xs
xsm
sm
md
lg

“หมอเจี๊ยบ” ซี่โครงร้าว หายใจยังเจ็บ สำออยอ้อนแฟน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“หมอเจี๊ยบ” อัปเดตอาการซี่โครงร้าว รู้ตัวก่อนขึ้นชกแค่ 1 วัน อยากถอนตัว แต่รายการสดมันเรื่องใหญ่ ยอมรับผลตัดสินของกรรมการ แม้จะค้านสายตาคนดู เมินดรามาแค่อยากเป็นแรงบันดาลใจ ติดใจมวยแล้ว หายดีเมื่อไหร่กลับมาต่อยอีกแน่นอน กับ “เชียร์” ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

กลายเป็นประเด็นเลยทีเดียว สำหรับการแข่งขัน 10 Fight 10 ในคู่ของ “หมอเจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์” กับ “เชียร์ ทิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์” หลังผลการตัดสินที่ออกมานั้นค้านสายตาคนดูเป็นอย่างมาก ที่ให้ทั้งคู่เสมอกันไป ซึ่งในการชกครั้งนี้นอกจากสาวเชียร์จะถูกหามส่งโรงพยาบาลทันทีหลังชกเสร็จแล้ว ภายหลังก็ได้ทราบว่าหมอเจี๊ยบเอง ก็มีอาการซี่โครงร้าวด้วย และมีการใช้ยาชาเพื่อให้สามารถขึ้นชกได้

วันนี้ได้เจอหมอเจี๊ยบ ในงานบวงสรวงภาพยนตร์ดรามา-คอมเมดี้ “ไสหัวไป” จากค่ายภาพยนตร์น้องใหม่ เบนเล่ย์ มีเดีย จำกัด ณ ศาลพระพิฆเนศ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เจ้าตัวเลยถือโอกาสเคลียร์ทุกดรามา

“อาการบาดเจ็บดีขึ้นแล้วค่ะ ตอนนี้ก็กลับมาทำงานแล้ว ก็คือ ซี่โครงมันร้าวก่อนขึ้นชก พอขึ้นชกไปก็หักเลย ตอนนี้คือหายใจก็ยังเจ็บอยู่ แต่โดยรวมแล้วโอเค แต่งดออกกำลังกาย การรักษาคือมันจะติดเอง หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าพอซี่โครงหักไม่ต้องไปเข้าเฝือกอะไร คือการพักให้มันติดและกินยาแก้ปวดอะไรไป ในส่วนของการทำหน้าที่หมอ เราก็ยังทำได้ แต่ตอนนี้งดการกดปั๊มหน้าอกคนไข้ไปก่อน ให้คนอื่นทำแทน เพราะยังออกกำลังกายไม่ได้ ตอนนี้ก็รักษาตัวเอง ไปหาเพื่อนๆ กินยาแก้ปวดตามอาการ เพราะเราเจอคนไข้อาการแบบนี้บ่อย”

บอกคิดว่าเจ็บกล้ามเนื้อธรรมดา ไปอัลตราซาวนด์ถึงเห็นว่าซี่โครงร้าว แต่สุดท้ายก็หาวิธีขึ้นชกจนได้
“ตอนแรกคิดว่าเจ็บกล้ามเนื้อ แล้ววันสุดท้ายก่อนขึ้นชก ตอนแรกพอซ้อมเสร็จเราทรุดลงไป ก็ไปหาหมอที่เราหาอยู่แล้ว ก็อัลตร้าซาวด์เห็นว่าร้าว ก็คิดว่าจะทำยังไงกัน สุดท้ายก็หาวิธีที่จะขึ้นชกได้”

ต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานาน 6 เดือน แต่ 2 เดือนแรกก็จะเริ่มดีขึ้นแล้ว
“เพื่อนที่เป็นคุณหมอผ่าตัดทรวงอก บอกว่าเหมือนคนปกติเลยประมาณ 6 เดือน ส่วน 4 เดือนเริ่มดีขึ้นแล้ว แต่เจี๊ยบคิดว่าประมาณ 1-2 เดือนก็น่าเริ่มดีขึ้นแล้วค่ะ

อยากขึ้นชกเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ ว่าถ้าตั้งใจและฝึกฝน สิ่งที่คิดว่าทำไม่ได้ มันก็จะทำได้เอง
“คือตอนนี้สุดท้ายแล้วออกมาอย่างที่บอก เหมือนที่เจี๊ยบได้โพสต์ไปในอินสตาแกรม ว่าเราแค่อยากเป็นแรงบันดาลใจให้ตัวเองเฉยๆ ว่าจากคนที่อ่อนแอ ไม่ได้ออกกำลังกาย สุดท้ายเราสามารถขึ้นไปชกมวยได้ อยากเป็นแรงบันดาลใจให้คนหลายๆ คน ที่คิดว่าฉันทำโน่น ทำนี่ไม่ได้ ไม่กล้าทำ แต่อย่างน้อยเราได้แสดงตรงนั้น คือจบแล้วสำหรับเจี๊ยบแค่นั้น”

คงไม่ไปขึ้นชกอีกแล้ว แต่ติดใจกีฬามวย ถ้าหายเมื่อไหร่จะไปต่อยอีก
“ถามว่าจะชกอีกไหม ไม่เอาแล้ว แต่ติดใจนะ เป็นกีฬาที่สนุกมาก เจี๊ยบกะว่าถ้าซี่โครงหายก็อาจจะกลับไปต่อยอีก เพราะมันเป็นกีฬาที่ตอนแรกคนที่เล่นกีฬานี้อาจจะคิดว่าเป็นแบบความรุนแรง ต่อย ต้องใช้แรงอย่างเดียว แต่จริงๆ คือใช้สติ ปัญญาและสมาธิเยอะมาก การขึ้นไปอยู่ตรงนั้นได้มันต้องมีสมาธิ พอคุณไม่มีสมาธิทุกอย่างที่คุณเรียนมามันขึ้นไปแล้วมันเหลือไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์”

พยาบาลส่วนตัวดูแลดีมาก ใส่ใจดูแลทุกอย่าง
“ดูแลดีมาก เป็นข้ออ้างที่ไม่ต้องทำอะไร อยากได้อะไรทำตัวนิ่งๆ สมัยก่อนจะหยิบน้ำก็ต้องเดิน หิวน้ำ ปิดไฟ ร้อน เปิดแอร์ สบายไม่ต้องทำอะไรเลย (หัวเราะ) ทำสำออย เจ็บๆ แบบนี้

เขาร้องไห้เลย เพราะเขาเห็นเราวันก่อนที่จะขึ้นชกไง เพราะเราร้องไห้เลย ทำไงดี กลัวจะขึ้นไปไม่ได้ ทุกคนเฝ้ารอดู แล้วมันกะทันหันมาก วันเดียว คืนเดียว ตอนเช้าคิดว่าเจ็บกล้ามเนื้อเฉยๆ ก็อยู่อย่างนั้นทั้งวันจนเราซ้อมดังโป๊ะ และเรารู้สึกว่ามันเจ็บมาก พอเราไปหาคุณหมออัลตร้าซาวด์เห็นว่ามันร้าว แต่พอคุณหมอช่วยหาวิธีก็โอเคสบายใจขึ้น เพื่อที่จะได้ขึ้นไปทำหน้าที่ให้เสร็จสิ้น”

ใจจริงอยากถอนตัว ถ้ามีเวลาพักให้หายก่อนคงดีกว่านี้ แต่นี่มันเป็นรายการสด มันเป็นเรื่องใหญ่
“ใครก็อยากถอน จริงๆ คือคิดว่าถ้ามีเวลาพักให้หายก็คงดี แต่ว่าด้วยความที่เราทำงานตรงนี้มานาน สมมติแค่จะยกกองละครกองหนึ่ง ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยยกเลิกกอง ไม่เคยแบบวันนี้ไม่สบาย ไปถ่ายละครไม่ได้ ไม่เคยมี เจี๊ยบว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ แล้วเป็นรายการสด หลายๆ อย่างเรารู้สึกว่ามันจะทำได้เหรอ”

เป็นครั้งแรกที่ต้องซ่อมแซมร่างกายแบบชุดใหญ่
“ใช่ๆ คือชุดใหญ่มากจริงๆ แต่สุดท้ายแล้วก็คิดว่าอย่างน้อยก็คงมีสิ่งดีๆ กลับมาให้ใครหลายๆ คน ส่วนดรามา เจี๊ยบคิดว่ามันเป็นสิ่งทั่วไปของกระแสเหล่านี้ ความคิดคนมันมีหลายรูปแบบอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นแค่รู้ว่าเราทำอะไร เราทำหน้าที่เราดีที่สุดแล้ว เราทำเต็มที่ในส่วนของเรา แค่นั้นพอใจแล้ว เจี๊ยบแค่สนใจอย่างที่เจี๊ยบบอกไป ว่าสนใจแค่ว่าอย่างน้อยเราได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คน กับสิ่งที่เราทำมานาน แค่เราเห็นคนรอบข้างเขาภูมิใจในสิ่งที่เราทำก็โอเคแล้ว”

ความสัมพันธ์กับ “เชียร์” ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเหมือนเดิม บอกอีกฝ่ายดีขึ้นแล้ว แข็งแรงมาก
“คุยค่ะ เพิ่งไปถ่ายรายการด้วยกัน ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีกันเหมือนเดิมค่ะ เขาก็ดีขึ้น เพราะเราก็ถามว่าเขาเป็นยังไง เขาก็บอกว่าดีขึ้น โอ้ย...คนนั้นเขาแข็งแรง พอเขาแข็งแรงเขาก็เป็นห่วงเรา บอกทำไมไม่บอกเขาก่อน เพราะเขากลัวว่าถ้าเกิดเราเป็นอะไรไป แต่อย่างที่บอก ว่าด้วยความที่เราอาจจะเป็นหมอไง เรื่องพวกนี้เราเจอบ่อยจนเรารู้ไง ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น และเพื่อนที่เชียร์อยู่ข้างสนามก็เป็นหมอทั้งหมด (หัวเราะ) เพื่อนก็พูดเล่นๆ ว่าเดี๋ยวเป็นไร เดี๋ยวไปโน่นนี่นั่น

แต่เราก็รู้ว่าความอันตรายมันอยู่ตรงไหน แล้วเราสามารถรับความเสี่ยงตรงนั้นได้ มันอาจจะน่ากลัวสำหรับคนทั่วไป แต่พอเป็นเรา เราเป็นหมอฉุกเฉินด้วยไง เราก็อาจจะไม่ได้คิดเหมือนคนอื่น สุดท้ายแล้วก็เข้าใจว่าคนคงเป็นห่วงเรา เราคิดน้อยไปหน่อย แพทย์สนามเยอะมาก ยายเจี๊ยบมาดูเป็นลมตั้งแต่ขึ้นบันได 3 ชั้น มีคนจะวิ่งเข้าไป แต่เห็นอ้าวหมอทั้งฝูงเลย ไม่ต้องไปดูละ”

ยอมรับผลการตัดสินของกรรมการ แม้จะค้านสายตาคนดู
ก็คือสุดท้ายแล้วเจี๊ยบยอมรับผลตัดสินเพราะมันมาจากกรรมการนะคะ คือ กรรมการบอกยังไงคือหน้าที่ของกรรมการ เจี๊ยบเชื่อว่าทุกคนทำหน้าที่อย่างดีที่สุดในสิ่งที่เขาทำ อย่างเจี๊ยบไม่ไดัมีหน้าที่ในการสงสัยผลของการตัดสินหรืออะไร เราทำหน้าที่ของเราจบแล้ว เรายอมรับคำตัดสิน เรามีความเป็นน้ำใจนักกีฬาคือเกมจบ เราจบ แค่นั้นพอค่ะ”

ถ้าหายจะกลับไปต่อยมวยแน่นอน ติดใจกีฬานี้ไปแล้ว
“แน่นอนค่ะ เพราะรู้สึกติดใจในกีฬานี้ อาจจะไปแข่ง ก็เดี๋ยวหายแล้วว่ากันอีกที ยอมรับเลยว่ากีฬามวยเป็นกีฬาที่เหนื่อยมาก จากคนที่ไม่ได้ออกกำลังกายมา 3 ปีแค่เดินขึ้นบันไดก็เหนื่อยแล้ว กลายเป็นสามารถวิ่งได้ 5-6 กิโล โดยที่ไม่เหนื่อยและสามารถยืนชกได้ 6 นาทีต่อยก ยืนได้ 6 ยกเลย ก็ต้องขอบคุณครูฝึกทุกคน

และมันทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเองว่า เราสามารถแข็งแรงได้ อยากเป็นกำลังใจให้ใครหลายๆ คนที่ไม่คิดจะออกกำลังกาย ฉันจะไปรอดหรอ ฉันจะไปวิ่ง 5 กิโลนี่ไหวเหรอ 10 กิโลไหวเหรอ แต่ถ้าเราไม่ลุกขึ้นทำในวันนี้ เราก็ไม่รู้หรอกว่าเป้าหมายอยู่ที่ไหน และคุณจะกลับมารู้สึกดีกับตัวเอง รักตัวเองมากขึ้น เพราะเรารู้เวลาคนเรามันมีพลัง มันจะรู้สึกไม่เหนื่อย ทำอะไรแล้วจะมีความสุข ทุกอย่างมันจะง่ายขึ้น เรียนรู้อะไรก็สนุกขึ้น เพราะฉะนั้นก็อยากเป็นกำลังใจให้กับทุกคนหันมาออกกำลังกาย เจี๊ยบก็จะกลับไปออกกำลังกายหลังจากที่หายดีแล้ว”


















กำลังโหลดความคิดเห็น