ทนายเผย “ปอ-โรเบิร์ต” ทำทุกอย่าง ทั้งกราบ ขอโทษ ขอเป็นลูก บวช แต่มีสิ่งเดียวที่ไม่ยอมทำ! ลั่นเริ่มหายไปจากคุณแม๊

รายการ เป็นเรื่องใหญ่ ออนแอร์ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.15 น. ทางช่อง JKN 18 ดำเนินรายการโดย “เพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ” ได้สัมภาษณ์ “ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย” ทนายความ “แม่ภนิดา” กรณีการผ่าชันสูตรรอบ 2 “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” พร้อมโฟนอินหา “ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์” หลังโดนทัวร์ลง

สบายใจขึ้นหรือยังเมื่อวานมีทัวร์ลง?
เดชา : (หัวเราะ) ที่จอดยังมีเหลืออยู่นะ

โดยปกติคนที่มีคดีความแบบนี้สามารถบวชได้มั้ย?
เดชา : ไม่มีกฎหมายห้ามชายไทยบวชนะครับ

มันไม่แปลกเหรอที่ไปบวชอยู่ในจังหวัดราชบุรีซึ่งมีอาณาเขตติดกับพม่า?
เดชา : เหมือนเตรียมพร้อมอะไรหรือเปล่านะ คือตอนนี้เราได้คุยกับทางผู้บังคับการสอบสวนภาค1 แล้วนะครับเรื่องนี้ เขาจะเรียกมารายงานตัวเช่น ทุกอาทิตย์ หรือทุก 5 วันครับ เขามีวิธีการอยู่

เขาบอกว่าเขาจะถือศีล 8 แล้วก็บวชประมาณ 8 วันใช่มั้ย ตามข่าว?
เดชา : ครับ ใช่ครับ

ในมุมมองของทนายเดชาคือต้องการบวชจริงๆ หรือต้องการหลบหน้าให้ข่าวเงียบไป?
เดชา : ถ้าถามผมส่วนตัวนะครับ 2 คนนี้เขาเป็นแค่ผู้ต้องหา ศาลก็ยังไม่ได้ตัดสินถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ เขาอาจทำจิตใจให้มันสงบ ให้ภาพลักษณ์ดูดีขึ้น อาจใช้เป็นเหตุผลในการบรรเทาโทษ หากมีพยานหลักฐานชัดเจนก็สามารถเอาหลักฐานเหล่านี้ไปใช้ได้ครับ

ทนายเดชาได้ไปงานบวชมั้ย?
เดชา : ไม่ได้ไปครับ เขาไม่ได้เชิญผม

ก่อน 2 คนนี้จะบวชคุณแม่ได้ทราบข่าวมั้ย เห็นบอกว่าเป็นลูกรักโทรหาคุณแม่ทุกวันเลย?
เดชา : ทราบครับ แจ้งคุณแม่แล้วครับ

มีคนหลายคนบอกว่าตอนแรกทนายเดชาเนี่ยค้าน เห็นต่างกับคุณแม่ แต่มาวันนี้เห็นเหมือนกัน มันเกิดจากอะไรครับ?
เดชา : การที่ผมกับทนายกฤษณะและคุณแม่เห็นเหมือนกันไม่ใช่เรื่องแปลกครับ เพราะลูกความกับทนายความและทนายที่ทำด้วยกันถ้าเห็นต่างกันคงทำงานด้วยกันไม่ได้หรอกครับ อันนี้หลักของวิชาชีพของทนายความเลย

ในมุมมองเรา คิดว่าเป็นอุบัติเหตุไม่ได้เป็นการจงใจหรือเปล่า?
เดชา : คือการเป็นทนายความในคดีเนี่ย เราเป็นนักกฎหมายเราต้องดูที่พยานหลักฐานนะครับ ผมได้คุยกับพนักงานสอบสวนได้คุยกับตำรวจภูธรภาค 1 พยานหลักฐานในชั้นนี้ข้อหาที่แจ้งไปแล้วและหลักฐานที่รับรองข้อหาคือมาตรา 291 คือประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตอนนี้มีแค่นี้ครับ

ตัวประมาทถ้าไม่เคยต้องโทษหรือทำความผิดส่วนใหญ่จะรอลงอาญามั้ย?
เดชา : ถูกต้องครับ แต่ต้องมีการเยียวยานะและต้องสำนึกก่อนโดยการรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา คดีนี้ผู้ต้องหาทั้งสองคนไม่ได้รับสารภาพนะ ถ้าสู้คดีไปก็จำคุกครับ โดยทั่วไปประมาณ 3 ปีไม่รอนะ

ถ้าสารภาพใช่มั้ยถึงจะมีการลดโทษหรือลงอาญา?
เดชา : ใช่ครับ ลงโทษจำคุกประมาณ 3 ปี ปรับ 1 แสน แล้วก็เยียวยา อาจบำเพ็ญประโยชน์บ้าง

ผมแปลกใจที่วันแรกๆทั้งสองคนไปที่สถานีตำรวจภูธร นนทบุรี เขาไปขอโทษที่ทำเพื่อนตาย แต่พอขึ้นศาลกลับกลายเป็นว่าไม่ยอมรับผิดไม่ยอมรับสารภาพ?
เดชา : ถูกต้องครับ ทุกวันนี้ผมอยากจะใช้คำพูดว่า คุณปอกับคุณโรเบิร์ตเนี่ย ทำทุกอย่างทั้งกราบ ทั้งขอโทษ ทั้งขอเป็นลูก ออกบวช ทำทุกอย่างเลยแต่ไม่ทำอย่างเดียวที่สำคัญเลย คือไม่ยอมรับสารภาพต่อพนักงานสอบสวน
นั่นหมายความว่าเขาจะสู้ใช่มั้ย?
เดชา : คือตอนนี้เขาให้การปฏิเสธแบบภาคเสธ คือรับสารภาพบางส่วน ปฏิเสธบางส่วน เท่ากับปฏิเสธ ยอมรับว่าขับเรือ แต่ไม่ยอมรับว่าประมาท ไม่ยอมรับว่าทำให้แตงโมตายนะครับ

ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่ใช่อุบัติเหตุแล้วสิครับ ก็เข้า 291 อย่างที่ทนายเดชาว่า?
เดชา : ครับ คำว่าอุบัติเหตุมี 2 อย่างนะ อุบัติเหตุแบบที่ต้องมีคนรับผิด กับ อุบัติเหตุแบบที่ไม่ต้องมีคนรับผิด แบบที่ ผบ.ตร. กล่าวนะครับ ในกรณีนี้เป็นอุบัติเหตุแบบที่ไม่ได้เจตนาเรียกว่าอุบัติเหตุที่ต้องมีคนรับผิดชอบก็คือ 2 คนนี้แหละครับ

เขาต้องการสู้ทางนี้เพราะว่าอะไรครับ?
เดชา : เพราะว่าตำรวจตั้งข้อหานี้ไงครับ ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

ก็คือถ้าเขารับ ถ้าศาลไม่รอลงอาญาก็คือติดคุกเลย?
เดชา : แน่นอนครับ ถ้าสู้คดีติดคุก 100 เปอร์เซ็นต์ครับถ้าสมมติเขาทำผิดจริงนะ ถ้านำสืบได้

ผมได้ยินข่าวมาว่าตอนนี้จะไม่มีการผ่าพิสูจน์รอบ 2 ในเร็วๆนี้หรือเปล่าครับ?
เดชา : จะมีการประชุมคณะกรรมการนิติวิทยาศาสตร์ ตามมารตรา 10 มาตรา 5(4) ในวันศุกร์นี้ หลักจากนั้นกรรมการนิติวิทยาศาสตร์ก็จะอนุมัติทันทีในวันศุกร์ และมีการผ่าวันอังคารหน้าครับ

ทนายเดชาเองได้เห็นสภาพการผ่ามั้ยว่ามีผิดปกติตรงไหนบ้าง?
เดชา : ตัวผมกับคุณแม่ไม่มีความประสงค์ที่จะดูศพนะ เพราะมันไม่สบายใจครับ เราดูจากภาพที่ถ่ายจากศพมันก็เหมือนกันครับ เพราะว่าหมอนิติเวชเขาถ่ายมาจากศพ ไม่มีภาพปลอมไม่มีฟันปลอมอะไรหรอกครับ ก็อยากบอกโซเชียลนะครับว่าให้เกียรติแพทย์บ้าง ท่านอยากเป็นผู้มีเกียรติแต่ท่านชอบด้อยค่าลดเกียรติผู้อื่น

เมื่อวานนี้มีทัวร์ลงทนายเดชาเยอะมาก สรุปคือ ฟันมีครบ หรือฟันหัก หรือฟันบิ่นครับ?
เดชา : ฟันครบหมดเลยครับ เขาเปิดภาพให้ดูฟัน ดูรากฟัน ดูเอกซเรย์ ดู CT SCAN ทุกอย่างครบ ไม่มีบิ่น ไม่มีหัก

แล้วที่มีกู้ภัยบางคนบอกว่ามีฟันกรามหายไปเหมือนกับโดนกระทบจนหลุดไป?
เดชา : ไม่มีครับ ไม่เป็นความจริงครับ ส่วนถามว่าทำไมเขาพูดแบบนั้นก็ต้องไปถามเขาเองนะครับ เขาต้องรับผิดชอบกับสังคมเอง อันนี้ผมเห็นกับตา ผมไม่รู้ว่าจะโกหกไปเพื่ออะไร ผมคนมีวิชาชีพทนายความนะครับ
แล้วบาดแผลต่างๆ มีตรงจุดไหนมั้ยที่ติดใจ?
เดชา : จริงๆ แล้วจากที่เราฟังหมอนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เราเคลียร์ทุกประเด็นทั้งผมและคุณแม่ ทั้งทนายกฤษณะ ทุกคำถามที่คุณแม่สงสัยที่เอามาจากโซเชียล เรานำไปถามคุณหมอหมดทุกคำถามครับ เราเคลียร์หมดเขาเปิดให้ดูทุกคำถาม ไม่มีสงสัยอะไรเลย แต่เราได้ยื่นเรื่องต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมไว้แล้ว และเราต้องการผ่าเผื่อจะเจอพยานหลักฐานใหม่ และเพื่อให้สังคมที่สงสัยจะได้รู้ความจริงว่าหมอนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจบกพร่องหรือไม่อย่างไร แค่นั้นเองครับเราไม่ติดใจอะไรแล้ว

ถ้าญาติไม่ติดใจแสดงว่าเราทำตามกระแสสังคมหรือเปล่า?
เดชา : ก็ทำตามกระแสสังคมและทำตามความต้องการของแม่ผู้เสียหายครับ ซึ่งสามารถทำได้ เผื่อถ้าผ่าซ้ำแล้วเจอพยานหลักฐานใหม่ อาจเจอมุมมองของแพทย์ใหม่เพื่อประกอบการแจ้งข้อหาเพิ่ม

ถ้าเจอประเด็นใหม่ก็หมายความว่าสามารถดำเนินคดีได้ถูกมั้ย?
เดชา : ก็แจ้งข้อหาเพิ่มเลย ผมคุยกับพนักงานสอบสวนแล้ว แจ้งทันทีเลย เช่น ฆ่าคนตายโดยเจตนา เป็นต้นครับ

แล้วถ้าผ่ารอบ 2 หลักฐานยังเป็นเหมือนเดิมแล้วสังคมยังเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม แล้วยังมาทัวร์ลงทั้งคุณแม่ทั้งทนายทั้ง 2 ท่าน พี่เดชาจะทำยังไงครับ?
เดชา : ผมปล่อยไปเลยครับ ผมไม่เคยกลับไปคิดเลยเสียเวลาผมมากเลย ผมไม่เคยให้ความสนใจกับพวกเกรียนคีย์บอร์ดเลย จะเอารถทัวร์รถอะไรต่างๆ ผมเตรียมที่จอดไว้หมดแล้ว

ทนายเดชาไม่ค่อยกลัวเพราะผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ แต่ทนายกฤษณะเพิ่งจะมารับคดีใหญ่ๆ ถ้าเป็นแบบนั้นเนี่ยทัวร์ลงด่าเช้าด่าเย็นทำไง?
กฤษณะ : ตอนนี้ผมมีคุณพ่อท่านที่ 2 แล้ว ก็ได้พูดคุยได้เตรียมตัวกันเรียบร้อยแล้วครับ ไม่มีปัญหาครับพร้อมทำงานต่อ ผมมีคุณพ่อหรือหัวหน้าทีมผมที่ดี

พี่กฤษณะพูดแบบนี้เหมือนพี่เดชาเป็นผู้ช่วยใช่มั้ย?
กฤษณะ : อย่าอย่างนั้นดีกว่าครับ เป็นแม่ทัพดีกว่า แต่ตามกฎหมายแล้วเป็นที่ปรึกษาทนายหลัก

ในแนวทางการทำงานแบบนี้กระแสสังคมกับข้อมูลนิติวิทยาศาสตร์ที่ได้รับมามันแตกต่างกันแล้วถ้าคดีนี้ยังเป็นแบบนี้ต่อไป ผมเกรงว่าคุณแม่และทนายเองจะตกเป็นจำเลยสังคม?
เดชา : คือผมไม่เคยแคร์เลย ผมเข้ามาเป็นทนายความเป็นที่ปรึกษาให้กับคุณแม่พร้อมกับน้องกฤษณะก็คือมีหน้าที่หาคนผิดมาลงโทษแล้วก็ชนะคดีในชั้นศาล ผมไม่สนใจพวกโซเชียลเลยเอาอย่างนี้แล้วกัน

กฤษณะ : คือผมเองยังยืนยันคำเดิมว่าความจริงก็คือความจริง เราเห็นมาด้วยกัน ส่วนประเด็นอื่นเดี๋ยวก็จะมีผ่าครั้งที่ 2 ซึ่งวันนี้ก็เพิ่งรับโทรศัพท์มาว่ากระทรวงยุติธรรมก็ได้จัดตั้งคณะกรรมการเป็นที่เรียบร้อย แล้วก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็ว่าพรุ่งนี้ให้มีการผ่าได้เลย บ่าย 2 โมง จากตอนแรกที่ตั้งใจว่าเป็นสัปดาห์หน้า

สำหรับเรื่องบาดแผลที่พี่เดชาว่ามีหลักฐานเด็ดมันคืออะไรครับ?
เดชา : บาดแผลอะไรครับ

ที่พี่บอกในทีวีรายการอื่นว่าพี่มีหลักฐานเด็ดถ้าเปิดมาแล้วคดีจะพลิกได้?
เดชา : อ๋อ เป็นหลักฐานในกระบวนการสอบสวนที่เขากำลังรวบรวมอยู่ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ก็เป็นหลักฐานที่มีคุณค่าในการพิสูจน์ พวกวงจรปิด พวกคลิปที่เป็นต้นฉบับอะไรพวกนี้

เป็นหลักฐานที่สามารถเอาคนผิดมาลงโทษได้?
เดชา : ทุกวันนี้ก็เอาคนผิดมาลงโทษได้แล้ว แต่จะทำให้แน่นหนาหนักแน่นครับ

พรุ่งนี้ที่จะผ่าเราได้เน้นไว้มั้ยว่าจุดไหนที่สงสัยหรือควรเน้นเป็นพิเศษ?
กฤษณะ : พอดีได้โทรศัพท์หาคุณแม่เมื่อสักครู่นี้นะครับ ก็คุณแม่ยังไม่รับสายพอดีมีอาการป่วยนิดหน่อย ว่าจะเรียนปรึกษากันก่อน ที่คุยกันเมื่อวานคุณแม่ก็ยังคงคำถามเดิมที่จะถามให้แน่ใจอีกครั้งนึง ตรงนั้นคุณแม่ก็ได้เขียนรายการบางส่วนแล้วเพื่อความสบายใจและเพื่อความแน่ใจ

คุณแม่คิดว่าเป็นอุบัติเหตุหรือเปล่าครับ?
กฤษณะ : คือที่ได้คุยกับคุณแม่ที่คุณแม่ได้เห็นภาพและได้ฟังจากพนักงานสอบสวน คือเราจะแยกเป็นพนักงานสอบสวนและแพทย์นิติเวช เขาก็ตอบชัดเจน แต่ในส่วนที่ยังตอบไม่ได้เพราะยังต้องรอตรวจสอบพยานหลักฐานอีก ประมาณ 19 รายการ ส่วนในทางแพทย์นิติเวชเขาก็ได้แจ้งสิทธิให้เราทราบก่อนว่าจะให้ทนายเดชากับผมเข้ามาร่วมรับฟังมั้ย จะดูสภาพศพมั้ย หรือจะดูรูปภาพ

โดยส่วนตัวพี่เห็นแล้วยังมีข้อสงสัยในคำอธิบายของตำรวจมั้ย?
กฤษณะ : คือในคำอธิบายของตำรวจผมยังไม่มีอะไรสงสัย แต่มีคำถามฝากไปในเรื่องของบคราบเลือดบนเรือ ตอนนี้ทางคำตอบมันเป็นในรูปคดีของเรา เราคงไม่เปิดเผยในเรื่องนี้นะครับ ในส่วนของแพทย์นิติเวชก็ไล่เรียงลำดับได้ชัดเจน แล้วภาพที่ออกมาก็เหมือนท่านเดชาพูดนั่นคือความจริง แต่ว่าเราจะนำไปใช้ในชั้นศาล ผมกับทนายเดชาก็หารือกันว่าจะนำอะไรไปใช้

แล้วแผลใหญ่ที่ต้นขาเรายังมีข้อกังขามั้ย?
กฤษณะ : ถ้าถามผมผมเองก็อยากรีเช็กอีกครั้งนึงเหมือนกัน แต่เท่าที่คุณหมอให้ดูมันเป็นเส้นเอ็นยังไม่ถึงกระดูก แต่เขาก็ยังยืนยันว่าแผลตรงนี้เกิดจากของมีคม ก่อนที่น้องโมจะเสียชีวิต

ตอนนี้มีคลิปออกมาเยอะมาก และผมได้ยิน ส.ส.เต้ ว่าเป็นคลิปที่กำลังทำร้ายกันในเรือ มีขวดไวน์ตี อยู่กันบนเรือ 6 คน เราได้เห็นคลิปนี้มั้ยครับ?
กฤษณะ : เห็นครับ ตำรวจก็กำลังพิสูจน์อยู่ แต่จากการพิสูจน์เบื้องต้นเนี่ยเหมือนว่ามีเขาไม่ได้ตอบว่ามันมีการตัดต่อหรือเปล่า อันนี้ผมจะพูดมากไม่ได้ เพราะผมต้องเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานสอบสวน ถ้าเปิดหมดมันก็เหมือนเปิดให้ฝ่ายตรงข้ามได้ฟัง

มีสักคลิปมั้ยที่เรามั่นใจว่าอันนี้ชัดเจน?
กฤษณะ : คือคลิปอยู่ที่พนักงานสอบสวนหมดเลย เขายังไม่ให้เราดูเลย เขากำลังคัดกรองอยู่ว่าคลิปไหนมันใช้ได้หรือไม่ได้

แล้วเขาได้บอกเรามั้ยครับว่ามันมีนะ คิดว่ามันน่าจะใช้ได้?
กฤษณะ : ยังไม่ได้บอกครับ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนคัดกรองอยู่ว่าอันไหนเท็จอันไหนจริง

พี่คิดว่ามันช้าไปมั้ย เพราะเวลามันล่วงเลยมา 20 กว่าวันแล้ว?
กฤษณะ : คือถ้าพูดตามหลักผมก็เพิ่งเข้ามา แต่ถ้าดูว่ามันช้ามันเร็วมั้ย ถ้ามันช้าแล้วมันเกิดประโยชน์แล้วมันมีผลดีสำหรับเราอันนี้ผมไม่ว่าอะไร แต่ถ้าช้าแล้วมันเสียประโยชน์มาขึ้นอันนี้ต้องกลับมาทบทวนอีกครั้งนึง อันนี้ผมอยากให้เร็วแล้วก็ชัวร์ หรือช้าแต่ต้องชัวร์ แต่ว่าทางบ้านอาจใจรอนกัน แต่ขั้นตอนของทางราชการมันมีขั้นตอนนะครับ

แล้วสำหรับพยานมีใครที่ให้ข้อมูลแล้วน่าสนใจ เอาไปประกอบในคดีได้บ้างบครับ?
กฤษณะ : ตอนนี้การสอบปากคำเก็บไว้ในสำนวนหมดเลย ซึ่งผมก็คงต้องปรึกษาทนายเดชาอีกครั้งนึง ว่าเราจะเข้าไปดูในช่วงที่เขาสั่งฟ้อง และไปขอดูกับท่านอัยการ ซึ่งมันเป็นสิทธิของผู้เสียหายที่จะขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม แต่ก็ต้องดูข้อกล่าวหาก่อนนะครับในการแถลงปิดคดี แต่ตอนนี้ยังปิดไม่ได้ ยังไม่กล้าฟันธงลงไป แต่ก็ต้องดูในสำนวนอยู่แล้ว

แล้วคิดว่ามีการออกหมายจับเพิ่มมั้ย?
กฤษณะ : อันนี้ไม่แน่นะครับ เพราะว่าอีก 19 รายการยังไม่ได้สรุป

ผมเห็นในงานศพคุณแซนก็ไป และก็ให้สัมภาษณ์ว่า ก็พูดไปแล้วแล้วก็ไม่เชื่องั้นก็ไม่พูดดีกว่า?
กฤษณะ : ถ้าพูดตรงๆ คุณแม่ก็ยังยืนยันว่าทุกคนบนเรือโกหก คุณแม่ก็ยังไม่เชื่ออะไรเลย

แต่คุณแม่บอกว่าคุณปอคุณโรเบิร์ตเป็นลูกแม่แล้วนะ?
กฤษณะ : คือเป็นลูกคุณแม่ก็จริงแต่ในทางให้เกียรติซึ่งกันและกันเฉยๆ แต่ทางผมเองก็มีโอกาสได้ใกล้ชิดคุณแม่ และกันไว้ตลอด ผมพยายามขอร้องว่าถ้าเข้ามาแบบนี้มันเสียรูปคดีของผม ผมขออนุญาตว่าอย่าเพิ่งเข้ามาในลักษณะนี้เลย

ตอนนี้มีกระแสว่าจากตอนที่เคยโทรหาคุณแม่ทุกวัน ตอนนี้หายไปแล้ว เทแล้ว เพราะว่าคดีมันไม่ใช่ทางอุบัติเหตุ?
กฤษณะ : คือตรงนี้มันเป็นสิทธิของผู้ต้องหาอยู่แล้ว เขาต้องมีทนายอะไรในการให้คำปรึกษาอยู่แล้ว แต่ส่วนผมให้การแนะนำคุณแม่ว่ามันไม่สมควรที่จะทำแบบนั้น ท่านทนายเดชาก็กำชับมาตลอดว่าให้ดูแลแม่ดีๆ อย่าให้คุณแม่ไปพูดคุยอะไรกับเขา ถ้าตัดได้ก็ตัดไปก่อน เพราะว่ารูปคดีมันเสียจริงๆ แต่ว่าคุณแม่ก็เข้าใจแล้วและบอกผมว่าจะไม่ติดต่ออีกแล้ว
ตอนนี้เขาได้มีค่าเสียหายเบื้องต้นมาหรือยังครับ?
กฤษณะ : ไม่มีครับ เท่าที่ถามแม่ไม่มีจริงๆ ไม่เยียวยาเลย เพราะผมแจ้งแม่แล้วว่าถ้ามีอะไรต้องมาบอกผมตามความจริง ผมกับท่านเดชาไปตายกันบนศาลเลยจริงๆ ทุกอย่างลูกความจะต้องไว้ใจและเชื่อมั่นในตัวทนายด้วย ถ้าเกิดคุณแม่ปิดบังแล้วมาเปิดในศาลเราเสียเลย

แม้ว่าการชันสูตรจะเลื่อนมาให้เร็วขึ้น แต่คนก็ยังไม่เชื่อ เรามีแนวทางจะทำอย่างไรต่อครับ?
กฤษณะ : ผมอยากให้เชื่อมั่นในอาชีพของทั้งทนายเดชาแล้วก็ผมนะครับ คือผมเดินหน้ามาถึงขนาดนี้แล้ว ผมบอกตลอดว่าผมถอยหลังไม่ได้แล้ว ถึงผมตกแล้วผมก็จะจมไปเลยถ้าเกิดจะถอยหลัง อยากให้เชื่อมั่นนะครับทนายเดชาท่านเป็นคนตรงไปตรงมา เห็นอะไรก็พูดตรงๆ ไม่อ้อมค้อม ผมเองบางทียังโดนด่าเลย ท่านเตือนและสอนผมตลอด ผมนับถือท่านเหมือนพ่อไปแล้วตอนนี้

แต่ชาวบ้านเขามองว่าทนายเดชาไม่ค่อยเชื่อ แต่พอมาเป็นฝั่งทางนี้เชื่อเลย?
กฤษณะ : ท่านสังเกตมั้ยครับว่าตอนผมเข้ามาทำคดีนี้ทัวร์ลงผม ตอนนี้ท่านเชื่อมั่นในตัวผมแล้วยังครับว่าผมกำลังเดินหน้า ผมไม่เคยคิดแม้กระทั่งเรื่องความปลอดภัยตัวเอง พยายามหาหลักฐาน ความจริงคือความจริง บางทีทางบ้านอาจไม่ค่อยเข้าใจ แต่อย่าลืมนะครับว่าทนายมีคลิปนะครับ เก็บข้อมูลมันอาจไปเปิดในศาล เราจะมาเปิดเผยตรงนี้เราเสียเปรียบ