“หนูแหม่ม สุริวิภา” ไม่ได้ลงลึกเรื่องคอนเทนต์ตกอับ แต่ป้อง “อาทิตย์ ริว” ไม่ได้บ้า แนะให้มูฟออนไปหาความสุข ชี้แพชชั่นไม่เคยเปลี่ยน จิตสว่างเพราะธรรมะ
หลังจากที่พิธีกรอารมณ์ดี “หนูแหม่ม สุริวิภา กุลตังวัฒนา” เปิดโต๊ะเคลียร์ให้น้องรักร่วมวงการ เปิดใจทุกเรื่องลับ กลางรายการ “โต๊ะหนูแหม่ม” อัปเดตชีวิตความเป็นอยู่หลังจากไม่เจอกันร่วม 20 ปี ล่าสุดหนูแหม่มได้เผยถึงเรื่องดังกล่าวในงาน ผู้หญิงทำมาหากิน ออนทัวร์ ปี 2 เซ็นทรัล พระราม 2 พร้อมโดดป้องริวของพี่ไม่ได้บ้า
“ก็คือรายการเราคือรายการสด แต่พอดีได้คิวน้องมา เราเลยต้องออกไปถ่ายข้างนอก เราก็อยากรู้ว่าน้องกลับมาในสภาพเป็นริว อาทิตย์ของพี่หรือเปล่า ใครเป็นคนว่ามันบ้า ใครบอกว่ามันสติไม่ดี มันจำสตอรี่ของเราได้หมดเลย มันแฉพี่กลางรายการ มันบอกว่ามันจำได้ทุกเรื่องที่พี่หนูแหม่มว่าพี่บ๊อบบี้ เม้าธ์ว่าดูสิว่ามันมาจีบฉัน ซึ่งเรื่องนี้เรายังจำไม่ได้เลย ก็บอกว่าให้หยุดพูด กลัวว่าจะพูดไปมากกว่านี้ (หัวเราะ) เขาจำได้หมดเลย พอคุยกับน้องเสร็จแล้ว ว่าน้องควรได้รับโอกาส ลึกๆ เรารู้ว่าน้องอยากกลับมายืนตรงนี้ แต่ไม่ได้ต้องการจะกลับมายืนเหมือนวันวานที่ผ่านมา แต่แค่ขอโอกาสให้คนๆ นึง ที่รักการร้องเพลงมาก เราก็เลยรู้สึกว่าอยากให้พื้นที่เขา ไม่จำเป็นต้องให้เท่าเดิม ให้เขาได้ทำตามจิตวิญญาณในสิ่งที่เขาอยากทำ
เมื่อก่อนเราก็เคยได้ยินว่าเขาเป็นแบบนั้นแต่พอเราได้เจอแล้ว จะบอกว่าไม่มีอะไรเหมือนเดิม สมมติว่าถ้าเราอายุอีก 20 ปีข้างหน้า เราก็จะเปลี่ยนไป ของน้องเขาภายนอกเขาเปลี่ยน แต่โดยวิธีคิดกับความรู้สึก และความต้องการข้างในของเขา เขายังมีแพชชั่น อันนี้ไม่เคยเปลี่ยน”
เผยอีกฝ่ายบอกชีวิตเป็นแบบนี้เพราะตัวริวเอง เชื่อจิตสว่างเพราะธรรมะ
“เราว่าเขารู้ตัวว่าเขาได้ทำอะไรลงไป เพราะว่าเขาพูดอันนึงว่าที่จริงที่ชีวิตเป็นแบบนี้ก็เป็นเพราะตัวริวเอง พี่หนูแหม่มคิดว่าธรรมะที่เขาไปศึกษามา ไม่มากก็น้อย มันจะสามารถทำให้จิตของเขา เราถามว่าเขาได้อะไรจากธรรมะ เขาบอกว่าเขาได้จิตที่สว่างขึ้น ได้ความสดใสข้างใน คนเราเจออะไรที่มันมืดมาโดยตลอด แต่พอได้เจออะไรใสๆ แม้มันจะนิดนึงก็ตาม มันก็ดีแล้ว ไม่ใช่เหรอ สิ่งนี้จะหล่อเลี้ยงให้เขากลับมาเป็นตัวเองได้มากที่สุด
ถามว่าหรือเพราะเขาศึกษาธรรมะจนสุดโต่ง จนบางคนมองว่าเขาเพี้ยนไป เราคิดว่าความเป็นซุเปอร์ตาร์ในวัยนั้น บางคนอาจจะต้องหลงกับสิ่งที่มี ที่เป็นอยู่ในตอนนั้น หลงไปในชั่วขณะ มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ และถ้าวันนี้เขากลับมา ในลักษณะที่เขารู้แล้วว่าที่ผ่านมา มันก็แค่นั้นเอง สุดท้ายก็บอกเขาว่าไม่ต้องรู้สึกผิด เพราะคนเราที่มีทรัพยากรในวันนั้นที่ดำรงชีวิตแบบนั้น ถ้าในตอนนั้นเขามีทรัพยากรที่มากกว่านั้น เขาอาจะไม่เจอเรื่องเหล่านั้นก็ได้
แต่การที่ทรัพยากรที่มีนั้น จะทำให้เราพิสูจน์ว่าเรารับมือกับเรื่องเหล่านั้นได้ยังไง ที่หนูแหม่มพูดถึงไม่ใช่แค่ชีวิตริว หมายถึงว่าทุกคนสามารถเจอเหตุการณ์แบบนี้ได้ บางคนที่อยู่ในจุดสูงสุดในชีวิตที่เขาต้องเจออะไรบ้างอย่าง แต่การรับมือของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จึงบอกเขาไปว่าอย่าคิดว่าสิ่งที่เจอมันเป็นปม ให้เขาใช้ทรัพยากรที่มีในวันนี้ แล้วมูฟออนไปข้างหน้า ถ้าคนอื่นมองว่าเขาพลาด แต่หนูแหม่มมองว่าถ้าวันนั้นเขามีสิ่งที่ดีกว่านี้ เขาอาจจะไม่ต้องเจออะไรแบบนี้ วันนี้เราต้องมูฟออน สิ่งที่เราสัมผัสได้คือเขาไม่เอาอะไรที่มืดมาใส่ในชีวิตเขาอีกแล้ว ตอนนี้ก็จะมูฟออนไปหาความสุข เราก็ให้กำลังใจว่าอย่าไปคิดว่าสิ่งเหล่านั้นคือเรื่องที่ผิด หรือว่าเรื่องที่พลาด วันนั้นเรามีแค่นั้น แต่วันนี้เราหยิบเครื่องมือใหม่มาใช้”
เผยวิธีประคองสติ ต้องรู้ตัวให้เร็วที่สุด
“มันขึ้นอยู่กับการรู้ตัวของตัวเอง รู้ตัวให้เร็วที่สุด เราไม่รู้ว่าการที่มีคนรอบข้างคือองค์ประกอบอะไร เราต้องเลือกสิ่งแวดล้อมที่ช่วยเราด้วย อย่างเรา เราไม่ต้องรู้สึกว่าเราต้องมีเพื่อนเยอะ ไม่ต้องปาร์ตี้มาก แต่เรามีแค่คนที่รักเราจริงๆ เพียงไม่กี่คนก็พอ
อย่างริว กำลังมองว่าเราอยากจะเจอริวอีกครั้ง เพื่อจะมูฟออนต่อไป ในความปัจจุบันนี้ริวมองมันยังไง น่าจะมีต่อตอน 2 แต่ที่ยังไม่คุยต่อ เพราะต้องการให้น้องเขาได้ไปใช้ชีวิต กับสิ่งที่ได้รับในปัจจุบันนี้”
แพชชั่นไม่เคยเปลี่ยนไป
“น่าจะเป็นแพชชั่นเขาไม่เปลี่ยนไป บางทีคนดูปัจจุบันกับคนดูยุค 90 ความต้องการอาจจะแตกต่างกันออกไป น้องอาจจะใช้ชีวิตง่ายขึ้น อย่างที่น้องเล่าว่าตอนนั้นต้องทำอะไร ต้องปกปิด ตอนนี้อาจจะใช้ชีวิตได้สบายมากขึ้นก็ได้”
รับไม่ได้ลงลึกเรื่องทำคอนเทนต์ตกอับ
“เราไม่ได้ถามเรื่องนี้ เขาต้องเรียนรู้และรับมือกับเรื่องนี้ให้ได้ ก็แค่เป็นห่วงถามว่าเขาอยู่ยังไง อยู่ได้ใช่ไหม ถามสารทุกข์สุขดิบ ไมได้ถามย้อน ไม่ได้ลงลึก เพิ่งเจอกันครั้งแรกหลังจากไม่เจอนานแล้ว และการที่เราเชิญน้องมา เพราะย้อนกลับไปตอนนั้นเราเป็นเพื่อนบ้านกันในหมู่บ้านเดียวกัน เราไปซื้อบ้าน หลังจากที่เขาอยู่มาก่อนเราแล้ว แต่พอบ้านเราสร้างเสร็จ เราเข้าไปอยู่ อีกสักพักเขาก็ย้ายออกไป
