“เจมส์ จิรายุ” เฉา คุยกับตัวเอง 2 ปี เจอเอฟซีถึงกับพูดไม่หยุด ไม่กล้ารับปากจะคืนกำไรตอบแทนแฟนคลับเพราะล่มตลอด ความรักกับ “โฟม” ยังแฮปปี้ คงคอนเซ็ปต์เดิมไม่หวือหวา ลั่นไม่ลงรูปคู่สวีต แต่คนอื่นเอาไปลงให้เอฟซีเห็นกันเองตลอด ผ่านมาสักระยะคนเริ่มชอบคู่ตนบ้างแล้ว คืบหน้าบ้านหลังแรกในกรุงเทพฯ ผ่านมา 2 ปี เป็นทั้งความภูมิใจและเจ็บใจ ซึ้งแล้วงบบานปลาย
ไม่ได้เจอหน้าแฟนคลับนานกว่า 2 ปี เพราะสถานการณ์โควิด งานนี้ในงานเปิดตัวละครพิศวาสฆาตเกมส์ พระเอก “เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข” ถึงกับพูดไม่หยุด เพราะคิดถึง โอดที่ผ่านมาคุยกับตัวเองมานาน ตอนนี้สถานการณ์เริ่มกลับมาคึกคักแล้ว พร้อมอัปเดตเรื่องสร้างบ้านหลังแรกที่กรุงเทพฯ ที่งบบานปลายไปเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งความรักกับ “โฟม” แฟนสาวนอกวงการ ที่ถึงตอนนี้ก็ยังแฮปปี้
“ถ้าเกิดว่าเต็มๆ อย่างนี้ก็น่าจะมากกว่า 2 ปี คือตอนแรกมันก็มีแต่ว่าด้วยความเข้มงวดที่เราต้องรักษาระยะห่างเลยอาจจะจำกัดคนในการเข้าถึง แต่ตอนนี้มันเริ่มผ่อนคลายแล้วก็ถือว่าเป็นครั้งแรกเลยที่ได้มาเจอกันแบบนี้ คิดถึงเหมือนกัน คิดถึงบรรยากาศนี้มาก ผมก็ได้มีโอกาสไปเอ็นเตอร์เทนเบาๆ แต่พูดไม่หยุดเลยด้วยความที่คุยกับตัวเองมาค่อนข้างนาน(หัวเราะ) วันนี้เลยดีใจที่ได้เจอ ตอนแรกไม่ได้คิดเลยว่าทุกคนยังคิดถึงและยังอยู่ด้วยกัน พอมาเจอกันก็น่ารักและดีใจมากๆ เพราะว่ายังมีอีกหลายคนที่มาไม่ได้
เมื่อกี้ก็มีคนถามเหมือนกันว่าถ้าสถานการณ์ดีขึ้นจะคืนกำไรแฟนคลับไหม ตอนนี้ก็ยังไม่กล้ารับปาก เพราะพอบอกว่ามีทีไรส่วนใหญ่จะไม่มี แต่ถ้าเกิดเราบอกว่าไม่มีครับ อันนี้ก็ไม่แน่มันอาจจะเป็นแบบปุบปับโชว์ไง(หัวเราะ) เพราะแพลนนานๆ ไม่ค่อยรอดสักที จริงๆ ในใจผมก็คิดว่าปีนี้แหละแต่ก็ไม่ได้อยากให้คำมั่นสัญญาสักเท่าไหร่นัก”
บรรยากาศเริ่มกลับมาคึกคักแล้ว
“ตอนนี้เริ่มกลับมาทำงานค่อนข้างเกือบจะปกติ จริงๆ ละครก็ดำเนินการมาเรื่อยๆ แต่ว่าตอนนี้เริ่มมีงานอื่นๆ ที่กลับมาด้วย ผมรู้สึกว่าตอนนี้บรรยากาศในการทำงานมันเริ่มคึกคักขึ้น ทุกคนไม่ได้ดูกังวลมากขนาดนั้นแต่ยังไงก็ยังอยากให้ทุกคนระมัดระวังตัวเองด้วย
ส่วนงานในปีนี้ เอาแน่ๆ เลยก็จะมีละครพิศวาสฆาตเกมส์ ที่จะได้ชมกันต้นเดือนหน้า แล้วเดี๋ยวก็จะมีโปรเจกต์อื่นอีกเยอะ ส่วนงานต่างประเทศก็มีติดต่อมาบ้างส่วนใหญ่จะเป็นอีเวนต์แต่ว่ายังไม่ได้คอนเฟิร์ม”
ความรักกับ “โฟม” ยังแฮปปี้ คงคอนเซ็ปต์เดิม ไม่หวือหวา ผ่านมาสักระยะคนเริ่มชอบคู่ตนบ้างแล้ว ตนอยู่ตรงกลางอยากให้ทุกคนฝ่ายมีความสุข
“ตอนนี้ก็ดีครับ ดีเป็นปกติ ไม่ได้มีอะไรที่ไม่ค่อยดี (คงคอนเซ็ปต์ไม่หวือหวาหรือออกตัวเยอะ?) ใช่ครับ คือของผมก็จะอยู่แบบนี้มาสักระยะหนึ่งแล้ว แล้วก็อยู่กันไปเรื่อยๆ ผมว่าแบบนี้มันก็มีความสุขดี แฮปปี้ ไปไหนมาไหนก็ใช้ชีวิตปกติครับ อย่างเช่นเวลาจะไปทานข้าวหรือไปเที่ยวหรือทำอะไรก็ใช้ชีวิตตามปกติ จริงๆ ก็มีหลายคนที่ชื่นชอบบ้างในคู่ของเรา มันก็เหมือนกับผ่านระยะเวลามาสักระยะหนึ่งแล้วแหละเราก็พยายามทำให้ทุกคนเห็นว่าเราก็สบายใจแบบนี้ แล้วก็พยายามประนีประนอมให้ได้ทุกส่วน คือผมเองก็อยู่ตรงกลางด้วยก็พยามทำให้ทุกคนมีความสุขที่สุด เพราะผมมีอาชีพที่สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคน”
ไม่ลงรูปคู่ในโซเชียล แต่ไม่ห้ามคนอื่นลงให้เห็นเอง
“ครับผม ผมไม่ได้ห้ามใครเลยครับ คือมันเป็นการใช้ชีวิตปกติ ถ้าเกิดมันเริ่มมีการบอกเยอะหรือระแวดระวังเยอะ อันนั้นไม่ได้อันนี้ไม่ได้ มันก็จะไม่มีความสุข คือพอเราทำแบบนี้มันก็ไม่ได้มีอะไร แล้วเราบริสุทธิ์ใจเพราะว่าเราไม่ได้ไปทำผิดอะไรด้วย แล้วก็สะดวกใจที่จะทำ”
คืบหน้าบ้านหลังแรกในกรุงเทพฯ ผ่านมา 2 ปี เป็นทั้งความภูมิใจและเจ็บใจ ซึ้งแล้วมีแต่บานปลาย แต่ตั้งใจให้เสร็จต้นปีหน้า
“คือสร้างบ้านที่กรุงเทพฯ จริงๆ มันเป็นบ้านที่สร้างมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ว่าเป็นหลังแรกที่อยู่ในกรุงเทพฯ เพราะปกติที่ผ่านมาจะอยู่คอนโดฯ ไม่ได้มีบ้าน ถามว่างบบานปลายไปถึงไหนแล้ว คือตอนแรกเราก็ไม่เชื่อเขาหรอกว่าบ้านมันจะสามารถบานปลายได้ขนาดนี้ แต่พอมาเจอจริงๆ มันก็บานปลายได้แบบไม่สิ้นสุดด้วยนะครับ แล้วก็ไม่ใช่บานปลายแค่เรื่องของเงิน แต่บานปลายแม้กระทั่งเรื่องของขนาด ต้องลดต้องเพิ่มตรงนั้นตรงนี้ แล้วระยะเวลามันก็เสียไปเรื่อยๆ เงินมันก็เสียไปเรื่อยๆ เหมือนอย่างที่เขาบอกจริงๆ ว่าทำบ้านมีแต่ความบานปลาย
ผมว่าตอนนี้น่าจะประมาณสองปีครึ่งได้แล้ว แต่คือผมปักหมุดเอาไว้แล้วว่าจะเสร็จต้นปีหน้า แต่ตอนนี้ยังไม่เริ่มตกแต่งภายในเลยก็ไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นไปได้ไหม จริงๆ ก็เป็นความช้าด้วยตัวของเราเองด้วย แต่ก็โทษโควิดไปด้วยส่วนหนึ่ง(หัวเราะ) ส่วนที่บอกว่าดูใหญ่โต อลังการ จริงๆ ก็ไม่ได้ใหญ่มาก กลางๆ ครับ ความตั้งใจก็คือว่าก่อนหน้านี้คุณพ่อคุณแม่ทำบ้านไว้ที่พิจิตรด้วย แล้วก็มีที่นี่ด้วย เวลาเขาขึ้นมาหาหมอหรือมาเที่ยวผมก็ไม่ได้อยากให้เขาอยู่แค่ในคอนโดฯ อยากให้มันมีพื้นที่ไม่ได้รู้สึกอึดอัด บ้านหลังนี้มันเป็นความภาคภูมิใจแล้วก็เจ็บใจในเวลาเดียวกัน(หัวเราะ)”