เดือดปุดๆ “เกรซ นรินทร” ไม่ทน อักษรย่อนางงามหน้าแป้นคุณแม่ยืมเงินไปหมุนตอนประกวด แต่ไม่คืนเงิน เจ้าหนี้สุดทนฟ้องศาล แต่ไม่ได้เงินคืน ประกาศฟ้องกราวรูด ต้นตอปล่อยข่าว 2 เพจใหญ่แชร์ข่าว รายการที่นำข่าวไปพูดถึงกลางรายการ ลั่นยอมไม่ได้ดูถูกครอบครัว
เฮี้ยนกันทั้งปี สำหรับเวทีขาอ่อน ที่มีเรื่องราวไม่หยุดหย่อน ล่าสุด “เกรซ นรินทร ชฎาภัทรวรโชติ” มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 ก็โดนสื่อดังพาดพิงเป็นนางงามหน้าแป้น ที่คุณแม่ยืมเงินคนๆ หนึ่ง เพื่อเอาไปหมุนตอนเดินทางไปประกวดที่ลอนดอนหลักแสน เจ้าหนี้สุดทนฟ้องศาล แต่ก็ยังไม่ได้เงินคืน งานนี้หลายคนพุ่งเป้ามาที่สาวเกรซ นรินทร เพราะไปประกวดมิสเวิลด์ที่ลอนดอน โดยเจ้าตัวเปิดใจประเด็นร้อนดังกล่าวในงาน “งานกาชาดออนไลน์ ประจำปี 2563” ประกาศฟ้องต้นตอข่าวลือ รวมทั้ง 2 เพจใหญ่ที่เอาข่าวไปแชร์ต่อ และรายการที่เอาข่าวนี้ไปพูดถึง
“เห็นข่าวแล้วค่ะ คือที่จริงแล้วเกรซว่าตั้งแต่เกรซได้รับมงฯ ก็ได้ยินข่าวอะไรมาตั้งแต่แรกแล้ว ตอนแรกรู้สึกชิน เพราะโอเคเรามาเป็นนางงาม ต้องมีกระแส มีข่าวอะไรอยู่แล้ว แต่พอตอนนี้คุยกับคุณแม่ ข่าวล่าสุด มันมีผลกระทบเกี่ยวกับครอบครัวของตัวเอง เราเลยรู้สึกว่าไม่ได้แล้วนะก็คุยกับคุณแม่ว่าดำเนินคดีแน่นอน เพราะว่ามันไม่เป็นความจริง ดำเนินคดีและปล่อยให้เป็นหน้าที่ของศาล ก็ให้ทนายเขาเป็นคนจัดการเรื่องทั้งหมดแล้ว
ส่วนที่เขาอ้างว่าคุณแม่ไปหยิบยืมเงินเพื่อส่งเราประกวด ถามว่ามีเหตุการณ์นี้ไหม เอาอย่างนี้ดีกว่า ให้เป็นหน้าที่ของศาลดีกว่า ตอนนี้กำลังดำเนินคดีอยู่ คือ อยากพูดแค่นี้ ถ้าพูดมากกว่าจะส่งผลกับรูปคดี ตอนนี้ก็ให้ ทนายเจมส์ (นิติธร แก้วโต) เป็นคนดูแลทุกอย่าง”
รู้ตัวคนปล่อยข่าว
“รู้ค่ะ ถามว่ารู้จักเขาไหม รอดูแล้วกันค่ะเพราะตอนนี้เล่าเรื่องราวทุกอย่างไปให้ทางทนายเจมส์หมดแล้ว คือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคดีไปดีกว่าค่ะ”
เผยข่าวมากับมงฯ ถ้าจะโกรธ จะโกรธก็ตรงที่ว่าตนหน้าแป้น
“อย่างที่บอกเลย เกรซรู้สึกว่ามากับมงฯ เรื่องข่าวมันเป็นอะไรที่แบบ ถ้าเกรซโกรธเกรซคงจะโกรธว่าหน้าแป้นอะไรแบบนี้ ก็โอเคค่ะคือเราไม่สามารถที่จะให้คิดใครคิดอะไรยังไงได้ สุดท้ายแล้วทุกคนมีความคิดของตัวเองค่ะ มีอิสระ เสรีภาพในการคิด การแสดงออกไป ส่วนตัวเราทำหน้าที่เราให้ดีที่สุด
อย่างเมื่อกี้ที่พี่พูดเลยสีผมใช่ไหม ก็อยากจะฝากทุกคนติดตามซิงเกิลด้วยนะคะ จะออกในต้นปีหน้า จะทำเพลงเปลี่ยนจากนางงามเป็นนักร้องเต็มตัวแล้ว อยากให้ทุกคนติดตามโฟกัสในอนาคตดีกว่าว่าจะพัฒนาอะไรต่อไปยังไงบ้าง ส่วนเรื่องราวของข่าวมันมีทุกวันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะตัวเกรซเอง หรือตัวคนอื่นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของศาล หน้าที่ของทนายไป”
ไม่มีใครติดต่อตนโดยตรง
“อันนี้ถ้ากับเกรซโดยตรงยังไม่มีนะคะ ยังไม่มีการเจรจานอกรอบค่ะ เพราะว่าให้ทนายเจมส์เป็นคนจัดการให้ทั้งหมดค่ะ ถ้าสมมติตัวเกรซหรือตัวคุณแม่เองไปจัดการมันจะส่งผลได้กับรูปคดี ก็รอดำเนินคดีไปค่ะ ถามว่ายื่นฟ้องไปแล้วไหม ก็แค่นี้แล้วกัน (ยิ้ม)”
เผยไปประกวดต้องใช้เงินเป็นเรื่องปกติ ครอบครัวซัปพอร์ต
“เกรซว่าทุกๆ คนไม่ใช่แค่การประกวดนะ ตั้งแต่ตอนแรกเลยที่เริ่มเข้าประกวดต้องเริ่มใช้เงินอยู่แล้วค่ะ อย่างตัวเกรซเองคุณแม่เป็นคนดูแล ไม่ได้มีผู้จัดการหรืออะไร ดังนั้น เรื่องเงินเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องใช้ เหมือนชีวิตประจำวันเลยค่ะต้องใช้เงินอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติ ทางครอบครัวเราก็ซัปพอร์ตทุกคนซัปพอร์ตเกรซเต็มที่ทุกคน ทางครอบครัว ทางญาติคุณพ่อคุณแม่ ทุกคนซัปพอร์ตเต็มที่ค่ะ ดังนั้น ไม่ได้มีปัญหาอะไร”
ยอมไม่ได้ดูถูกครอบครัว
“ถามว่าซีเรียสไหม อย่างที่บอกเลยค่ะตอนแรกคิดว่าไม่ได้มีอะไร เพราะข่าวมันมีทุกวันอยู่แล้ว แต่ว่ามันเริ่มกระทบถึงครอบครัวมากขึ้น เพราะเรารู้สึกว่าอาจจะมีการดูถูกครอบครัวนิดหนึ่ง ซึ่งเอาตรงๆ ครอบครัวก็ไม่ค่อยโอเค อย่างที่บอกว่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของศาลในการดำเนินคดีแล้ว”
ไม่ตอบฟ้องข้อหาอะไร บอกให้รอดู
“อันนี้ขอไม่พูดแล้วกันค่ะ เดี๋ยวรอดูต่อไปแล้วกันเนอะ เรื่องนี้เอาตรงๆ เรารู้อยู่แล้วว่ามันเป็นอะไร เราไม่ได้โฟกัสเรื่องนี้ สิ่งที่โฟกัสอยู่คือเพลงค่ะ เกรซทำเพลงหนักมาก และตั้งใจให้เพลงออกมาดีที่สุด ยังไงก็ฝากพี่ๆ ช่วยโปรโมตเรื่องเพลงด้วยนะคะ ออกมาต้นปีหน้าแน่นอน
อยากให้ดูเพราะเปลี่ยนจากนางงามเป็นนักร้องเต็มตัวแล้ว ก็อยากจะโฟกัสเรื่องเพลง ทำแนวที่ไม่ใช่แนวของตัวเอง เพราะหลายคนอาจจะมองว่าเราเป็นสายหวาน คงออกเพลงหวานๆ หรือเปล่า ไม่นะคะ จะออกเพลงสไตล์เท่ๆ เป็นตัวเองมากขึ้น อยากให้ทุกคนโฟกัสและมองว่าต่อไปเกรซจะพัฒนาไปในรูปแบบไหนมากขึ้น ก็ทำเองค่ะ รอติดตาม”
ยันตอนไปประกวดไม่มีปัญหาเรื่องเงิน ดำเนินคดีจบจะมูฟออน พัฒนาชีวิตตัวเองต่อไป
“ไม่ค่ะ ถามว่าแม่โกรธไหมเพราะข่าวกระทบแม่โดยตรง อย่างที่บอกเราถึงต้องดำเนินคดี เพราะมันกระทบกับครอบครัว ทุกคนมีอารมณ์โกรธ แฮปปี้ ทุกคนมีอารมณ์อยู่แล้ว พอมันมีข่าวออกมาตั้งแต่หน้าแป้นออกมาคุณแม่เขาก็ต้องรู้สึกนิดหนึ่งแหละ เพราะเป็นพ่อแม่เราเขาก็รู้ว่าเราเป็นยังไง เราศัลยกรรมอะไรไหม ทุกคนถ้าสมมติใครรู้ความจริงมันก็มีความรู้สึกอยู่แล้วแหละแต่ถามว่ามันส่งผลกระทบอะไรขนาดนั้นก็ไม่ค่ะ ทำอะไรให้มันถูก ดำเนินคดีแค่นั้นจบ และมูฟออนต่อไป พัฒนาชีวิตตัวเองต่อไป ทำอย่างอื่น เพราะเราต้องใช้ชีวิตต่อไป เราคงไม่ได้หยุดแค่นี้แน่นอน”
ไร้ปัญหากองประกวด
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ เพราะเขาก็รู้ทุกอย่างค่ะ และคุยเรียบร้อยแล้ว คุยกับทนายเจมส์เรียบร้อยแล้ว รู้เหมือนพี่ๆ แหละ เขาก็รู้และบอกว่าถ้าอยากให้ไปเป็นคนพูดหรืออะไรก็บอกคุยและเคลียร์กันเรียบร้อยแล้วค่ะทุกอย่าง ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย แค่คุยว่าอ๋อ มันไม่ใช่นะ แบบนี้ๆ”
ไม่ไกล่เกลี่ย ดำเนินคดีให้รู้ความจริง
“ก็อย่างที่บอกว่าดำเนินคดีไปแล้ว ก็รอดูแล้วกันว่าจะเป็นยังไงต่อไป ก่อนหน้านี้ไม่มีการพูดคุยกัน ถ้าโดยส่วนตัวของเกรซไม่ได้มีการพูดคุยกับเขา เราดำเนินคดีเพราะมันทำให้ชื่อเสียงเราเสียหาย แต่ที่สำคัญทุกข่าวมันเหมือนต้องการให้ชื่อเสียงเราเสียหายอยู่แล้วแหละ
แต่มันไม่ได้ร้ายแรงขนาดนี้ไง แต่อันนี้มันกระทบกับครอบครัวเกรซค่ะ เลยโอเคถ้าสมมติว่าสิ่งเดียวที่เราจะทำได้เพื่อทำให้ทุกคนดูก็คือการดำเนินคดี เพราะว่ามันมีหลักฐานและตรวจแล้วว่าอันไหนคือความจริงอันไหนคือความไม่จริง ก็ทำให้รู้เลยว่ามันไม่ใช่นะ มันแบบนี้นะ ก็รอดูค่ะ ตอนนี้ดำเนินคดีอยู่”
ไม่เครียด ลั่นเคยถูกบูลลี่หลังได้มงฯ เครียดกว่านี้ รับเห็นหมดทุกข่าว ทุกคนที่เอาไปแชร์ ดำเนินคดีหมดแล้ว
“ไม่นะ ถ้าเกรซเครียด น่าจะเป็นตอนหลังได้มงฯ ค่ะ อันนี้เครียดมาก โดนบูลลี่ อันนั้นเครียดจริงๆ ตอนโดนบูลลี่ก็คือหน้าแป้น เราก็แบบความจริงหน้าเราแป้นจริงๆ อันนั้นก็เครียด แต่อันนี้มันไม่มีความจริง เลยไม่ต้องเครียด เราเลยทำในสิ่งที่ถูกต้อง แค่คุยกับคุณแม่จบ ดำเนินการ ตอนนี้ทำแต่งานเพลง เกรซเครียดงานเพลงอยู่ค่ะตอนนี้
ถามว่าเป็นความต้องการของเรา หรือครอบครัว คือมันเป็นความต้องการของตัวเอง เพราะกระทบต่อครอบครัว เราเห็นที่เขาพาดพิง เห็นทุกอัน เห็นหมดทุกข่าว เห็นหมดทุกคนที่เอาลงแชร์ พูดในออนไลน์นะคะซึ่งเห็นหมดแล้ว และดำเนินคดีหมดแล้ว (ยืนยันว่าสิ่งที่เขาพูดมันไม่เป็นความจริง?) ก็คุยกันในศาลแล้วกันค่ะถ้างั้น
เรื่องคนคอมเมนต์ที่จริงแล้วทนายเจมส์ก็คุยกับเกรซว่าอยากจะเอาผิดที่คอมเมนต์ แต่ว่าโดนส่วนตัวเกรซกับคุณแม่รู้สึกว่าคอมเมนต์มันก็คือคอมเมนต์ค่ะ ถ้าเรามานั่งดำเนินคดีก็คงทำตั้งนานแล้ว เกรซเลยรู้สึกว่าถ้าแต่ละคอมเมนต์ ถ้าไม่มีอะไรร้ายแรงมากเราก็คงไม่ทำ ก็ไม่เป็นไร เราก็ไม่ได้อยากมามีปัญหา คือคนที่เอาไปแชร์ เอาไปพูด ก็ดำเนินคดีแน่นอนค่ะ
ซึ่งเกรซไม่ได้ติดต่อกับคนนั้นโดยตรงค่ะ เรื่องนั้นปล่อยให้เป็นเรื่องของทนายให้คุยกับทางทนายโดยตรงค่ะ ก็คือ คนที่แชร์ ต้นตอคนที่โพสต์ คงที่ลง คนที่พูดในทีวีออนไลน์อะไรสักอย่าง ก็หลายคนค่ะ ก็รอดูค่ะ เพราะเพิ่งยื่นเรื่องไป เห็นที่เกรซลงรูปกับทนายเจมส์ไหมคะในอินสตาแกรม ก็ตั้งแต่วันนั้นแหละค่ะ
ที่จริงก็ไม่ได้อยากให้เป็นเรื่องอะไรแบบนี้นะ เราแค่รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง มันกระทบปุ๊บ ก็เลยปล่อยให้เป็นเรื่องของกฎหมายไปแล้วกัน ให้มานั่งพูดอะไรตลอดเวลาเรื่องราวมันไม่จบหรอกค่ะ ดำเนินการไป ก็บอกไปว่าดำเนินการไปนะคะ นอกนั้นก็ไม่มีอะไรแล้วค่ะ ที่เช็กดูว่าประมาณกี่ราย ก็รอดูแล้วกันค่ะ ไม่ได้เยอะและไม่ได้น้อยค่ะ”