นับเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของวงการบันเทิงบ้านเราอีกครั้ง กับการจากไปของนักแสดงวัยย่าง 78 ปี “ไพโรจน์ ใจสิงห์” ในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาของวันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564
หากจะมองหาชีวิตคนบันเทิงสักคนหนึ่งที่มีครบทุกรสชาติ แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นจะต้องมีชื่อของนักแสดงอาวุโสผู้จากไปคนนี้รวมอยู่ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย
“ไพโรจน์ ใจสิงห์” เกิดเมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2486 ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ จบการศึกษาจากโรงเรียนฝึกหัดครูพลานามัย เคยเป็นครูที่โรงเรียนสารวิทยา และโรงเรียนอำนวยศิลป์พระนครมาหลายปี
โดยในระหว่างการสอนหนังสือ เจ้าตัวก็ได้หารายได้พิเศษเล่นดนตรีตอนกลางคืน ก่อนเข้าสู่วงการครั้งแรกในปี พ.ศ. 2514 โดยรับบทพระเอกจากเรื่อง “ดวง” ของ “เปี๊ยก โปสเตอร์” คู่กับ “วนิดา อมาตยกุล”
จากนั้นก็มีโอกาสได้ทำงานกับผู้กำกับฝีมือดีในยุคนั้นหลายต่อหลายคน และมีผลงานภาพยนตร์ตามออกมาอย่างต่อเนื่อง ประกบคู่กับนางเอกดังแห่งยุค ทั้ง อรัญญา นามวงศ์, นัยนา ชีวานันท์ ฯลฯ มีผลงานออกมามากมาย ความโด่งดังของไพโรจน์นั้นจัดได้ว่าเป็นพระเอกชั้นแนวอันดับต้นๆ ร่วมกับ สมบัติ เมทะนี, ยอดชาย เมฆสุวรรณ, กรุง ศรีวิไล, นาท ภูวนัย ฯลฯ
โดยทางด้านของนักแสดงอาวุโสเคยให้สัมภาษณ์ถึงเส้นทางในวงการบันเทิงของตนเองส่วนหนึ่งไว้ว่า...“เมื่อก่อนตอนกลางคืนก็เล่นดนตรี กลางวันก็สอน ช่วงวัยรุ่น(ยิ้ม) เล่นกีตาร์เบสครับ(ยิ้ม) เพลงที่เล่นในสมัยนั้นก็เยอะ ดังๆ ก็เดอะบีเทิลส์ เอลวิส กำลังวัยรุ่นเลย ช่วงนั้นใช้ชื่อชาร์มมิ่ง บอยส์”
“เล่นดนตรีจนคุณเปี๊ยก โปสเตอร์ มาทาบทามให้ไปเล่นหนัง ตอนนั้นก็คุยกันนิดๆ หน่อยๆ เล่าเรื่องให้ฟัง ถามว่าหล่อไหม พอเป็นพระเอกได้มั้ง(ยิ้ม) ตอนนั้นอายุประมาณ 19-20 ปี เป็นพระเอกก็ยังนึกอยู่ แต่ก่อนใครเล่นหนังเรื่องเดียวก็ดัง ก็เลยลองดู ให้ไปเป็นพระเอก เลยไปเป็นพระเอกตั้งแต่นั้นมา”
“เล่นเรื่องดวง ก็เป็นชีวิตเด็กบ้านนอก เรื่องเกี่ยวกับดวง หนังสมัยก่อนมันต้องมีบู๊ประกอบ เล่นกับคุณวนิดา อมาตยกุล ก็ประทับใจเรื่องดวงนี่แหละ เหมือนชีวิตคนคนหนึ่งในหนังแล้วก็เหมือนชีวิตจริงๆ ดวงจริงๆ ดังขนาดนั้น มีเงิน มีทอง มีรถเก๋ง
นางเอกที่ประทับใจก็คุณนัยนา คุณเพชรา ถามว่าดังแค่ไหน สมัยก่อนดาราก็ต้องมีแจกรูป ก็เตรียมไว้แจกเลย เซ็นลายเซ็นด้วย(ยิ้ม)” (ที่มา : “ไพโรจน์ ใจสิงห์” รำลึกความหลัง ครั้งหนึ่งที่เคยรุ่งโรจน์)
นอกจากนักแสดงแล้วเขายังมีความสามารถในการทำหน้าที่ผู้กำกับภาพยนตร์โดยมีผลงานอออกมาอย่าง ลูกหลง (2528), ราชสีห์หน้าเซ่อ (2531), รอยไถ (2532)
ในช่วงที่วงการหนังไทยเริ่มเข้าสู่ภาวะซบเซา เจ้าตัวก็หันมารับงานในวงการละครเหมือนกับดาราจอเงินคนอื่นๆ ขณะที่บทบาทก็เริ่มจะเปลี่ยนไป จากพระเอกมาเป็นพระรอง และตลก แต่กระนั้นส่วนใหญ่ก็ล้วนแล้วแต่เป็นตัวหลักที่สร้างสีสันให้แก่ผลงานนั้นๆ แทบทั้งสิ้น
ตลอดชีวิตในการทำงานวงการบันเทิงของเขานั้น ไพโรจน์ ใจสิงห์ มีผลงานออกมามากมาย ประกอบไปด้วยผลงานภาพยนตร์ 180 เรื่อง, กำกับภาพยนตร์ 3 เรื่อง ผลงานละคร 299 เรื่อง (แบ่งเป็น ช่อง 3 จำนวน 54 เรื่อง, ช่อง 5 จำนวน 30 เรื่อง, ช่อง7 จำนวน 59 เรื่อง, ช่อง 9 จำนวน 9 เรื่อง, ไอทีวี 2 เรื่อง, ช่อง 11 จำนวน 1 เรื่อง, ช่อง เวิร์คพอยท์ 1 เรื่อง) ผลงานซิตคอม 3 เรื่อง, มิวสิกวิดีโอ 3 เพลง และผลงานโฆษณาอีกบางส่วน
ชีวิตส่วนตัว ไพโรจน์แต่งงานกับนางโชติรส ใจสิงห์ หรือ “นก” มีบุตรด้วยกันทั้งหมด 9 คน ส่วนจุดพลิกผันของชีวิตก็น่าจะมาจากการที่เจ้าตัวล้มป่วยในช่วงปี 2555 ทั้งความดันโลหิตสูง เส้นเลือดในสมองตีบ กล้ามเนื้ออ่อนแรง หัวใจและต่อมลูกหมากโต กระทั่งทำให้เป็นอัมพฤตซีกซ้าย
โดยหลังจากนั้นมีข่าวดรามาตามออกมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ที่ภรรยาของเจ้าตัวได้โพสต์ข้อความผ่านสังคมออนไลน์ขอความช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายของครอบครัว ทั้งค่าดูแลรักษาผู้เป็นสามี ค่าเช่าบ้าน เนื่องจากธุรกิจผ้าขนหนูเยื่อไผ่ชุดสังฆภัณฑ์ที่เป็นรายได้หลักของครอบครัวนั้นไม่ดีนัก
ในตอนนั้นเองได้มีทั้งคนในวงการและนอกวงการยื่นมือเข้าช่วยเหลือกันมากมาย แต่ขณะเดียวกันก็มีบางส่วนนำเรื่องนี้มาแสดงความเห็นในเชิงลบ มีบางคนถึงขนาดที่วิจารณ์ต่อว่าเจ้าตัวว่าเป็นดาราขอทาน ขณะที่บางส่วนก็ตั้งข้อสงสัยถึงเงินช่วยเหลือว่าถูกนำไปใช้ผิดประเภทหรือไม่ เพราะในช่วงนั้นภรรยาของเจ้าตัวได้มีการบวชชีและโพสต์ถึงการจัดตั้งสำนักปฏิบัติธรรม
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ล้มป่วยหนัก อาการโดยรวมของนักแสดงอาวุโสก็มีแต่ทรงกับทรุด ก่อนที่เจ้าตัวจะเสียชีวิตในที่สุด...
- เดือดจัด! "บุ๋ม" ซัดกะเทยปากปีจอด่า "ไพโรจน์ ใจสิงห์" ดาราขอทาน
- น่าห่วงอีก “ไพโรจน์ ใจสิงห์” ปอดติดเชื้อ ป่วยหนักเข้า ไอ.ซี.ยู. เมียเปิดจองชุดสังฆทานช่วยค่ารักษา