xs
xsm
sm
md
lg

ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 130 ราย เผยคลัสเตอร์ตลาดสดปทุมธานี ต้นตอติดเชื้อกระจาย 10 จังหวัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศบค.รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 130 ราย อาการหนัก 19 ราย เสียชีวิต 1 ราย เผยเหตุตลาดปทุมธานีกระจายไปรวม 10 จังหวัด เร่งตรวจเชิงรุกต่อ ด้านกระทรวงสาธารณสุขเสนอแผนมาตรการพัฒนามาตรฐานตลาด หลังพบ 2 ปัจจัยทำตลาดเป็นจุดแพร่เชื้อ

วันนี้ (19 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า วันนี้ไทยมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 130 ราย เป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 116 ราย มาจากระบบเฝ้าระวัง และระบบบริการ 61 ราย จากการค้นหาเชิงรุก 55 ราย เป็นผู้ป่วยเดินทางจากต่างประเทศ 14 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1 คน ทำให้ยอดผุ้เสียชีวิตสะสม 83 คน

พญ.อภิสมัยกล่าวว่า สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิตรายที่ 83 คือ นพ.ปัญญา หาญพาณิชย์พันธุ์ ซึ่ง นพ.ปัญญาเกษียณอายุราชการจากโรงพยาบาลมหาสารคาม แล้วเปิดคลินิกรักษาประชาชนในพื้นที่ มีโรคประจำตัวคือมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยติดเชื้อจากการดูแลผู้ป่วยรายที่ 2, 9 และ 11 ที่จังหวัดมหาสารคาม จากเคสโต๊ะเเชร์ โดยวันที่ 13-28 ม.ค.ผู้ป่วยดังกล่าวเข้ารับบริการที่คลินิก จากนั้นวันที่ 29 ม.ค.เมื่อ นพ.ปัญญาทราบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ติดเชื้อ จึงไปตรวจหาเชื้อแต่ผลเป็นลบ จากนั้นวันที่ 31 ม.ค.เริ่มมีอาการปวดกล้ามเนื้อ คล้ายจะมีไข้ กระทั่งวันที่ 2 ก.พ.ผลยืนยันเป็นโควิด-19 จึงเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาสารคาม และวันที่ 7 ก.พ.มีอาการปอดอักเสบรุนแรงต้องใส่ท่อช่วยหายใจ จากนั้นอาการทรุดลงต่อเนื่องและเสียชีวิตวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา

พญ.อภิสมัยกล่าวอีกว่า นพ.ปัญญาไม่ใช่บุคลากรรายแรกที่ติดเชื้อ เพราะระหว่างวันที่ 15 ธ.ค.ถึงวันที่ 18 ก.พ.มีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อทั้งสิ้น 36 ราย และติดเชื้อจากกรปฏิบัติหน้าที่ 6 ราย กระจายไปยังภาคต่างๆ โดยบุคลากรทางการแพทย์เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอยู่ตลอด ต้องมีการกักตัวและหมุนเวียนการปฏิบัติงานอยู่เป็นประจำ ดังนั้น ด้วยเหตุนี้จึงนำไปสู่การพิจารณาของคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในการวางแผนกระจายวัคซีนที่จะเข้ามาล็อตแรกเพื่อปกป้องระบบสาธารณสุข ดังนั้น บุคลากรทางการแพทย์จึงจำเป็นต้องเป็นกลุ่มแรกที่จะได้รับวัคซีน


สำหรับกรณีตลาดพรพัฒน์ และตลาดสุชาติ ที่พบการแพร่ระบาดจากแม่ค้าช่วงวันที่ 6-7 ก.พ. 64 ได้มีการทำงานเชิงรุกเฝ้าระวังพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ตลาดรังสิต หมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี โดยร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการติดตามว่าผู้ติดเชื้อเดินทางไปที่ไหนมาบ้าง ทำให้รู้ว่ามีพื้นที่เชื่อมโยงอีก 9 จังหวัด ส่วนที่จังหวัดชัยภูมิ และนครปฐมนั้นก็ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด แม้ไม่รายงานผู้ติดเชื้อแต่เป็นพื้นที่ที่ผู้ติดเชื้อเดินทางไป

ขณะเดียวกัน มีการตรวจคัดกรองผู้เกี่ยวข้องในตลาดพรพัฒน์ และตลาดสุชาติไปแล้ว 5,743 ราย พบผู้ติดเชื้อ 355 ราย โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการ นอกจากนี้ยังตรวจคัดกรองพื้นที่ใกล้เคียงอีก 1,781 ราย พบผู้ติดเชื้อ 5 ราย มาจากตลาดสี่มุมเมือง 4 ราย และตลาดไท 1 ราย โดยจะมีการตรวจคัดกรองเชิงรุกให้ครบ 10,000 ราย

“สิ่งสำคัญที่เป็นปัจจัยให้ตลาดเป็นแหล่งแพร่เชื้อ คือ อากาศปิด ทั้งโครงสร้างของอาคารที่หลังคาเตี้ย และมีค่าแอร์โฟลเป็นศูนย์ มีการระบายอาการไม่เพียงพอ และการเดินทางไปมาหลายตลาด คนที่ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่ใช่คนที่ไปจับจ่ายใช้สอยในตลาด ไม่คนในชุมชนที่ไปตลาด เพราะส่วนใหญ่ตื่นตัว แต่เป็นคนงานในตลาดที่อยู่ในตลาดเป็นเวลานาน” พญ.อภิสมัยกล่าว

ทั้งนี้ ศบค.ชุดเล็กจะเสนอแนวทางการพัฒนาตลาดให้มีสุขอนามัยที่เหมาะสมให้ที่ประชุม ศบค.ชุดใหม่ในสัปดาห์หน้า ทั้งในเรื่องของการถ่ายเทอากาศ, การลดความแออัด และการรักษาความสะอาด รวมถึงการตรวจสุขภาพของผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น