ระอุ! "ฟ้าใส" ไม่ทน สวนกองประกวด ซัดไม่ต่อสัญญาเพราะถูกเปลี่ยนเนื้อหา หักเปอร์เซ็นต์ให้กองมากกว่าเดิม TPN สวนทันที โพสต์ไม่จริงจะดำเนินคดีตามกฎหมาย
ระอุยามดึกกันเลยทีเดียว หลังจากที่ “ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก” และ “ณะ ณรงค์ เลิศกิตศิริ” ในฐานะผู้อำนวยการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ออกโรงเคลียร์ดรามา “ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 ถูกกองประกวดยึดมงกุฏ หลังขึ้นอำลาตำแหน่ง โดยยืนยันว่าจะเรียกว่าทวงคืนไม่ได้เพราะไม่ได้ให้ไปตั้งแต่แรก โดยเป็นไปตามระเบียบกองประกวด เหตุอีกฝ่ายไม่เซ็นสัญญา
ล่าสุดฟ้าใส ส่งจดหมายชี้แจงเหตุไม่ต่อสัญญา ซึ่งถือว่าเป็นการพูดครั้งแรกของเจ้าตัว โดยเผยว่าเป็นเพราะกองประกวด ได้เปลี่ยนเนื้อหาในสัญญา เพิ่มจำนวนปีในการผูกพันสัญญา และเพิ่มจำนวนหักเปอร์เซ็นต์ให้กองประกวด รวมทั้งยังมีสาระสำคัญอื่นๆ ทำให้ไม่สามารถตกลงกันได้
"ชี้แจงเหตุผลการไม่ต่อสัญญาของ ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น กับบริษัท TPN 2018 จำกัด (ผู้ถือลิขสิทธิ์การประกวด Miss Universe Thailand)
ฟ้าใสได้เซ็นสัญญาครั้งแรกกับ บริษัท TPN 2018 จำกัด 1 ฉบับ ในขณะเข้าร่วมประกวด Miss Universe Thailand 2019 โดยในสัญญาได้ระบุรางวัล และระยะเวลาผูกพันสัญญากี่ปี การแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้กับกองประกวดกี่เปอร์เซ็นต์ และเงื่อนไขการทำงานบทบาทหน้าที่ของ Miss Universe Thailand ไว้อย่างชัดเจน ซึ่งผู้เข้าร่วมประกวดในรอบ 60 คน ทุกคนจะต้องเซ็นสัญญาฉบับนี้ และมีผลถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งฟ้าใสก็ยึดถือสัญญาฉบับนี้และปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด
.
จากนั้นทางกองประกวดได้มอบสัญญาฉบับใหม่ให้ฟ้าใสเซ็นที่แอตแลนต้า ก่อนเข้าเก็บตัว Miss Universe ซึ่งสัญญาฉบับใหม่นั้น ได้มีการเปลี่ยนเนื้อหาสัญญาซึ่งไม่ตรงกับฉบับแรก อาทิเช่น มีการเพิ่มจำนวนปีในการผูกพันสัญญาที่มากขึ้น เพิ่มจำนวนหักเปอร์เซ็นต์ให้กับกองประกวด และในสาระสำคัญอื่น ๆ ที่ไม่สามารถตกลงกันได้ ทางคุณแม่และฟ้าใส จึงขอเปลี่ยนเนื้อหาสัญญาบางอย่าง และเงื่อนไขบางอย่างให้ถูกต้องตรงตามเจตนารมณ์ของสัญญาฉบับแรก
.
หลังกลับจากการประกวด Miss Universe ทางกองประกวดได้เรียกฟ้าใสเข้าไปเซ็นสัญญาใหม่อีก 1 ฉบับ ซึ่งฉบับนี้เงื่อนไขไม่เหมือนกับฉบับแรก และไม่เหมือนกับฉบับที่แอตแลนต้า เมื่อมีการทักท้วงในเงื่อนไขบางข้อ ทางกองประกวดจึงขอจบสัญญากับฟ้าใส ซึ่งข้อตกลงมิได้เป็นที่เปิดเผย”
ด้าน "ปุ้ย ปิยาภรณ์" ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กสวนทันที "ข้อความใดๆ ที่โพสต์ออกมาแล้วไม่เป็นความจริง ซึ่งทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย บริษัทจำเป็นต้องรักษาสิทธิ์ และดำเนินคดีกับผู้ที่กล่าวหา หรือโพสต์ข้อความที่ไม่เป็นความจริงนั้น ตามกฎหมายต่อไป"
