"ทนายตั้ม" ตั้งโต๊ะดวลหมัดซัด "ชูวิทย์ แฉไป ไถไป" เป็น "โรบินฮูดจอมปลอม" แฉแบบปากว่าตาขยิบ แลกเก็บ GP ฝากคำถามให้ตอบ "วันรับเงินสารวัตรซัว บิ๊กตำรวจที่มาด้วยเป็นใคร รู้จักแทนไทหรือไม่ 50 ล้านรับเป็นเงินสกุลดิจิทัล เข้าบัญชีกล่องดวงใจหรือเปล่า?
วันนี้ (23 มี.ค.66) เวลา 10.15 น. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ออกมาตั้งโต๊ะ แถลงข่าวตอบโต้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โดยเปิดประเด็นถึงกรณีการโพสต์เฟซบุ๊กรูปถุงเงินปึกใหญ่ ในถุงกระดาษ 2 ใบ ซึ่งเชื่อมโยงกับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ก่อนที่นายชูวิทย์ จะโพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงว่าเป็นเงินของ สารวัตรซัว ที่พยายามนำมาให้เพื่อให้หยุดแฉ ตนรับเงินดังกล่าว และนำไปบริจาคต่อไป แห่งละ 3 ล้านบาท โดยมอบให้กับทาง สถาบันการแพทย์จำนวน 2 แห่ง
โดยทนายตั้ม กล่าวว่า "พี่ชูวิทย์เปรียบเสมือนไอดอลคนหนึ่ง เพราะติดตามมาตลอด และบอกกับคนใกล้ชิดเสมอว่า คนแบบพี่ชูวิทย์ เงินซื้อไม่ได้ วันนี้หลายคนอาจคิดว่าตนบ้าหรือเปล่า จู่ๆ มาแฉชูวิทย์ ก็ยอมรับว่าอาจจะบ้าจริง เพราะข้อมูลที่ได้รับมา ทำให้ต้องออกมาถามว่า ทุกการแฉ ทำเพื่อตัวเองหรือสังคม ยอดเงินในถุงตรงนั้นไม่ใช่มีเพียงแค่ 6 ล้าน และไม่ใช่ยอดที่พูดถึงด้วยซ้ำ"
นอกจากนี้ ทนายตั้ม ยังกล่าวอีกว่า "กล่องดวงใจของพี่ชูวิทย์ สนิทกับคนทำพนันออนไลน์และทำบุหรี่ไฟฟ้า แถมเกี่ยวข้องกับกัญชา เวลารู้ว่าใครทำพนันออนไลน์ จะมีเทคนิคเรียกมาที่โรงแรม ก็จะเรียกมาทำบุญ ในรูปต้องดูให้ดี หากถุงลึกจริง ต้องมีข้างในอีกถุงละ 2 ล้าน ปกติตามสไตล์ชูวิทย์ ต้องออกมาแฉแล้ว หากออกมายอมรับ อาจเพราะเขาจำนนท์ต่อหลักฐาน เมื่อวานพูดถึงตำรวจนอกราชการคนหนึ่ง คนนี้คือ นรต.35 สนิทกับพี่ชูวิทย์มาก เป็นคนคอยประสานเรื่องต่าง ๆ"
ขณะเดียวกันในช่วงระหว่างการแถลงข่าวทางทนายตั้ม ได้ยกกระดาษเอกสารจำลองรูปถุงกระดาษที่มีธนบัตรใบละ 1000 บาทมัดรวมกัน มัดละ 1 ล้านบาท จำนวนหลายมัด โดยภาพนั้นแสดงแบบจำลองขนาดของถุงขนาดมาตรฐาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเงินในถุงมีมากกว่าถุงละ 3 ล้าน พร้อมเปิดเผยว่า ข้อมูลถุงเงินนี้ไม่ได้มาจากกลุ่มเว็บพนัน แต่เป็นหลานคนหนึ่งของนายชูวิทย์ โดยตนก็ไม่ทราบสาเหตุที่นำมามอบให้ ซึ่งอาจเป็นเรื่องของความขัดแย้งภายในครอบครัว
"คำถามแรกที่อยากถามพี่ชูวิทย์คือ วันที่รับมอบเงินมีใครไปร่วมอยู่บ้าง เพราะข้อมูลของผม ไม่ได้มีแต่อดีตข้าราชการตำรวจ แต่มีเจ้าของเว็บพนัน คนสนิทสารวัตรซัวไปด้วย และข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่นั่งอยู่ด้วย ถุงที่ถือเข้าไปยอดเงินในถุง 10 ล้าน ไม่ใช่ 6 ล้าน และมีการเรียกเงินเป็นทอดๆ แก๊งนี้เกี่ยวข้องอาบอบนวนลาลิซ่า ที่ซื้อต่อกิจการมาจากเสี่ยกำพล ชูวิทย์ออกมาเล่นเป็นฉากๆ เพราะมีคนพยายามไปขอเงินเพิ่ม แต่เมื่อเขาไม่อยากให้เพราะขอแบบไม่มีลิมิต ลาลิซ่าเปิดได้วันเดียวก็ถูกจับ ส่วนสารวัตรซัว ที่ขยี้ไม่พัก จองเวรไม่หยุด สาเหตุเกิดจากลาลิซ่า ทุกวันนี้นักแฉแต่ละคนมีที่รับเงิน รับจ้าง ผมเสียใจที่ต้องออกมาพูดเรื่องนี้ และเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังเชื่อพี่ชูวิทย์ การแฉเป็นเรื่องที่ดี แต่ที่แฉนั้นมีผลประโยชน์แลกเปลี่ยนแอบแฝงหรือไม่" ทนายตั้มกล่าว
อีกประเด็ที่เป็นคำถามที่ 2 ที่พี่ชูวิทย์ต้องตอบ รู้จัก "แทนไท ณรงค์กุล" หรือไม่ เงินแต๊ะเอียมูลค่กว่า 50 ล้าน เป็นเงินสกุลดิจิทัล โอนเข้ากระเป๋าเงินดิจิทัล เมตาแมสของกล่องดวงใจ ซึ่งตนจะยื่นเรื่องให้ตำรวจสอบสวนกลางเข้าตรวจสอบเรื่องนี้ รวมถึงปมบุหรี่ไฟฟ้าด้วย"
ทั้งนี้หากย้อนกลับไปถึงปมประเด็นการออกมาแฉของนายชูวิทย์ ซึ่งเอ่ยถึงนายแทนไท ในโพสต์วันที่ 26 ม.ค. หลังจากนั้นประเด็นการออกมาแฉก็เงียบหายไป ขณะเดียวกันวันตรุษจีนที่ 22 ม.ค. กล่องดวงใจได้พาแทนไทไปโรงเรมเดวิสจริงหรือเปล่า และหลังจากนั้น "แทนไท" ก็ค่อยๆหายออกไปจากไทม์ไลน์ระบบการแฉ
"ความจริงพี่ชูวิทย์ รู้รายละเอียดทั้งหมดของเว็บพนัน ไซส์เล็ก มาเก๋า แอลยูฟา เอ็กแอลตี๋น้อย แล้วของ "แทนไท" ละไซซ์อะไร การโพสต์ระบุถึงนั้นเป็นการเรียกให้เข้ามาเพื่อแฝงนัยยะบางอย่างหรือไม่"
ทั้งนี้ ทนายตั้มยังกล่าวถึงประเด็นที่คำถามที่ 3 ด้วยโดยเกี่ยวกับทุนจีน โดยทนายตั้มบอกว่าจะมาตั้งโตธแถลงใหม่วันหลัง เพราะท่าทางว่าเกมนี้ยังอยู่อีก ตนเตรียมใจไว้แล้วว้าจะเจออะไร แต่ยอมไม่ได้ให้มี โรบินฮูดจอมปลอม โรบินฮูดเก็บ GP ปากว่าตาขยิบ
