xs
xsm
sm
md
lg

รีโว่เมด จับมือจุฬาฯ พัฒนาอาหารเสริม-เครื่องสำอาง พร้อมเปิดตัว V-Sion นวัตกรรมอาหารเสริมเพื่อสุขภาพทางสายตา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บริษัท รีโว่เมด (ไทยแลนด์) จำกัด ผนึกความร่วมมือด้านการวิจัย กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกันพัฒนาอาหารเสริมและเครื่องสำอาง จากองค์ความรู้และนวัตกรรมจากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ นำไปใช้ประโยชน์เพื่อสังคมในวงกว้าง

โดยล่าสุดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางการวิจัยระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับบริษัท รีโว่เมด (ไทยแลนด์) จำกัด จัดขึ้น เมื่อวันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ เรือนจุฬานฤมิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมี ศ.ภญ.ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การดำเนินงาน ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาฯ และ น.ส.วาสนา อินทะแสง กรรมการผู้จัดการ บริษัท รีโว่เมด (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวแสดงความพร้อมและความยินดีในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิจัย จากนั้นเป็นพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิจัยโดย ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาฯ ศ.ภญ.ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ น.ส.วาสนา อินทะแสง และ ดร.ศิริพงษ์ สีใสไพร กรรมการผู้จัดการบริษัท รีโว่เมด (ไทยแลนด์) จำกัด

นางสาววาสนา อินทะแสง กรรมการผู้จัดการ บริษัท รีโว่เมด (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า เป้าหมายที่สำคัญคือการนำส่งนวัตกรรมที่ผ่านการวิจัยเพื่อส่งให้ผู้บริโภค และผู้ประกอบการเพื่อเป็นประโยชน์สูงสุด โดยการนำนวัตกรรมที่ผ่านการวิจัยมาแล้วได้สินค้าที่มีคุณภาพ และมีการใช้เทคโนโลยี สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ของเรามีประสิทธิภาพ และได้ ผลลัพธ์เชิงประจักษ์จากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือได้ ผ่านการวิจัยเชิงวิชาการ เพราะผลิตภัณฑ์ที่ดี ต้องผสมผสานกับเทคโนโลยีที่ดี ผ่านการนำส่งที่ดีจะเพิ่มประสิทธิผลให้ผลิตภัณฑ์ดีมากยิ่งขึ้น นับได้ว่าการร่วมมือครั้งนี้เป็นก้าวที่สำคัญ และเป็นบทพิสูจน์ของคำว่านวัตกรรมที่แท้จริง ถือว่าเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมสุขภาพของไทยด้วย งานวิจัยจะส่งออกไปต่างประเทศด้วย

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโดยคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งเป็นผู้นำในการพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมทางด้านอาหารเสริมเพื่อสุขภาพและเครื่องสำอาง จะร่วมมือกับบริษัท รีโว่เมด (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทของคนไทย 100% ในการให้บริการเพื่อพัฒนาเครื่องสำอาง สินค้าเพื่อสุขภาพ ความงาม และอาหารเสริมทุกรูปแบบ รวมทั้งให้คำปรึกษาแนะนำในการดำเนินธุรกิจและการตลาด

ขณะเดียวกันทั้งสองหน่วยงานจะร่วมมือกันส่งเสริมผลงานวิจัยเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านสุขภาพโดยใช้วัตถุดิบ ในประเทศไทย ต่อยอด ขยายผลและส่งเสริมการใช้ประโยชน์ร่วมกัน สามารถนำผลงานนวัตกรรมทางด้านสุขภาพไปใช้ประโยชน์เพื่อสังคมในวงกว้าง ช่วยเสริมการทำงานของบริษัท จุฬาฟาร์เทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท ซียูฟาร์มาซี เอ็นเทอร์ไพรส์ จำกัด (CUPE) คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมต่างๆ จากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ออกสู่เชิงพาณิชย์

ความร่วมมือระหว่างคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ และบริษัท รีโว่เมด (ไทยแลนด์) จำกัด ยังรวมถึงการเสริมสร้างความร่วมมือในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทุกรูปแบบ สนับสนุนให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเพิ่มขีดความสามารถของทรัพยากรมนุษย์ผ่านกระบวนการวิจัย การฝึกอบรม และนำความรู้ที่ได้รับสู่การปฏิบัติจริงอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์กรและประเทศชาติ

นอกจากนั้นยังเปิดตัว นวัตกรรมสินค้าหนึ่งเดัยวในประเทศไทย VI-SION หรือ
Vi-Sion Dietary Supplement Product
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงสายตา วิ-ซีออน
คิดค้นและวิจัยโดย คณะเภสัชศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับอนุสิทธิบัตรเฉพาะของ บริษัท รีโว่เมด (ไทยแลนด์) ที่ได้รับรางวัล Gold Award
สาขา Natural Combination for Eye Health จาก เวทีการประกวด LTE LONDON ประเทศอังกฤษ มีฤทธิช่วยลดกาวะตาแท้ง เร่งการสมานแผลของ Cornea และต้านอนุมูลอิสระที่ดวงตา ซึ่ง นางสาววาสนา อินทะแสง กรรมการผู้จัดการ บริษัท รีโว่เมด (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า รีโว่เมดจะผลักดันสินค้านวัตกรรม Vi-Sion นี้ออกสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคอย่างสูงสุด และเพื่อสานต่อแผนยุทธศาสตร์ของบริษัท ในแสดงศักยภาพของบุคลากรไทย และ อุตสาหกรรมสุขภาพและความงามของประเทศไทยสู่ระดับสากล

ก่อนหน้านี้ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ และบริษัทริโว่เมด (ไทยแลนด์) จำกัด มีความร่วมมือระหว่างกันมาระยะหนึ่งแล้ว โดยคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ และ บริษัทริโว่เมด (ไทยแลนด์) จำกัด ได้ร่วมวิจัยและพัฒนา สินค้าและเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น ระบบในการนำส่ง สารสำคัญของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งพัฒนามาจากระบบการนำส่งยา หรือ เทคโนโลยี A-Hance Micro Emulsion Delivery System หรืองานวิจัยผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ลูกหม่อนแบบครบวงจร เพื่อค้นหาสารสำคัญในผลหม่อน เช่น สารแอนโทไซนานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระให้ได้ปริมาณสูงสุดและคงตัว และฤทธิ์ทางชีวภาพต่างๆ เพื่อนำมาใช้ในกระบวนการผลิตเป็นอาหารเสริมและเครื่องสำอาง รวมทั้งสามารถขยายผลในเชิงอุตสาหกรรมต่อไป













กำลังโหลดความคิดเห็น