“เจนนี่ ได้หมดฯ” ลั่นไม่อยากลบคลิปเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอฯ เพราะเป็นความภาคภูมิใจของชีวิต แต่ถ้าศาลสั่งลบก็ต้องลบ บอกอยากไกล่เกลี่ย “เก้า” เผื่ออนาคตกลับมาร่วมงานกันอีก แย้มอีก 2 ปีแต่งงาน “เนเงิน” ฟุ้งดรามาที่ผ่านมาเป็นเครื่องพิสูจน์ความรักที่อีกฝ่ายมีให้กับตน
หลังจากที่นักร้องสาว “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” หรือ “รัชนก สุวรรณเกตุ” เจอสารพัดมรสุมถาโถมเข้ามาในชีวิตจนทำให้ช่วงหนึ่งของเธอนั้นเสียหลัก ถูกแคนเซิลงาน และโจมตีอย่างหนัก แต่เพราะความอดทนและลุกขึ้นมาสู้ต่อ จึงทำให้วันนี้นักร้องสาว เจนนี่ กลับมาผงาดในวงการได้อีกครั้ง และครั้งนี้ เจ้าตัวได้ออกมาอัปเดตเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมาให้กับทุกคนได้ฟังว่า...
“ตอนนี้สภาพจิตใจดีขึ้นเยอะแล้วค่ะ แล้วก็ทำงานหนักมาสักพักแล้ว เลยไม่ค่อยได้คิดถึงเรื่องดรามาแล้ว ช่วงเวลานั้นน่าจะเป็นเวลาหนักสุดในชีวิตแล้วค่ะ ร้องไห้ทุกวัน แล้วก็ไม่กินข้าว น้ำหนักลดดาวน์ไปประมาณ 2 อาทิตย์ แล้วเหมือนน้องในค่าย รวมถึงลิลลี่เขาก็บอกว่ายังอยู่ข้างๆ นะ เมื่อไหร่จะทำเพลงให้ รออยู่ เราก็เลยคิดว่าถ้าเราลุกขึ้นช้าน้องๆ ก็จะเดินไปข้างหน้าได้ช้าลง เราก็เลยต้องรีบฮึบตัวเองขึ้นมาทำงานต่อ แล้วก็สร้างค่ายต่อค่ะ”
ที่ผ่านมาไม่กล้าเจอสื่อเพราะกลัวทัวร์ลง
“ไม่ได้ออกจากวงการ แต่ต้องแจ้งตรงๆ ว่าตอนนั้นไม่อยากเจอสื่อเพราะกลัวว่าเดี๋ยวจะมีทัวร์ลงอีก โดนด่าอีก ทุกครั้งที่มีข่าวก็จะมีคนด่าตลอดก็เลยไม่อยากเป็นข่าวตอนนั้น แต่ลืมไปว่าด้วยหน้าที่การงานแล้วการทำเพลงของเรามันก็ต้องใช้สื่อในการโปรโมตต่างๆ เราก็เลยคิดว่าเราต้องแก้ไขและรีบเดินหน้า
ตอนนั้นกลัวว่าด้วยกระแสต่างๆ จะทำให้ค่ายเพลงของเราไปไม่รอด เพราะคนอาจจะไม่สนับสนุน คิดว่าตอนนั้นค่ายคงจะไม่มีแล้วต่อไป แต่ว่าคิดไปคิดมาสุดท้ายแล้วทุกคนก็ต้องดูกันที่ผลงาน ในเมื่อถ้าเราตั้งใจทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด แล้วเราก็เชื่อว่ายังไงคนไทยก็ต้องให้โอกาส และต้องกลับมาเสพผลงานเราแน่นอน”
โอดดรามาทำกระทบงาน ไม่มีงานเลยแม้แต่ชิ้นเดียว สูญเงินหลายล้าน
“เยอะมากค่ะ แทบจะไม่เหลืองานสักชิ้นเดียวเลยค่ะ ทุกงานแคนเซิลหมด แต่เราก็เข้าใจเพราะว่าการที่เป็นข่าวเสียๆ งานและสินค้าต่างๆ ก็จะโดนไปด้วย เราก็เลยโดนแคนเซิลรีวิว แคนเซิลคอนเสิร์ตบ้าง แล้วก็รวมถึงภาพยนตร์อะไรต่างๆ
ตอนนั้นเตรียมใจไว้แล้วค่ะ เพราะว่างานที่ดีลไว้ก็จะเมมเบอร์ไว้อยู่แล้ว พอโทรมาปุ๊บอืม แน่นอน เราก็โอเคค่ะ เหมือนบางคนเราก็เลือกที่จะทักไปถามด้วยซ้ำงานใหญ่ๆ ว่าพี่ยังโอเค ถ้าไม่โอเคตอนนี้พักหนูก่อนไหม หรือว่าแคนเซิลก็ได้ เราก็ยินดีที่จะคืนเงิน ตอนนั้นรายได้ก็หายไปหลักล้านค่ะ”
แต่ตอนนี้งานกลับมาเยอะกว่าเดิม ปลงแล้วต่อให้ตนดีแค่ไหนสุดท้ายก็มีคนด่าอยู่ดี
“งานเยอะค่ะ เยอะกว่าเดิมด้วยตอนนี้ ขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาส ขอบคุณเจ้าของแบรนด์ทุกคนที่กลับมา แล้วก็คอนเสิร์ตก็เต็มเดือนค่ะ ตอนนั้นไม่มีอะไรเรียกความเชื่อมั่นได้เลยค่ะ เพราะว่าข่าวออกทุกวัน แต่ว่าในโซเชียลของเรา โซเชียลสำคัญ เหมือนเรายังมีเอฟซีที่ให้กำลังใจ แล้วเราก็สร้างผลงานใหม่ขึ้นมาให้เอฟซีกลับมาเสพ กลับมาชื่นชม ยังไงงานเขาก็ต้องกลับมาจ้างเรา
(แต่ก็จะมีคนมองภาพลักษณ์ว่าเวลาทำอะไรเราอาจจะโดนดรามาตลอด?) เจอตลอด เดี๋ยวนี้ก็โดนด่าทุกวันค่ะ เอ็มวีออกมาใหม่ก็โดนว่า ต่อให้ทำดีที่สุดสำหรับเราแล้วมันก็ไม่ได้ดีที่สุดสำหรับคนอื่นอยู่ดี เพราะฉะนั้นแล้วยอมรับแล้วค่ะเดี๋ยวนี้ เมื่อก่อนโอเคโดนด่าแล้วร้องไห้ แต่เดี๋ยวนี้โดนด่าก็ทำให้เรารู้สึกสตรองขึ้น ไม่เป็นไรแล้วค่ะ”
เผยปัญหาหนี้สินของคุณแม่ตอนนี้เคลียร์หมดแล้ว
“ถ้าที่เรารู้จักคือเคลียร์หมดแล้วค่ะ แต่เราก็ไม่รู้ว่ายังมีอีกไหม อาจจะร้อยสองร้อยพันสองพัน อาจจะตกหล่นอยู่บ้างก็มาได้ตลอดค่ะ ตอนนี้ไม่ได้มีเจ้าหนี้คนไหนมาแสดงตัวอีกแล้ว เคลียร์หนี้ไปทั้งหมด หลักล้านค่ะ หลายล้านอยู่ เยอะอยู่ค่ะ จากที่มีข่าวตอนนั้นหลังๆ ก็มีมาอีกค่ะ แต่เหมือนเจ้าหนี้บางท่านไม่ได้มาออกสื่อ ทักไปเป็นการส่วนตัวเลยก็เคลียร์เลย แม่จำได้บางทีไม่ต้องมีหลักฐาน ถ้าจำได้ก็จ่ายเลยค่ะ”
ทุกวันนี้มีน้องๆ ในวงเป็นแรงผลักดันตัวเองให้ตนมีกำลังใจในการทำงานต่อไป
“ใช้น้องๆ ในค่ายเป็นแรงผลักดัน เหมือนอนาคตของเขาทั้ง 20 กว่าคนอยู่กับเรา เราก็ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้เขาก่อน ถ้าเราสร้างความเชื่อมั่นให้เขาได้ เขาก็สบายใจที่จะอยู่กับเรา และมีความสุขในการทำงานทุกๆ วัน (น้องๆ ที่ออกไปก่อนหน้านี้มันส่งผลกระทบกับความเชื่อมั่นของน้องๆ ในสังกัดคนอื่นด้วยไหม?) ถ้าเด็กเดิมจะไม่ส่งผลค่ะ เพราะว่าทุกคนอยู่กับเราตลอดเวลา เหมือนน้องบางคนที่ออกไปก็ไม่ได้อยู่กับเราด้วยซ้ำ เขาก็ยังให้ความเชื่อมั่นเราคือคนเรามันเจอไม่เหมือนกัน แล้วก็สนิทสนมไม่เหมือนกัน บางคนสนิทมากก็เชื่อมั่นเยอะหน่อย บางคนไม่ค่อยได้คุยเขาก็คิดไปต่างๆ นานา”
ลั่นเคลียร์ชัดกับน้องในวงหากใครอยากอยู่กับตนก็เซ็นสัญญา แบ่งผลประโยชน์กันชัดเจน มีฝ่ายกฎหมายดูแล
“ตั้งแต่เป็นข่าวตอนนั้น พอวันที่เราลุกขึ้นสู้เราก็บอกทุกคนว่าใครจะอยู่ก็เซ็นสัญญาอีก 2 วัน ถ้าใครจะออกก็ออกได้เลยค่ะ ข้อตกลงในสัญญาชัดเจนขึ้นไหม ใช้ทนาย มีฝ่ายกฏหมาย ตอนนี้ค่ายเพลงมันก็ดูเหมือนเยอะขึ้น เพราะมีฝ่ายกฏหมาย มีฝ่ายบัญชี มีทุกอย่าง ส่วนแบ่งเคลียร์กันชัดเจน รอบคอบมากขึ้น ตอนนี้มีน้องอยู่ 25 คนออกไป 5 คนค่ะ”
ส่วนความคืบหน้าคดีกับ “เก้า เกริกพล” ยังรอการไต่สวนจากศาล ซึ่งตนยอมรับคำตัดสินไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร
“ของน้องเก้า ศาลนัดไต่สวนวันที่ 9 ค่ะ แต่เราไม่ได้ไป เพราะเล่นคอนเสิร์ตอยู่ที่อุบลราชธานี แล้วก็อีกอย่างทนายบอกยังไม่ต้องไปก็ได้ เป็นคดีอาญา ก็เลยยังต้องไต่สวนกันก่อนถึงจะรับฟ้อง ไม่ว่าศาลจะตัดสินยังไงก็ได้หมดเลย (ก่อนหน้ามีข่าวว่าเราจะให้เงินเขา 1 ล้านจริงไหม?) ก็มีคุยหลังบ้านค่ะ เรื่องตัวเลข แต่ว่าไม่ลงตัวกัน กับทางโน้นบอกไม่ได้คุยตรงกันค่ะ มีคนกลางคุยให้ เราก็ไม่รู้ว่าคนกลางถึงขนาดไหน แต่ว่ามีการคุยแน่นอนค่ะ”
ส่วนตัวไม่อยากลบคลิป เพลงเลิกคุยทั้งอำเภอฯ เพราะเป็นความภูมิใจในชีวิต แต่ถ้าศาลสั่งลบ ตนก็ต้องลบ
“ไม่อยากลบค่ะ เพราะเพลงนี้ 350 ล้านวิว ถามว่าเยอะไหม มันก็เยอะ แต่จริงๆ แล้ว ต่อให้ต้องลบเพลงที่มีแค่ 10 ล้านวิว มันก็เสียใจ เพราะผลงานทุกชิ้นภูมิใจมาก แล้วเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอฯ เราตั้งใจแต่งมากๆ แล้วมันเกินความคาดหวัง 350 ล้านวิว มันไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะทำได้อีกไหม ก็ไม่รู้อนาคต 350 ล้านวิวได้รายได้ที่ได้ก็ประมาณ 4 ล้านกว่าๆ
ส่วนกรณีที่ฝั่งโน้นอยากให้ลบ เราไม่ขอสร้างประเด็นต่อเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว แต่ไม่ว่าศาลจะบอกยังไง จะแพ้หรือจะชนะก็ยอมรับได้หมดเลยค่ะ ถ้าศาลบอกว่าต้องลบ ก็ต้องลบค่ะ ทางทนายความเขาบอกสบายใจได้เลย ทำงานดีกว่า เขาบอกว่าจะทำงานเต็มที่ ต่อให้ทนายมายืนยันว่าเราชนะ เราก็ไม่สบายใจหรอกค่ะ เพราะฉะนั้นเต็มที่ดีกว่า ไม่ว่าจะลบหรือบวกได้หมดเลยค่ะ ไกล่เกลี่ยได้ (แบบไม่มีคนกลาง) ได้ค่ะ พร้อมรับโทรศัพท์ตลอด”
บอกตั้งแต่มีปัญหาก็ไม่เคยได้เจอกับอีกฝ่ายเลย อยากไกล่เกลี่ยเผื่ออนาคตได้ร่วมงานกัน
“ยังไม่เคยเจอค่ะ แต่ก็อยากไกล่เกลี่ย เผื่ออนาคตได้ร่วมงานกัน เมื่อก่อนติดต่อตลอดแล้วตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าถ้าติดต่อไปแล้วมันจะเป็นยังไง ก็เลยไม่ได้ติดต่อเลย แล้วพอถึงกระบวนการของกฏหมายแล้วเราก็เลยคิดว่าให้สิทธิ์ตรงนี้ก่อน แล้วค่อยว่ากัน (ถ้าเขาโทร.มา?) ก็รับค่ะ แต่ขอเป็นฝ่ายรอดีกว่า เพราะเราเคยทักไปแล้ว แต่ในเมื่อมันถึงกฏหมายแล้ว ก็ให้กฏหมายจัดการไปเลย”
เชื่อแล้วเรื่องเบญเพส บอกอายุ 25 ปีได้ 2 อาทิตย์เกิดเรื่องเลย
“มีค่ะ เชื่อเรื่องเบญจเพสด้วยค่ะ พอ 25 ปี ไป 2 อาทิตย์ก็เจอข่าวเลย ก็ทำบุญหนักมากค่ะ ทำทั้งในวัดและในครอบครัว รวมถึงผู้คนที่เจอรอบข้าง เราก็เช็กดวง เขาบอกเบญจเพสร้ายต้นปี ปลายปีจะดีค่ะ เหลืออีกเดือนเดียวค่ะ สู้ๆ”
แพลนภายใน 2 ปีนี้เตรียมแต่งงานกับ “เนเงิน เจตริน ศรีสังข์” ฟุ้งดรามามีส่วนช่วยพิสูจน์ความรักของแฟนหนุ่ม
“ก็อยากมีครอบครัวค่ะ อยากอยู่เบื้องหลังเต็มตัวแล้วด้วย แต่ไม่ใช่ว่าจะทิ้งงานนี้ไปเลย แต่อยากมีลูกให้แม่ อยากมีครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น เพราะครอบครัวเล็กๆ แล้วมันเหงาๆ เขาพูดว่าปีหน้าหรืออีก 2 ปี ถ้าเขามาขอแต่งงานก็เซย์เยสได้เลย เราก็มีการคุยกัน แต่อย่าเพิ่งพาดหัวข่าวว่าจะแต่งงาน ขอเวลาทำงานอีกแป๊บนึง
เรามั่นใจว่าคนนี้จะฝากชีวิตไว้ได้ เพราะอยู่กันมานานแล้ว ไม่รู้อนาคต ไม่การันตีค่ะ แต่ว่าสบายใจ จะแต่งก็แต่งค่ะ โอเค พอมีเรื่องราวดรามาเข้ามา ทำให้พิสูจน์ได้เยอะมาก เขาไม่เคยไปไหนเลย ตกใจเหมือนกัน ที่ไม่มีสักวันที่หายไป ปกติก็กลับบ้านบ้าง เดือนละ 2-3 ครั้ง แต่ว่าตั้งแต่เจอดรามา ไม่เคยไม่กลับเลย เพราะเขาบอกว่า ไม่รู้ว่าเราจะร้องไห้เมื่อไหร่อีก ก็อยู่ข้างๆ ตลอด ก็อยากขอบคุณเขาค่ะ การกระทำบอกทุกวันอยู่แล้ว”
เข้าใจสัจธรรมดังได้ก็ดับได้ ดับแล้วก็สร้างใหม่
“คนเรามีขึ้นก็ต้องมีลง ดังได้กับดับได้ ดับได้ก็สร้างใหม่ได้ค่ะ ตอนนี้ก็กลับมาทำงานเต็มที่ ทุกอย่างปกติ ค่ายเพลงยังเป็นชื่อเดิม ตอนนี้กำลังสร้างค่ายใหม่เพื่อสร้างฐานความมั่นคงให้กับน้องๆ ที่ยังอยู่ ก็ค่ายเดิมนั่นแหละ แต่สร้างตึกเพิ่ม ขยายใหญ่ขึ้น ให้เป็นเรื่องราวมากขึ้น”