อดีตนักร้องลานเบียร์ไม่คิดว่าจะดัง “ลำไย ไหทองคำ” จ้างทีมงานดูแลเสื้อผ้าหน้าผม ปฏิวัติตัวเองจากนักร้องตลาดล่างให้ดูมีคลาส เซ็กซี่มีราคา ภูมิใจงานเยอะขึ้น แฟนคลับอื้อ เหนื่อยใจเป็นคนกลาง “ประจักษ์ชัย-อาม” ตีกันไม่เลิก เข้าข้างฝั่งไหนก็น่าเกลียดทั้งนั้น ปรามสองฝ่ายอย่าโพสต์ถึงกัน
ก่อนหน้านี้ หลายคนเสียดาย “ลำไย ไหทองคำ” ที่มีเสียงไพเราะ หน้าสวย แต่กลับแต่งตัวโป๊จนเกินงาม เป็นนักร้องตลาดล่าง ทำให้หลายคนออกมาแอนตี้ หลังจากที่เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักพักใหญ่แล้ว ตอนนี้ สาวลำไย ก็ตัดสินใจเปลี่ยนลุคตัวเองใหม่ ให้ดูแพง มีระดับขึ้นมา ซึ่งเจ้าตัวดีใจมากที่หลังจากเปลี่ยนลุคแล้ว ตอนนี้มีแฟนคลับมากขึ้นกว่าเดิมด้วย
“เราก็อยากจะปรับเปลี่ยนด้วยค่ะ ให้มันดูเข้ากับเพลงเขาเรียกว่าให้มันดูมีระดับขึ้นหน่อย (หัวเราะ) ขอใช้คำเว้าบ่ถืก ดูแพงขึ้น เรายังคงความเซ็กซี่อยู่นิดๆ แต่ให้มันดูเซ็กซี่แบบดูมีอะไรหน่อย ไม่ได้แบบโจ่งแจ้งให้มันดูน่าเกลียด คือ ตอนนี้เรามีทีมเข้ามาดูแลเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมด้วยค่ะ เมื่อก่อนเราไม่รู้ไง มีอะไรใส่เราก็ใส่ๆ ไป เราไม่มีคนมาดูแลเรื่องตรงนี้ ตอนนี้พอมีคนมาดูแล มันดูดีขึ้น
เราก็บอกความต้องการพี่เขาว่าเราอยากได้ลุคที่ไม่ทิ้งตัวเรานะ แต่ให้มันดูเป็นงานเป็นการมากขึ้น ดูให้มันไม่น่าเกลียด แฟนๆ ก็ชอบกัน ก็มีแฟนคลับใหม่ๆ เข้ามาเยอะนะคะ เหมือนแต่ก่อนไม่ชอบเรา พอเราเปลี่ยนปรับลุคกลับมาชอบเราก็มี”
ไม่อึดอัดที่ต้องเปลี่ยนลุค ส่วนตัวได้ทุกสไตล์ไม่ติด ดีใจเมื่อก่อนคนเกลียดตนเยอะเพราะนุ่งสั้นแต่พอปรับลุคแล้วแฟนคลับเพิ่มขึ้น
“ไม่ค่ะ เราได้หมดอยู่แล้ว อยู่ที่ว่างานไหนเราควรแต่งแบบไหนมากกว่า เราสบายๆ อยู่แล้ว ก็ดีใจนะจากเมื่อก่อนที่มีคนเกลียดเราที่เรานุ่งสั้น แต่ตอนนี้เขากลับมาชอบเราแล้ว เมื่อก่อนเราไม่รู้ว่าจะมีคนรู้จักเรา เมื่อก่อนเราแค่ร้องลานเบียร์ เราไม่คิดว่าคนจะมารู้จักเรา เราก็ทำเป็นปกติ แล้วอยู่ดีๆ คนก็มาโฟกัสเรา เราก็ทำตัวไม่ถูก ถ้าว่าเรารู้ว่าวันหนึ่งจะมีเพลงที่คนรู้จัก ก็จะดังด้วยแบบดีๆ นั่นแหละ สวยๆ (จะคีปลุกส์ตั้งแต่ลานเบียร์เลย?) เออ นี่ไม่รู้ (หัวเราะ)”
โวปรับลุคแล้วงานเยอะ แถมหลากหลายขึ้น
“ก็อย่างที่บอกว่าเปลี่ยนลุคให้มันดูดีขึ้นแต่ว่ายังคงความเซ็กซี่อยู่ อย่างคอนเสิร์ตเราก็ยังเป็นลุคกางเกงขาสั้น กางเกงส์ยีนส์บ้าง เซ็กซี่ข้างบนบ้างข้างล่างบ้างแล้วแต่วัน แต่ให้มันดูเซ็กซี่ดูเป็นศิลปะนิดนึง เราอยากให้งานมันออกมาดี ให้มันดูมีราคาหน่อย
พอปรับลุคแล้ว งานเยอะขึ้น งานหลากหลายมากขึ้น เราก็อยากหาประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วย เราก็ต้องพัฒนาตัวเอง ตอนนี้เริ่มเป็นพิธีกรหน้าใหม่ยังเกร็งๆ อยู่เพราะว่าเราไม่เคยทำพิธีกรมาก่อน ได้แม่ตั๊ก (ศิริพร อยู่ยอด) กับพี่พู่ (ธัณย์สิตา สุวัชราธนากิตติ์) คอยสอนตลอด ซึ่งงานก็อยากทำทุกๆ อย่างเลย อย่างงานละครเราจะแบ่งเป็นจันทร์ อังคาร พุธ ถ่ายช่วงกลางวันอยู่แล้ว เราก็สามารถรับคอนเสิร์ตได้ตอนกลางคืน”
ส่วนความสัมพันธ์กับ “อาม ชุติมา” ที่กลับมาดีกันแล้ว แต่หลายคนยังมองว่าเป็นการแสดง หน้ากล้องคุยกันยิ้มให้กัน แต่หลังกล้องเจ้าของค่าย “ประจักษ์ชัย ไหทองคำ” ยังโพสต์ว่าอาม เรื่องนี้ลำไยเผยลำบากใจเพราะเป็นคนกลาง ส่วนตัวไม่มีปัญหากับใครมาตั้งแต่แรก
“คือ ลำไยกับน้องไม่เคยมีปัญหากันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ส่วนทางค่ายเราไม่รู้ว่ายังไง เราคนกลางไงคะ กับอาจารย์เราก็ปกติ กับน้องเราก็ปกติ ซึ่งระหว่างเขาสองคนเราก็ไม่รู้อยู่แล้วเพราะเราไม่ได้เอาตัวเองเข้าไปแทรกว่า เอ้ย เป็นอะไร เราไม่ยุ่งอยู่แล้ว เราก็อยากจะรักษาความสัมพันธ์ทั้งสองฝั่งเราเองก็เป็นคนกลางเหมือนเข้าใจทั้งคู่
ยอมรับว่า ช่วงแรกๆ ลำบากใจค่ะเราคนกลาง เพราะว่าเราเองก็ทั้งแฟนเพลงก็ประดังมาที่เราด้วย เราอยากจะบอกว่า อุ้ย สิไปทางได๋กะบ่ได้ มันอยู่ตรงกลาง มันอยู่หม่องกลาง (หัวเราะ) สิไปทางนี้กะบ่ได้ มันก็ไม่ได้ใช่ไหมคะ เราก็ต้องพยายามทำตัวให้เป็นกลางที่สุด ก็ให้เขาคุยกันเองดีกว่า เพราะเราเองเป็นคนนอกด้วย มันเป็นเรื่องระหว่างอาจารย์กับน้องด้วย”
โอดที่ผ่านมาโดนต่อว่าแต่ไม่เคยเล่าให้ทั้ง “อาม” หรือ “อาจารย์ประจักษ์ชัย” ได้รู้ ทำตัวไม่ถูกจะไปทางไหนก็น่าเกลียด
“ไม่ค่ะ เพราะเราเข้าใจว่าเขาไม่รู้ไง เลยคิดว่าถ้าเป็นเราในมุมคนดู ทำไมคุณไม่ออกมาปกป้องน้อง ทำไมคุณไม่พูดถึงอาจารย์ คือเขาไม่รู้ว่าจริงๆ เราทำตัวไม่ถูกไง เราจะไปทางนี้ก็น่าเกลียด จะไปทางนี้ก็น่าเกลียด น้องก็ยังเป็นน้อง เราก็ยังคุยกันปกติแต่เราก็ยังอยู่ในค่ายจะทำยังไงดีล่ะ เราก็อยู่เฉยๆ ดีกว่า แต่เรากับน้องก็ไม่มีปัญหา
ก็คิดว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไปค่ะ ไม่เป็นไร เราเองก็อยู่แค่มุมของเราดีกว่า เราทำอะไรไปมันยิ่งจะบานปลายไปกันใหญ่”
โต้ “ประจักษ์ชัย” ห้ามตนไม่ให้ร่วมงานหรือพูดถึง “อาม” อีก
“ก็ไม่นะคะ เพราะอาจารย์เขาก็รู้ว่าเรากับน้องก็ปกติกันอยู่แล้ว ส่วนเรื่องที่เขาไม่ถูกกันก็เป็นส่วนของทางอาจารย์กับน้องไป ส่วนทางเราอาจารย์ก็จะไม่ได้มายุ่งเรื่องนี้ด้วย ไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัว เรากับอาจารย์จะคุยกันแค่เรื่องงานว่าเราทำอะไรกันบ้าง อาจารย์จะส่งงานให้ว่า วันนีเราทำอะไร ส่วนเรื่องส่วนตัวก็ต่างคนต่างอยู่
คนเขาไม่เข้าใจเราก็อธิบายให้เขาเข้าใจ เราก็อธิบายในส่วนของเราที่เรารู้ ตรงไหนที่เราไม่ได้เข้าไปยุ่ง เราก็บอกว่าเราไม่รู้ค่ะ ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่ต้องโพสต์กันทั้งสองดีกว่า นี่ไงๆ คนตอบคำถาม อย่าโพสต์กันทั้งสองคนเลย ไม่ต้องโพสต์นะ (หัวเราะ) เป็นคนกลางมันเหนื่อยใจ ไม่รู้จะเลือกใครไง สวย มันสองคน”
ลั่นตนสามารถนัดทานข้าวไกล่เกลี่ยพร้อมกันทั้ง “อาม” และ “อาจารย์ประจักษ์ชัย” ได้ แต่ไม่รู้ทั้งคู่จะยินดีร่วมโต๊ะเดียวกันหรือเปล่า
“เราไม่ติดใจกับใครอยู่แล้วไง สบายๆ แต่ว่าสองคนนั้นได้ไหมล่ะ แต่ถ้าให้ไปกินข้าวกับใครเราไปอยู่แล้ว กับน้องก็ปกติมีนัดกันคุยกันปกติอยู่แล้ว กับอาจารย์ก็ปกติ แต่ถ้าสามคนไม่รู้นะ เราได้นะ แต่เขาไม่รู้”