xs
xsm
sm
md
lg

ติด “นิโคติน” เลิกยาก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ในแต่ละปี มีผู้เสียชีวิตจากควันบุหรี่มากกว่า 8 ล้านคนทั่วโลก โดย 7 ล้านคนคือผู้สูบบุหรี่ที่ได้รับควันบุหรี่โดยตรง ในขณะที่อีกกว่า 1.2 ล้านคนเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากควันบุหรี่มือสอง องค์การอนามัยโลกจึงย้ำให้แต่ละประเทศชูนโยบายควบคุมยาสูบให้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อลดการสูญเสียจากการสูบบุหรี่



แต่ในความเป็นจริง การรณรงค์ให้เลิกบุหรี่นั้นไม่อาจเห็นผลได้ในทันที หลายประเทศจึงเริ่มพิจารณาแนวทางลดอันตราย เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้สูบบุหรี่และประชากรในประเทศแทน ซึ่งรวมถึงนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านนโยบายควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ หลังจากประกาศเป้าหมาย “นิวซีแลนด์ปลอดควัน ภายในปี 2568” เพื่อลดจำนวนผู้สูบบุหรี่เป็นประจำให้เหลือเพียง 5% โดยหนึ่งในมาตรการที่นิวซีแลนด์ให้ความสำคัญคือการหาแนวทางใหม่ๆ เพื่อเสริมมาตรการแบบดั้งเดิมที่เคยทำมา ซึ่งรวมไปถึงการสนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อเป็นผลิตภัณฑ์ทดแทนบุหรี่มวนสำหรับผู้ที่ยังไม่ต้องการเลิกบุหรี่

อีเลียนา กลอบเบอร์สตีน รูบาสกิน นักเคมีด้านเภสัชกรรมและเป็นผู้เคลื่อนไหวสนับสนุนให้มีการเผยแพร่ข้อมูลสนับสนุนความปลอดภัยในการใช้บุหรี่ไฟฟ้า และผลักดันให้มีการเปิดทางเลือกให้กับชาวนิวซีแลนด์ได้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือกทดแทนที่มีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ กล่าวว่า “เป็นที่ยอมรับในวงการวิทยาศาสตร์ว่า นิโคตินเป็นสารเสพติด แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานใดๆ ระบุว่านิโคตินเป็นสารก่อมะเร็ง และเราต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจใหม่ว่าความเป็นพิษของนิโคตินจะขึ้นอยู่กับปริมาณและวิธีการการใช้”


ซึ่งข้อมูลจากสถาบันวิจัยมะเร็งสหราชอาณาจักร (cruk.org) เคยระบุว่า ควันบุหรี่ที่มาจากการเผาไหม้ใบยาสูบ เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคมะเร็ง 14 ประเภท และที่พบมากที่สุดคือ มะเร็งปอด มะเร็งหลอดอาหาร และมะเร็งในช่องปาก เช่นเดียวกับที่ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ ประเทศอังกฤษ (Royal College of Physicians หรือ RCP) เผยว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายต่อสุขภาพน้อยกว่าบุหรี่มวนเผาไหม้ใบยาสูบทั่วไป 95% นอกจากนี้ ยังระบุว่าอัตราเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งทุกประเภทในกลุ่มผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าในระยะยาว ต่ำกว่า 0.5% เมื่อเทียบกับความเสี่ยงจากสูบบุหรี่มวน ขณะที่กว่าครึ่งหนึ่งของผู้ที่สูบบุหรี่ต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายปีเสียชีวิตจากโรคที่เกิดจากบุหรี่

อาจกล่าวได้ว่า บุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการลดอันตรายจากยาสูบ เพราะช่วยลดอันตรายจากควันบุหรี่และการได้รับน้ำมันดินและสารอันตรายจากในควัน และกำลังเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่มผู้สูบบุหรี่ในประเทศสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา รวมทั้งได้รับการยอมรับว่าป้องกันการกลับไปสูบบุหรี่ได้จริง

ซึ่งหากดูสถิติจากระบบบริการสุขภาพ (NHS) และ RCP ประจำปี 2561 ของประเทศอังกฤษแล้ว ก็พบว่าจำนวนผู้สูบบุหรี่ลดลงอย่างมาก เหลือเพียง 7.4 แสนคน เมื่อเทียบกับ 10 ปีก่อนหน้า (ปี 2551) ที่มีผู้สูบบุหรี่ 2.5 ล้านคน และตัวเลขลดลงอย่างต่อเนื่องหลังจากบุหรี่ไฟฟ้าได้รับอนุญาตให้ใช้อย่างถูกกฎหมายในอังกฤษ ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา

จากเหตุผลที่กล่าวมา จึงทำให้นิวซีแลนด์ที่เคยก่อนหน้านี้เคยแบนบุหรี่ไฟฟ้า พิจารณายกเลิกการแบนและออกกฎหมายควบคุมการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารนิโคติน กลุ่มผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้ามีโอกาสได้ทำงานร่วมกันนักวิทยาศาสตร์ ตัวแทนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลก็ให้ความสำคัญกับการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ จนในที่สุด รัฐบาลนิวซีแลนด์ประกาศใช้กฎหมายอนุญาตให้ขายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกกฎหมาย ในปี 2561 โดยมีมาตรการควบคุมอย่างเหมาะสม





กำลังโหลดความคิดเห็น