จะเอายังไงว่ามา “ผู้บริหารมาดี้พีช” นัดเคลียร์ “ลุงพล” ละเมิดสัญญารับสินค้าซ้ำซ้อน สั่งทีมทนายลุย ลั่นลุงพลต้องเลือกเอา จะเริ่มใหม่ หรือ จะเลิก!
โดนกระหน่ำซัดอย่างต่อเนื่องเลยสำหรับ “ลุงพล ไชย์พล วิภา” คนดังแห่งบ้านกกกอก นอกจากจะเป็นข่าวโดนเข้าเครื่องจับเท็จเพื่อคลี่คลายคดีการเสียชีวิตปริศนาของ “น้องชมพู่” แล้ว ก็ยังตกเป็นข่าวกรณีมีการติดเครื่องติดตามไว้ที่รถว่าเป็นฝีมือใคร “หมอปลา มือปราสัมภเวสี” กับ “อุ๊บ วิริยะ พงษ์อาจหาญ” ก็โบกมือลาทั้งที่ก่อนหน้านี้รักกันออกหน้ารับประกันกันสุดฤทธิ์ เมื่อคืนนี้ “ทนายโนบิตะ” ก็ประกาศถอนตัวไม่เป็นที่ปรึกษาให้กับลุงพล
ล่าสุด เช้านี้หมาดๆ “รัชนี โลกายุทธ์” ผู้บริหารผลิตภัณฑ์ชาสมุนไพรมาดี้พีช ที่เคยสร้างความฮือฮาด้วยการจับมือกับ “ปิ๋ม ซีโฟร์” โปรโมตมาดี้พีช ปั้นโปรเจกต์สินค้านี้จนโด่งดัง ด้วยการว่าจ้างให้ลุงพลเป็นพรีเซ็นเตอร์ และมีการตั้งขบวนขันหมากไปสู่ขอมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ จนตกเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ มาวันนี้ผู้บริหารมาดี้พีชได้เดินทางไปที่หมู่บ้านกกกอกอีกครั้ง แต่ไม่ใช่ไปทำโปรโมตสินค้า หากแต่เป็นการไปเจรจากรณีที่ลุงพลไปรับพรีเซ็นเตอร์กาแฟยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งมีสรรพคุณใกล้เคียงกับมาดี้พีช ถือเป็นการละเมิดสัญญาในการเป็นพรีเซ็นเตอร์กับมาดี้พีช
เรื่องนี้ทีมกฎหมายของมาดี้พีชกำลังดำเนินการจัดการตามสิทธิและประโยชน์ของบริษัท ซึ่งป้าแต๋นก็รีบโทร.มาหาผู้บริหารมาดี้พีชเพื่อขอเคลียร์เรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารมาดี้พีชก็เปิดใจถึงการโดนละเมิดดังกล่าวว่า เรามีสิทธิที่จะจัดการตามกรอบของกฎหมาย และทางลุงพลต้องมีความชัดเจนในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จะเริ่มใหม่หรือจะจบเลือกมา
“วันนี้ตั้งใจจะเคลียร์ประเด็นป๋าแต๋นกับลุงพล เรื่องการละเมิดสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์ที่เขาไปโปรโมตให้กับโปรดักส์ใกล้เคียงกันกับที่ทำสัญญากับเรา ก็เห็นข่าวลงว่า เขาไปเป็นพรีเซ็นเตอร์กาแฟ พอเห็นก็ให้ฝ่ายกฎหมายเตรียมตัวเลย ตอนนี้อยู่ที่เราจะตัดสินใจว่าจะทำยังไง การทำงานไม่ใช่เราแค่เราจ่ายค่าพรีเซ็นเตอร์อย่างเดียว เราต้องทำพีอาร์ ทำแผนแผนการตลาด ต้องมีเป้าหมายการทำงาน ซึ่งการทำงานกับเขาก็โดนถล่มมาตลอด ฝั่งลุงพลก็ไม่ได้เทคแอ็คชั่นอะไรชัดเจนมาก”
“ก่อนที่จะไปเป็นพรีเซ็นเตอร์กาแฟ ก็มีข่าวออกมาเรื่องสัญญาทาส ข่าวว่าเราไม่จ่ายเงิน ซึ่งมันไม่ใช่เรา เราจ่ายเงินทุกครั้งและจ่ายจนครบ คนที่เกี่ยวข้องกับลุงพลหลายคนที่มาทำให้โปรดักส์เราเสียหายพอสมควร ก่อนหน้านี้เราก็ส่งทีมพีอาร์กับมาร์เก็ตติ้งมาหาทางป้าแต๋นลุงพลเรื่องการทำยอดซึ่งลุงพลได้ประโยชน์ตรงนี้ จะมาคุยแล้วมาเริ่มทำงานกันอีกทีนึง ทำงานมีปัญหาก็มาช่วยกันแก้ พอจะแก้เขาก็ไปถือโปรดักส์อื่นแล้ว เราก็ต้องถอยสิ เราไปพีอาร์โปรดักส์สินค้าเราให้สินค้าอื่นได้ด้วยทำไม”
“มาวันนี้เขาละเมิดสัญญา ตอนนี้เหมือนเขาฉีกสัญญาเรา ถึงเขาจะไม่ปฏิเสธไม่ทำงานกับเราแล้ว แต่การที่คุณไปเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าแบบเดียวกับเรามันไม่ถูกเขาไม่ควรทำแบบนั้น ป้าแต๋นก็โทร.มาวันนี้เราเลยจะไปหาเขา ก็จะคุยให้ให้มันขาดว่าจะยังไง จะเริ่มใหม่ หรือจะเลิก ไม่คาราคาซังในการทำงาน”
“เรามีสิทธิจัดการตามกฎหมาย ฟ้องหรือไม่เป็นสิทธิทางกฎหมาย ตอนนี้เขาต้องเลือกว่า จะยังไง เขาทำสัญญาทับซ้อน ปล่อยให้เราโปรโมตพอมีกระแสก็ไปถือสินค้าตัวอื่นมันไม่ใช่ เขาต้องเลือกเอาว่า จะทำงานกับสินค้าตัวไหน และจะแก้ไขอย่างไร”
