แม้จะเป็นหนังของปี 2016 แต่ล่วงมาถึงปีนี้หนังอย่าง DANGAL ก็ยังน่าดู สมควรดู และต้องดูให้ได้สำหรับใครที่ยังไม่เคยดู เพราะหนังอินเดียเรื่องนี้โดยส่วนตัวของผู้เขียน ต่อให้วันเวลาผ่านไปอีกหลายสิบปีก็ยังเป็นหนังดียืนหนึ่งอยู่ในใจกระทั่งตายอีกเรื่องเลยทีเดียว
เอาแค่ฉากเปิดเรื่องที่นักแสดงเอกอย่างอาร์เมียร์ ข่าน อยู่ในร่างกายที่ล่ำบึ้กก่อนจะกลายสภาพเป็นชายลงพุงนั่นก็แสดงให้เห็นคุณภาพของหนังเรื่องนี้ว่ามีความพิถีพิถันรับประกันคุณภาพได้ปานไหน
อย่างไรก็ตาม บอกกันไว้แต่เนิ่นๆ ว่าใครที่ชอบดูหนังกระชับฉับไวคงต้องตระเตรียมใจไว้ล่วงหน้า เนื่องจาก DANGAL มีเนื้อหาหนึ่งในอีกหลายเนื้อหาที่ซ่อนไขว้กันไว้อย่างสอดรับ นั่นคือความ ‘อดทน’
อดทน เพียรพยายามเช่นเดียวกับที่ ‘มหาเวียร์ ซิง’ รับบทโดยอาร์เมียร์ ข่าน ในฐานะนักแสดงเอกพ่วงรวมกับการทำหน้าที่เป็น ‘ผู้ควบคุมการผลิต’ ของหนังเรื่องนี้อีกสถานะหนึ่งได้พิสูจน์ให้เห็นนั่นเอง
กล่าวสำหรับอาร์เมียร์ ข่าน หนังเรื่องไหนที่เขาร่วมแสดงยังต้องเปิดช่องให้เขาเข้าไปมีส่วนร่วมใน ‘หัวใจ’ ของหนังเรื่องนั้นๆ ด้วย ฉะนั้นหนังทุกเรื่องที่นักแสดงนามนี้มีส่วนร่วมจะต้องฉายฉานประเด็นอันเป็นมนต์เสน่ห์ชนิดลืมไม่ลง
โดยเฉพาะการย้อนแย้งความเชื่อ ความศรัทธา ความคิด ทางขนบธรรมเนียมวัฒนธรรม ประเพณี สิทธิเสรีภาพ รวมถึงเพศสภาพที่แหลมคม ลุ่มลึก และพุ่งเข้าสู่เป้าหมายได้อย่างชะงัด
ดูให้ถึงตอนที่ตัวละครเรียก ‘มหาเวียร์ ซิง’ ไปพูดคุยต่อหน้า ‘โค้ช’ ถึงปัญหาของตัวลูกสาว
เท่านี้คนดูอย่างเราๆ ก็ ‘จุกอก’ แล้วครับท่าน
ความเติมเต็มให้กันและกันของครอบครัวหนึ่งจากรัฐเล็กๆ ที่ต่างคนต่าง ‘พร่อง’ มีทั้ง ‘เผด็จการ’ มีทั้ง ‘เสรีภาพ’ มีทั้งความเป็น ‘ชนบท’ มีทั้งความเป็น ‘เมือง’ ทว่าแต่ละเรื่องราวกลับ ‘เอื้อ’ ซึ่งกันและกันจนแปร ‘ฝัน’ ให้ ‘เป็นจริง’
เหนือยิ่งสิ่งใด คือสั่นสะเทือนไปทั้งอินเดีย และแน่นอนว่าทั่วทั้งมุมโลก
DANGAL เป็นหนังที่ผู้กำกับอย่าง Nitesh Tiwari ใช้เวลายาวนานพอสมควรกับผู้ดูของเขา กระนั้นกลับไม่ยาวนานเท่ากับความตราตึงถึงหนังเรื่องนี้ของคนที่ได้ดู
ผู้เขียนเชื่อเช่นนี้