเผยว่าเจ้าตัวคือพลังซอฟต์พาวเวอร์ที่ทำให้เกิดการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่แท้ทรู นอกจากนี้เดียร์น่าได้เผยอีกว่าตนยังรับละครอยู่ รวมทั้งเปิดคาเฟ่ใหม่ที่บ้านเกิด
“ตอนนี้เราเปิดคาเฟ่ จริงๆ เป็นร้านผ้าไหมเป็นหลัก มีร้านนึงอยู่แล้ว พอดีเราซื้อที่เพิ่มก็เลยจะขยายร้านเพิ่ม เราอยากจะทำให้มันใหญ่ขึ้น ก็เลยขอแม่ล็อกนึงทำเป็นคาเฟ่เล็กๆ ด้วย รองรับลูกค้าที่มาซื้อผ้า เผื่อใครร้อนก็เข้ามาในห้องแอร์ได้ เราชอบทำธุรกิจอยู่แล้ว ที่กทม.เดียร์ก็ทำชานมไข่มุกด้วย ก็เลยเปิดคาเฟ่ก็ได้ มันไม่ได้ยาก เรามีทีม มีสูตรพร้อมอยู่แล้ว ก็ตอบโจทย์กับสิ่งที่เราอยากทำ ก็เลยเปิดคาเฟ่”
ต้นปีหน้าจะมีละคร
“ยังรับละครค่ะ เดี๋ยวต้นปีจะมีละครให้ทุกคนได้ชมกัน พอดีมีธุรกิจที่บ้าน แล้วเรามีช่องทางที่จะช่วยโปรโมตได้ ก็ทำให้เต็มที่ เราก็อยากจะทำอะไรให้มันหลากหลายด้วย งานในวงการ หรืออาชีพต่างๆ สมัยนี้มันก็ไม่แน่นอน เราจะเห็นกันอยู่ว่ามันเงียบกันไปเลยจริงๆ มีอาชีพที่ 2 ที่ 3 รองรับไว้มันก็ดีเหมือนกัน อย่างเดียร์วันว่างก็เข้าไปดูร้าน ดูครัวทำขนมบ้าง ดูออเดอร์บ้าง ที่กทม.ชานมไข่มุกก็ตระเวนดูตามสาขาบ้าง
ถามว่าอยากทำอะไรต่อ ก็มีในใจอยู่ค่ะ อยากจะทำผ้าไทยต่อ แต่เป็นการทำให้โมเดิร์นมากขึ้น ตอนนี้เราทำแต่ผ้าผืน เป็นเสื้อผ้าฝ้ายปกติใส่ไปวัดธรรมดาแต่จริงๆ แล้วผ้าไทยทำได้หลายแบบมากๆ ให้โมเดิร์น ตอนนี้คือยังเป็นแผนในใจ ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง”
ซอฟต์พาวเวอร์ที่แท้ทรูของลิซ่า ทยอยส่งผ้าไทยล็อตแรกไปแล้ว ตลาดผ้าคึกคัก คนหันมาใส่ผ้าไทย
“ทุกคนคิดว่าเราขายดีมาก แต่อยากจะบอกว่าคือผืนที่น้องใส่มีอยู่ 3 ผืน ณ ตอนนั้น แต่ถ้าใครอยากจะได้แบบน้องต้องรอเป็นเดือนเลย วิธีการทำผ้าไทยไม่ได้ง่ายเลย ต้องทอมือหมด ด้ายแต่ละเส้นที่ชาวบ้านทำกันด้วยมือทุกอย่าง เป็นชาวบ้านจริงๆ ทำ ก็รอเป็นเดือน ตอนนี้ก็เริ่มได้ทยอยส่งบ้างแล้ว ล็อตแรกเริ่มได้แล้ว ทุกคนดีใจมากที่ได้ใส่แล้ว ได้เห็นของจริงแล้ว
ยอมรับจริงๆ ค่ะว่าพอเขาใส่ผ้าไทยของเราก็มีผลมากๆ น้องคือซอฟต์พาวเวอร์จริงๆ ไม่ได้มีผลแค่ร้านเราร้านเดียวนะคะ มีผลกับทั้งตลาดผ้า ทุกคนหันมาสนใจการใส่ผ้าไทยมากขึ้น ทุกคนที่ขายย้อมครามก็ขายดีกันมากขึ้นเขียนขอบคุณกันใหญ่เลย ดีใจนะที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอีกครั้งนึง ชาวบ้านที่ทำเขาก็ได้งานมากขึ้นด้วย เดียร์ก็เพิ่มค่าแรงให้เขาด้วย ให้เขามีกำลังใจ ให้เขาได้เห็นว่าเห็นไหมว่ามีคนสนใจผ้าไทยกันเยอะมากขึ้นนะ”
ยังไม่มีคอลเลกชั่นใหม่ส่งไปให้ เพราะที่ผ่านมาก็ไม่ได้คาดหวังว่าอีกฝ่ายจะใส่ด้วย
“ยังไม่มีเลยค่ะ จริงๆ เดียร์ไม่ได้คาดหวัง ไม่ได้คิดว่าน้องจะใส่ด้วย เหมือนเขาแค่เอ่ยปากว่าอยากจะไปอยุธยาเพราะว่าไม่เคยไปเลย เราก็บอกได้สิ เราก็มีเวลาว่างอยู่ ก็ไปกัน ไหนๆ จะไปวัดแล้วเราทำผ้าไทยอยู่แล้ว ก็ทำชุดผ้าไทยใส่เลยสิ ไม่ว่าจะเป็นใคร เพื่อนเราทุกคนเราตัดให้ใส่อยู่แล้ว ตัดไว้ให้ก่อน เลือกกันเลยอยากใส่ผืนไหน เขาก็เคาะผืนนี้พอดี เป็นความโชคดีแหละคะ เขาก็รู้สึกว่าใส่แล้วสวย น่ารักจังเลย เขาก็แฮปปี้ที่จะใส่ เขาบอกว่าลายนั้นพอดีสุด เขาเอวเล็ก และสะโพกเล็กมาก ผืนอื่นตัดใหญ่ไปนิดนึง ผืนนั้นใส่พอดี เข้ารูปที่สุด
เราก็บอกฟีดแบ็กกับเขา น้องก็แซวว่าตอนนี้คุณแม่ดังใหญ่เลยนะเพราะว่าทุกคนโทร.มาหาคุณแม่ แม่รับสายตลอดเวลา ตอบเรื่องผ้าด้วย ตอบนักข่าวด้วย ก็ครึกครื้นดี น้องก็ดีใจ เขาแฮปปี้ที่สามารถส่งผลต่อสิ่งรอบข้างได้ขนาดนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องผ้า เรื่องวัดด้วย ที่วัดพระแม่นางปลื้มทางเจ้าอาวาสโทร.มาหาคุณแม่ว่าขอบคุณคุณเดียร์มากเลยนะ ที่ชวนลิซ่ามา เพราะตอนโควิดวัดเกือบจะล่มไปแล้ว ตั้งแต่น้องมาคนก็ตามไปเต็มเลย เขาก็ดีใจที่วัดกลับมามีคนมาไหว้อีกครั้งนึง”
วัดติดป้ายตามรอยลิซ่า ถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว
“ก็ถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยไปแล้วกัน ส่วนรอบหน้าจะสร้างซอฟต์พาวเวอร์ที่ไหนยังไม่รู้เลย ทุกอย่างแพลนของเราเป็นแผนที่เร่งรีบไปหมด คิดกัน 1-2 วันพรุ่งนี้ไปแล้ว จะไม่ค่อยได้รู้อะไรล่วงหน้ากันเท่าไหร่ จริงๆ เราก็ไปกันหลายวัดนะ อยุธยาเรามีเวลากันครึ่งวัน แต่เราได้ไปกัน 3-4 วัดเลย ก็ดีค่ะ เขาก็แฮปปี้ ได้ใช้ชีวิตเต็มที่กลับมาเมืองไทยทั้งที จะไปไหนบอกมาเลยเดี๋ยวพาไป ก็ได้ไปหลายๆ ที่”