“พ่อรอง” เผยได้ลูกหลานทำให้สภาพจิตใจดีขึ้น แต่ยังเผลอน้ำตาไหลเห็นภาพ “แม่ทุม” ที่หัวเตียง แจงเหตุผลขายรังรักตำนานบ้านลาดพร้าว 71 บอกได้มา 10 กว่าล้านรักษาแม่ทุมหมด ฟุ้งแม่ทุมมาเข้าฝันให้หวย ล่าสุดก็บอกอีก
ถือเป็นตำนานคู่รักวงการบันเทิงเลยทีเดียว ที่แม้ “แม่ทุม ปทุมวดี เค้ามูลคดี” จะเสียชีวิตไปได้หลายเดือนแล้ว แต่ “พ่อรอง เค้ามูลคดี” ก็ยังคิดถึงแม่ทุมอยู่ตลอดเวลา โดยพ่อรองเล่าว่า แม้ตอนนี้จิตใจจะแข็งแรงขึ้น แต่บางวันก็ยังเผลอน้ำตาไหลเวลาเห็นภาพแม่ทุมบนหัวเตียง
“ตอนนี้ก็ดีขึ้น ที่ดีขึ้นเพราะได้ลูกกับหลาน โดยเฉพาะหลานเป็นยาชูกำลังเราอย่างดี แต่ถามว่ายังคิดถึงไหมก็ยังคิดถึงอยู่ตลอด ก็พยายามไม่ร้องไห้ แต่บางครั้งเราอยู่คนเดียวเรานั่งมองรูปเขาที่บนหัวนอน พอมองปุ๊บน้ำตามันก็ไหล”
โต้ขายบ้านเอาเงินมารักษา “แม่ทุม” แต่เพราะบ้านทรุดจึงจำใจขาย บวกทำใจไม่ได้ที่มองไปทางไหนก็เห็นแต่แม่ทุม
“ค่ารักษาไม่เคยดู ไม่เคยสนใจด้วย เพราะลูกชายเป็นข้าราชการเขาก็เบิกได้ส่วนนึง แล้วยุ้ย (ปัทมวรรณ เค้ามูลคดี)ก็เอาเงินมาลงกองกลางส่วนนึง รวมของพ่อด้วย แม่เขาเจ็บจริงๆ มาเป็น 10 กว่าปีแล้ว แต่ 10 กว่าปีที่ผ่านมาเราไม่รู้จักโรงพยาบาลของรัฐบาล เราไม่รู้จักใครเลย ก็เข้าโรงพยาบาลเอกชนมาโดยตลอด กรุงเทพก็บ่อย เวชธานีก็บ่อย โรงพยาบาลเอกชนค่าใช้จ่ายก็เยอะ ทีนึงมันก็หลายแสน มันก็เป็นอยู่อย่างนี้มาโดยตลอด เราก็คิดว่าไม่เป็นไร ลูกก็เบิกได้ ยุ้ยก็ทำงานได้มาก็เอาเงินมาช่วย แล้วพ่อก็ยังมีแรงทำงาน หมดเท่าไหร่ก็หมดไป ขอให้คนที่เรารักเขามีชีวิตอยู่กับเราต่อไปก็พอแล้ว
(ถึงขั้นขายบ้านเลยด้วย?) เรื่องบ้านที่ขายมันหลายอย่าง ด้วยบ้านเราอยู่ติดคลอง แล้วเขามาทำทางให้รถมอเตอร์ไซค์วิ่ง มันก็เลยทรุด เราผิดเองที่เราสร้างไปติดคลองมากไป บ้านอื่นเขาไม่ติดอย่างเรา แล้วปลวกมันก็ขึ้นด้วย แต่ประการสำคัญที่พ่อตัดสินใจขายเพราะมองไปตรงไหนก็เห็นเขา ทุกมุมที่เขานั่งในบ้าน จะนอน จะนั่งตรงไหน คือถ้าเราอยู่บ้านนั้นสุขภาพจิตเรายิ่งแย่ ก็เลยตัดสินใจขายไป”
เล่ายากมากในการตัดสินใจขายบ้านหลังนี้ เพราะสร้างมาด้วยกัน บอกเงินที่ขายบ้านได้ 10 กว่าล้านก็เอามารักษาแม่ทุมหมดไม่เหลือเลย
“ยากมาก บ้านหลังนี้พ่อไม่ซื้อ พ่อไม่เอา เพราะสมัยก่อนลาดพร้าว71 เมื่อ10 กว่าปีที่แล้วมันเป็นป่าเป็นดง ถนนลาดพร้าวก็เล็กนิดเดียว เราก็บอกแม่มาซื้อทำไม ฉันเมาๆ กลับมาฉันตกคลองตายใครก็ไม่รู้ ถนนก็ไม่มีในบ้าน ตอนปลูกใหม่ๆ ต้องไปเอาไม้กระดานมาทำทาง เพราะมันเป็นดินแฉะๆ แม่เขาก็บอกว่าเขาจะซื้อ เราก็ตามใจเขา ที่เราเสียใจเพราะบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่เขาซื้อเองด้วยเงินที่เราให้เขา โดยที่เขาไม่ได้ขอเป็นก้อนเลย เป็นเงินที่เราให้เขาสะสมไปเรื่อยๆ แล้วเขาเอาไปซื้อบ้าน
ก็คุยกับลูกๆ ยุ้ยก็เห็นด้วย ยุ้ยเรียกเพื่อนเขามาดู เพื่อนเขามาดูก็บอกบ้านมันทรุด ซ่อมก็ 10 ล้าน พ่อไปซื้อใหม่ดีกว่า ที่ขายไปได้ 10 กว่าล้าน เงินทั้งหมดที่ขายบ้านได้ก็มาลงกับการรักษาแม่ทุมหมดเลย ไม่เหลือเลย ต้องบอกว่าเขาเจ็บคราวนี้จนถึงเขาเสียชีวิตแทบไม่ได้ใช้เงินเราเลย เขาเตรียมของเขาไว้ทุกอย่าง เขาเป็นผู้ให้จนวินาทีสุดท้าย งานศพเขาทำบุญ 100 วันแล้วก็ยังเหลือไปทำบุญให้เขาได้อีกเยอะมาก เขาเกิดมาเป็นผู้ให้จริงๆ”
ถือเป็นการปิดตำนานบ้านลาดพร้าว71 ที่ดาราหลายๆ รุ่นที่มาเรียนรู้วิชาการแสดงและเป็นตำนานของ “แม่ทุม” ด้วย เป็นรังรักที่สร้างมาด้วยกัน
“บ้านหลังนั้นมันเป็นตำนานจริงๆ แล้วตัวแม่ทุมเองก็เป็นตำนาน ก็ปิดไปแล้ว จบไปแล้ว ก็เหลือแต่ยายทุมที่ยังอยู่กับเรา (มันทำใจยากไหมที่เราจะต้องย้ายออกจากตรงนั้น?) โถ...ลูกเอ้ย ขนของชิ้นสุดท้ายกว่าจะออกจากบ้านได้ ถอยมาแล้วดูอยู่นั้นแหละ ถ้าพูดแบบนวนิยายมันก็คือรังรักของเราที่เราสร้างมาด้วยกัน เงินทุกบาททุกสตางค์ เรามีความสุข ความทุกข์ มันอยู่ในบ้านหลังนี้ทั้งหมด ตอนที่ขายเขายังอยู่ ก็บอกเขาที่โรงพยาบาลบอกพ่อตัดสินใจขายบ้านแล้วนะแม่นะ หมอบอกว่าแม่จะต้องนอนที่โรงพยาบาลอีกนาน แต่จริงๆ หมอบอกไว้แล้วว่าไม่ได้ออกหรอก พ่อก็เลยคิดว่าขายบ้านดีกว่า เพราะเราก็ไม่ได้อยู่”
เล่า “แม่ทุม” มาเข้าฝัน แถมมาให้หวยตนถูกหลายบาท
“ก็มานะ แต่มาในฝันหรือว่าเราคิดมากไปก็ไม่รู้นะ เขามาวันแรกเมื่อวันที่ 15 ต.ค. เรานอนอยู่ก็ฝันว่ามีคนมายืนหน้าบ้าน ก็เปิดหน้าต่างไปดู อ้าว แม่ไปยืนทำไมหน้าบ้าน เขาบอกสูบบุหรี่เสร็จก่อน เดี๋ยวควันไปโดนหลาน เราก็บอกรีบๆ เข้ามา ในฝันเราก็ปิดหน้าต่างแล้วลงมานอนต่อ เอ๊ะ ทำไมยังไมเข้ามา ก็ออกไปโผล่ดู ไปไหนของเขา หันไปดูหน้าบ้านก็ไม่มี หันไปเจอบ้านเลขที่ เป็นเลข 381 ตื่นเช้ามาสะดุ้ง โทร.หาเพื่อนให้จัดการให้ อยากซื้อหวย 38 83
ก็ถูกมาหลายตังค์ เมื่อคืนก็มา มาถึงเธอๆ ซื้อหวยให้ฉันหน่อย เราก็ถามจะซื้ออะไร เขาบอก 85 เราก็บอกได้ๆ ในฝันนะ หวยมันก็ออก เราก็บอกแม่ เธอเล่นหวยไม่ดูตาม้าตาเรือ หวยมันออก 951 แต่แม่ซื้อ 85 มันก็ถูกกินสิ ในฝันนะ ฝันเมื่อคืนเลย ในฝันเขาก็มาสวยเลย เขาสวยเสมอ แต่งหน้าเหมือนเดิม ปากแดงๆ”
ยังคงทำงานต่อไปเรื่อยๆ ลั่นยินดีและภูมิใจที่ยังมีคนจ้างงานตนแม้จะอายุ 74 ปีแล้ว
“ลดได้ยังไง พอทางนี้ปิดทางนั้นก็เปิดใหม่ รับต่อเนื่องไปเรื่อย บางเรื่องก็แค่รับเชิญ ต้องบอกว่าเราอายุ 74 แล้ว แล้วยังมีคนเห็นคุณค่าของเรา อยากให้เราไปร่วมงานเราก็ยินดี ดีใจและภูมิใจในตัวเองที่ยังสามารถทำให้ทุกคนยังรักยังเมตตาเราอยู่ได้ ไปทำงานหลานขับให้บ้าง ลูกบ้าง ยุ้ยเขาไม่ให้ขับรถเองแล้ว”