MGR Online - กลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่หลายคนสนใจหลังจากที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ มีการโพสต์เฟซบุ๊กรูปถุงเงินปึกใหญ่ ในถุงกระดาษ 2 ใบ ซึ่งเชื่อมโยงกับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ก่อนที่ในเวลาต่อมาทางด้านของนายชูวิทย์ จะโพสต์เฟซบุ๊กอ้างว่าเป็นเงินของ "สารวัตรซัว" ที่นำมาให้เพื่อให้หยุดแฉ แต่ตนได้นำไปบริจาคไปหมดแล้ว
ทั้งนี้เมื่อย้อนกลับไปจะพบว่าทางด้านของนายชูวิทย์ได้มีการบริจาคเงินและปรากฏเป็นข่าวสองครั้งด้วยกัน คือหนึ่งในวันที่ 14 ก.พ. 66 จำนวน 3 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการปรับปรุงห้องปฏิบัติการกายวิภาคศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
จากนั้นในวันที่ 15 มี.ค. เจ้าตัวได้มีการนำเงินจำนวน 3 ล้านบาท ไปบริจาคให้กับภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดลอีก
อย่างไรก็ตาม ที่น่าสนใจก็คือการให้สัมภาษณ์ของเจ้าตัวในวันที่ 14 ก.พ. ซึ่งในครั้งนั้นนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดเผยว่าเงินที่ตนนำมาบริจาค รพ.ธรรมศาสตร์ ในวันนี้ตนได้รวบรวมมาจากพรรคพวก "คนที่ทำงานสุจริต" คนที่พร้อมจะบริจาค แต่บุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นนิรนามไม่ต้องการออกหน้าตนจึงขอเป็นตัวแทนนำมามอบให้
เรียกว่าเพียงแค่ระยะเวลาเดือนกว่าๆ เจ้าตัวก็ลืมไปแล้วว่าพูดอะไรไป เพราะมาครั้งนี้กลับยอมรับว่าเงินดังกล่าวนั้นมาจาก "สารวัตรซัว" พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล นายตำรวจที่ถูกเปิดโปงว่าเป็นหัวใหญ่ของเครือข่ายพนันเป็นต่อ เบอร์ใหญ่การพนันออนไลน์นั่นเอง
ย้อนกลับไปเมื่อ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้เดินทางไปที่คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อมอบเงินจำนวน 3 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการปรับปรุงห้องปฏิบัติการกายวิภาคศาสตร์ โดยมี รศ.นพ.ดิลก ภิยโยทัย คณบดีคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นผู้รับมอบ
นายชูวิทย์ เปิดเผยว่า เป็นเจตนาที่บริสุทธิ์ตนเองในฐานะที่เคยเป็นนักศึกษาธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ตอนที่เรียนอยู่ปี 2520 เป็นสถานที่เล็ก ๆ วันนี้ตนเองภูมิใจมีโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ตนจึงขอความช่วยเหลือจากพรรคพวกคนที่ทำงานสุจริต คนที่พร้อมจะบริจาคแต่บุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นนิรนามไม่ต้องการออกหน้าตนเองเป็นเพียงตัวแทน ดังนั้นตนเองขอพูดผ่านไปผู้ใดที่ท่านนำเงินมาบริจาค ตนได้นำเงินมาให้ คณบดีคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการทำกิจกรรมและอุปกรณ์ทั้งหลายที่เกี่ยวกับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ตนเองในฐานะตัวแทนนี่เป็นเพียงเงินขั้นต้น ซึ่งตนตั้งเป้าไว้ว่าจะนำเงินมาให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นจำนวนเงิน 30 ล้านบาท แต่เนื่องจากว่าเป็นการทยอยให้มาทีละส่วน