xs
xsm
sm
md
lg

กองประกวด MUT ฟาดกลับ ไม่ได้ทวงมงกุฎคืนจาก “ฟ้าใส” เหตุไม่ได้ให้แต่แรก จบนะ!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กองประกวด MUT ยันไม่เคยยึดมงกุฎ “ฟ้าใส” เพราะไม่ได้ให้ไปตั้งแต่แรก เหตุอีกฝ่ายไม่เซ็นสัญญา เป็นไปตามระเบียบกองประกวด ยันไม่ตัดขาดมีงานที่เหมาะสมก็จะจ้าง ย้ำชัดเวที TPN ไม่มีมงกุฎเวียนแน่นอน

เฮี้ยนจริงๆ สำหรับเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ที่ปีนี้มีข่าวฉาวรายวันแม้ประกวดจบไปแล้วแต่ดรามายังไม่จบ โดยเฉพาะประเด็นปัญหาบาดหมางระหว่าง “ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 กับกองประกวดฯ ที่ปะทุเป็นระลอก ล่าสุดก็มีประเด็นเหม็นหึ่งอีกแล้วเมื่อฟ้าใสออกงานโดยไร้มงกุฎและสายสะพายประจำตำแหน่ง ทั้งที่เพื่อนนางงามจากเวทีอื่นใส่กันครบแถมอยู่ๆ “เอส อนุสิทธิ์” ผู้จัดการส่วนตัวของฟ้าใสออกมาทิ้งระเบิดตูมใหญ่ โพสต์ร่ายยาวว่าฟ้าใสโดนกองประกวดยึดมงกุฎ หลังขึ้นอำลาตำแหน่ง จนต้องไปอ้อนวอนขอยืมมงฯ มาใส่ถ่ายรูปกับแฟนคลับ 15 นาที ทีมงานก็ถือกล่องมาทวงมงฯ คืนเรียกว่าฟาดกันยับแซบจนต้องซี้ดปาก

งานนี้ร้อนถึง “ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก” และ “ณะ ณรงค์ เลิศกิตศิริ” ในฐานะผู้อำนวยการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ต้องออกโรงเคลียร์ด้วยตัวเอง ซัดกลับฟ้าใสไม่ยอมเซ็นสัญญาทำให้ต้องทวงคืนมงกุฎและเงินรางวัลทั้งหมด ซึ่งเป็นไปตามกฎระเบียบของกองประกวด แต่ไม่ใช่การปลดออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้อนุญาตให้ฟ้าใสทำมงกุฎสำรองไว้ใส่ออกงานได้

ปุ้ย : “ถ้าจะพูดถึงความดรามาในกองประกวดของเรา เราไม่มีดรามาเพราะเรื่องนี้มันจบไปต้นปีแล้ว ทุกอย่างจบสวยงาม น้องๆ มาบอกว่ามีเรื่องแล้วแต่สำหรับพี่ปุ้ยไม่มีเรื่องแน่นอนเพราะไม่ทราบว่าจะมีเรื่องได้ไงจริงๆ แล้วอยากจะให้ถามท่านนั้นด้วยจริงๆ แล้วเขาไม่ได้ไปตามทวงอะไรเลย แต่อย่าลืมนะว่ามงกุฎมูลค่าเป็นล้านเขาต้องดูแล วันนั้นปุ้ยกับพี่ณะสองคนวุ่นวายกันอยู่หลังเวทีเราจะไม่มีสิทธิ์รู้เลย เพราะทุกคนก็ต้องมีหน้าที่ดูแลคนของตัวเอง ไม่ใช่ไปเดินตามทวงไม่ใช่เลย อันนี้ไปถามเขานะ จะไปทวงทำไมเราต้องให้เขาใส่พบปะแฟนๆ พบปะผู้คนอยู่แล้ว

อยากจะบอกตรงนี้ว่า TPN ก็ชัดเจนว่าในทุกปีเรามุ่งหน้าที่จะทำให้ดีที่สุดเพื่อค้นหามงฯ 3 ของเรา ตอนนี้งานหนัก สถานการณ์โควิดเป็นอย่างนี้สถานการณ์โลกจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ เทรนอแมนด้ามันต้องเทรนกันเป็นปี ศักยภาพของคนจะต่างกันมันก็ต้องมีดูว่าคุณขาดตรงไหน ต้องเพิ่มตรงไหน กองก็ต้องมีหน้าที่จัดงบเข้าไปเพื่อให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์ที่สุดเพื่อมงฯ ที่ 3 เป็นสิ่งที่เราต้องการมากอันนี้เป็นสิ่งที่เราเน้นจริงๆ”

ลั่นไม่ได้เอามงกุฎคืนจาก “ฟ้าใส” เพราะไม่ได้ให้ตั้งแต่แรก
ปุ้ย : “เราไม่ได้เอาคืนนะคะ ถ้าการเอาคืนแปลว่าให้แล้วยึดคืน ตรงนี้เรียกว่าไม่ได้ให้ตั้งแต่แรก”

ณะ : “มงกุฎพอครบจบปี มงกุฎมันต้องคืนอยู่แล้ว เพราะหมดวาระแล้ว คนใหม่ก็จะขึ้นมา แน่นอนวันนั้นเราก็ตั้งใจแล้วดูจุดประสงค์สิครับ เรามีการถ่ายภาพ vtr ก่อนหน้าที่จะมีงานเราให้เขาถ่ายภาพอำลาเวที ก่อนหน้าที่จะมีงานเราให้เขาเดินใส่มงกุฎบนเวทีในการอำลาตำแหน่ง เราให้เขามอบมงกุฎให้กับมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์คนล่าสุด ซึ่งถ้าเรามีปัญหากับเขาตั้งแต่แรกซีนนั้นก็คงจะไม่มีคนเห็น”

บอกไม่มีปัญหากับ “ฟ้าใส” และยันมงกุฎ TPN ไม่มีมงกุฎเวียน
ปุ้ย : “เราไม่มีอะไรกับน้องหรอกค่ะ เรายังยืนยันนะคะว่ามงกุฎของ TPN ไม่เวียนค่ะ แต่ละปีน้องที่จบครบตำแหน่งอย่างอแมนด้า ออบดัม เขามารับตำแหน่งมงกุฎนี้ก็จะเป็นของน้อง น้องจะไปเก็บไว้ในตู้ที่บ้านล็อกกุญแจให้ดีมันเป็นของที่มีมูลค่ามันเป็นสิ่งที่น้องจะต้องได้ ถามปุ้ยว่ามีดรามาไหมสำหรับ TPN บอกเลยว่าไม่มีดรามาเพราะทุกอย่างมันเป็นการตกลงปลงใจก็เคารพในเกียรติของน้องด้วย แล้วทางกองเองก็ไม่มีประเด็นอะไรกับฟ้าใสเลย

ถ้าสังเกตให้ดีอันนี้ท้าปุ้ย พี่ณะ ไม่เคยออกมาพูดว่าน้อง มีแต่บอกว่าคนเราเวลามีดรามาอะไรก็จะบอกเสมอว่าให้มองในจุดดี น้องเขาก็ทำเต็มที่เต็มเหนี่ยวของเขา นำความสุขมาให้กับพวกเรา เราก็ดูในจุดเดียวกันคือสร้างสรรค์ เราจะพูดแบบนี้ตลอด มีบางคนส่งมาให้เราดูไม่แปลกหรอกค่ะการวิพากษ์วิจารณ์ไม่ว่าอะไรกัน แต่อันไหนที่ดูแล้วเกินเลยไปบ้างเดี๋ยวก็คงจะต้องเจอกัน”

ไม่แฟร์หากให้พูดอยู่ฝ่ายเดียวว่าทำไม “ฟ้าใส” ถึงไม่มีมงกุฎอยู่คนเดียว
ปุ้ย : “ปุ้ย พี่ณะ จะมาตอบตรงนี้ฝ่ายเดียวมันไม่แฟร์ มันไม่ดี เอาเป็นว่าเราต้องให้เกียรติน้องเขาด้วย ในสัญญาในข้อตกลงเอาเป็นว่าฟ้าใสเขามาพบกับเรามาพร้อมกับทนายความของเขา ญาติของเขา แล้วตกลงกันด้วยดีตั้งแต่เดือนก.พ.เรียบร้อยเลย ไม่เข้าใจว่า ณ จุดนี้วันนี้ตอนนี้เกิดเรื่องได้อย่างไร ปุ้ยไลน์ถามน้อง น้องก็น่ารักค่ะ น้องบอกว่าน้องไม่ได้เล่าเรื่องสัญญาหรือข้อตกลงอะไรให้กับผู้จัดการของน้องฟังเลย น้องยังบอกว่าถ้าปุ้ยไม่แฮปปี้กับการโพสต์ของผู้จัดการรบกวนโทร.ไปคุยกับผู้จัดการเอง ปุ้ยก็บอกว่ามันไม่ใช่ธุระของเรา จะไปเที่ยวไล่โทร.ก็มีแค่นี้เอง

ลองถามผู้จัดการประกวดทุกเวที นางงามทุกคนเมื่อได้รับตำแหน่งของเวทีนั้นๆ ต้องเซ็นสัญญา ธรรมเนียมปฎิบัติแล้วต้องเซ็น อแมนด้าเซ็นแล้วในวันที่ 30 ต.ค. อแมนด้าจะไปรับรถขับกลับบ้าน อย่างที่บอกว่าเดี๋ยววันที่อแมนด้าย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านใหม่ก็จะจัดปาร์ตี้เล็กๆ กันด้วย”

ชี้ชัด “ฟ้าใส” ไม่ได้มงกุฎไปเพราะไม่เซ็นสัญญากับทางกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ลั่นสัญญาที่ให้เซ็นไม่ได้โหดแพตเทิร์นเดียวกันหมด
ปุ้ย : “ใช่ค่ะ แล้วเราก็เคารพการตัดสินใจของน้อง TPN มีหลักว่าเราคุยกันรู้เรื่อง เข้าใจน้องอาจจะมีเส้นทางของน้อง ไม่เซ็นเราก็ไม่ว่ากันมันมองได้หลายเหตุการณ์ มงกุฎต้องเป็นของนางงามเราไม่เวียนค่ะ เราหาสปอนเซอร์ทุกปีให้ได้เพชรน้ำงามที่สุด มงกุฎที่ดีที่สุด ให้เขาไปเก็บไว้ว่ามันคือครั้งหนึ่งในชีวิตของเขา

สัญญานางงาม 1 ปีสัญญาศิลปิน 3 ปีชัดเจนนะคะ แล้วสัญญาของเราถ้าไปไล่ถามนางงามทุกคนไม่ว่าซีซั่นไหนกองไม่เคยไปวุ่นวายเรื่องของการห้ามรับงานต่างๆ ถามได้เลย เพียงแต่ว่าขอเราดูแลในด้านภาพลักษณ์นิดนึงว่าคุณจะทำอะไร เพราะนี่เป็นภาพลักษณ์ของสายสะพายของผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ แล้วอันนี้เป็นเกียรติที่ทุกคนต้องรักษาร่วมกัน เรื่องมีอยู่แค่นี้เอง

ถามว่าสัญญาโหดไหม ถ้าถามว่าดีไหมก็ต้องตอบว่าดี เพราฉะนั้นสัญญาโหดหรือไม่โหดนั้นคิดว่าถ้าเป็นเวทีอื่นเขาคงไม่ยอมให้นางงามไม่เซ็นสัญญา แต่ปุ้ยยึดหลักว่าสัญญามันก็แค่สัญญา มันก็ต้องมีวันจบแต่สิ่งที่มันจะต้องอยู่ร่วมกันไปตลอดชีวิต รู้จักกันอยู่ในสังคมเดียวกันเป็นเรื่องดีกว่าสัญญาเยอะ ถามว่าสัญญาโหดไหมไม่หรอกค่ะมันแพตเทิร์นเดียกันหมด”

ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดในเมื่อ “ฟ้าใส” ไม่ได้เซ็นสัญญาแล้วได้รับเงินรางวัลการประกวดในปีนั้นไปหรือไม่
ปุ้ย : “รายละเอียดเป็นข้อตกลงของเราและน้อง เราจะไม่นำเรื่องราวมาเปิดเผยเพราะว่ามันจะทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้เกิดความเสียหายทำให้เกิดการบิดเบือนข้อมูล หรือมีการเอาไปพูดเพิ่มเติม เราก็จะมีข้อตกลงร่วมกันว่าเราจะไม่เปิดเผย ทุกคนมาบอกให้พี่ปุ้ยเอาสัญญามากาง ก็ต้องบอกว่าไปถามน้องฟ้าใสก่อนแล้วกันเราต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน (ในวันที่ตกลงกันผู้จัดการฟ้าใสมาด้วยไหม?) เขายังไม่ได้เข้ามาดูแลน้องยังไม่รู้จักกันเลย”

ไม่กังวล “ฟ้าใส” และผู้จัดการจะออกมาชี้แจง บอกตนทั้งคู่เอ็นดูฟ้าใสเหมือนลูก
ปุ้ย : “คนเรามีสิทธิ์จะดำเนินการอะไรได้ตามใจชอบ เราสองคนยังพูดกันว่าเราก็รักและเอ็นดูฟ้าใสเหมือนลูกเรา เวลาทะเลาะดุลูกบ้างฟ้าใสเขาก็เหมือนลูกเราคนนึง เราไม่เคยว่าอะไรน้องเลยเราเลยไม่กังวลอะไร

ทุกเวทีเป็นแบบนั้นมาตรฐานค่ะ ฟ้าใสนั้นเราไม่ได้ปลดค่ะ ถ้าเราปลดเขาฟ้าใสจะไม่ได้ขึ้นเวที เขาคือมิสยูเวิร์สไทยแลนด์ 2019 และปฏิบัติหน้าที่ได้ครบถ้วน 1 ปีแล้ว และดรามาพีเค (ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร) พี่ปุ้ยยังเฉ่งเลยพูดผิดพูดถูกแต่เขาก็ไม่ได้ตั้งใจ นี่ยังไม่รู้เลยไม่มีเวลาว่างไปดูเทปเลย ว่าเขาพูดผิดตอนไหน แต่บางทีปุ้ยว่าเราต้องมีบรรทัดฐานของสังคมกันบ้างมันไม่ใช่แบบนี้”

ไม่คิดตัดขาด “ฟ้าใส”หากมีงานที่เหมาะสมก็จะจ้างและยังอนุญาตให้ฟ้าใสฟ้าใสไปทำมงกุฎใหม่ของตัวเองได้ตามสบาย
ปุ้ย : “ใครบอกว่าจะตัดขาดเขา เอาเป็นว่ามีงานอะไรที่เหมาะกับน้องแล้วจะต้องว่าจ้างน้อง เขาถือเป็นศิลปินคนนึง เราติดต่อไปเขาจะรับก็รับไม่รับก็มีสิทธิ์ เหมือนการไปติดต่อดาราดังๆ เขาว่างเขาก็รับงานให้ (จะมีโอกาสได้เห็นฟ้าใสใส่มงกุฏของเขาอีกไหม?) อันนี้ไม่เกี่ยวกับกองเราเพราะว่าเขาจบวาระของเขาแล้ว

ถามว่าแล้วถ้าน้องอยากใส่มงกุฏต้องมาขออนุญาตไหม คิดว่าน้องเขาคงไม่มาขอหรอก น้องเขาก็ขออนุญาตว่าเขาจะทำมงฯ อะไรของเขาก็ตามสบายปุ้ยยังบอกอีกว่าให้เขียนจดหมายมาขออนุญาตพี่แคนดี้ ซึ่งท่านเป็นคนออกแบบมงกุฎ เหมือนปุ้ยจะเอารูปน้องไปใช้ก็ต้องขอน้องไหม (อนุญาตให้น้องทำมงกุฏสำรองใช่ได้ใช่ไหม?) ก็แล้วแต่เลยค่ะ”

ณะ : “ก็ต้องมาขอมงฯ สำรองหรืออะไรก็ตาม อย่างที่บอก คนออกแบบคือพี่แคนดี้เราก็ต้องไปขออนุญาตพี่แคนดี้ เพราะลิขสิทธิ์อยู่ที่เขาถ้าอนุญาตก็ไม่น่าจะมีปัญหาแต่บอกไว้ก่อนเลยนะครับว่าการใส่มงกุฎมิสยูเวิร์สไทยแลนด์

หรือประเทศใดๆ ก็ตามไม่สามารถที่จะไปใส่ออกเดินตามท้องถนนใส่ออกไปให้คนโน้นคนนี้เห็น ไม่ใช่บริบทของการเป็นมิสยูเวิร์ส หรือมิสยูเวิร์สไทยแลนด์ ก็จะมีบริบทเลยว่าเราควรจะให้เขาใส่มงกุฏตามงานอะไรบ้างเราก็ลิขสิทธิ์ ต่อมาสมมติว่าเราจะไปเดินตลาดเราจะใส่มงกุฏไปเดินไหมล่ะเขามีกฎตายตัว

ปุ้ย : “ปุ้ยเข้าใจเพราะเขาเป็นเวทีใหญ่ที่สุด แล้วมงกุฏเป็นเรื่องสวมบนศีรษะเป็นเรื่องมงคลนะ”

โอดมีดรามาอะไรทัวร์ก็มาลงที่ฝั่งตน
ปุ้ย : “ทุกเรื่องอย่างที่บอกเหรียญมี 2ด้านก็จริง ทัวร์ที่มาลงจะเป็นแฟนคลับของน้อง แต่บางคนก็น่ารักเข้าใจพูดเองตอบเองให้เราเสร็จสรรพ เพราะช่วงนี้ไม่ว่างเข้าไปเปิดดูมีหลายเรื่องให้ต้องทำ”

ณะ : “เราก็ต้องโฟกัสคนใหม่คือน้องอแมนด้าจะไปเวทีมิสยูเวิร์ส ไม่ใช่ว่าวันนี้เราเห็นน้องแบบนี้การที่จะไปในนามสายสะพายไทยแลนด์เราต้องบริบทหาความสตรองของเขา หาความเป็นอแมนด้าออกมาเอามาโชว์ยูนิเวิร์สให้ได้”

ปีนี้ดรามาเยอะแต่ขอมองบวกว่าการมีดรามาแปลว่าอยู่ในกระแส เชื่อมีสติตั้งมั่นในความจริงทุกอย่างที่ทำมีที่มาที่ไปหมด
ปุ้ย : “ไม่ค่ะ ปุ้ยมองกลับกันว่าเราต้องมองบวก ดรามาที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากอะไรปุ้ยได้คำมาจากน้องคนนึงในกอง ให้มุมมองว่าการมีดรามาแปลว่าอยู่ในกระแส แต่ว่าสิ่งหนึ่งตัวเราต้องตั้งมั่นและอยู่ในความเป็นจริงที่สุด

ณ : “เราต้องมีสติว่าสิ่งที่เขาลงทัวร์เป็นอะไรบ้าง คือทุกๆ วันมันมีเรื่องอย่างที่เห็นกัน ปีนี้เป็นปีที่สองที่เราทำประกวดมิสยูเวิร์สไทยแลนด์

แล้วมันก็ไม่ธรรมดามีสถานการณ์โควิดเกิดขึ้นทุกคนก็เสพจากสื่อหมด ทุกเรื่องเราก็พยายามเต็มที่ที่จะสกัดปัญหาจบปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ปัญหาของทัวร์นะเป็นปัญหาของกองมันมีเรื่องเยอะมาก

ปุ้ย : “เราก็คุยกับไดเร็กเตอร์ทุกประเทศเพราะเราต้องอยู่ในเครือเดียวกันเขาก็น่ารักมากเขาบอกว่ายูทำได้ยังไงไทยแลนด์ ก็เลยบอกพี่ณะว่าทำอะไรก็ต้องโดน ปีหน้าเปลี่ยนรูปแบบการจัด อย่างรอบชุดว่ายน้ำหมดมหาศาลนะแต่เราอยากทำ ต่างชาติดูเขาก็ว้าว จัดได้ยังไง เขาอิจฉานะเพราะเขายังจัดไม่ได้คิดว่าแฟนๆ น่ารักที่ตามกองเรามา ขอบคุณสำหรับกำลังใจขอบคุณในการคิดบวกทุกอย่างมีที่มาที่ไปหมด”

ย้ำ “ฟ้าใส”น่ารักไม่มีอะไรต้องตัดขาดกัน
ปุ้ย : “วันนี้เรายืนยันว่าฟ้าใสเองเขาน่ารักเขาไม่เคยออกมาพูดอะไรเรื่องพวกนี้เลย นี่ได้ถามไปด้วยตัวเอง เขาก็บอกว่าเขาไม่ได้พูด เพราะฉะนั้นจะมาถามว่าจะตัดเขาไหมไม่มีอะไรจะต้องตัดค่ะ ทำไมต้องตัดงานอะไรที่เหมาะสมกับเขาก็คือเขาจบ”














กำลังโหลดความคิดเห็น